- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Sunday, 08 March 2015 22:37
- Hits: 3782
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ ว่าที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้ปรับปรุง ทบทวน และพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นั้น สพฐ.โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาได้ดำเนินการจัดทำ Road Map แผนการทบทวนและปรับปรุงหลักสูตร เสนอต่อคณะอนุกรรมการด้านมาตรฐานการศึกษา ในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณาใน 2 รูปแบบ คือ 1) ปรับตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตรเต็มรูปแบบ หรือ 2) ปรับปรุงบางส่วนจากหลักสูตรฯ พ.ศ.2551
ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นตรงกันว่า ควรปรับหลักสูตรบางส่วนก่อน โดยเริ่มจากระดับปฐมวัยและช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3) ควบคู่ไปกับการพัฒนาหนังสือเรียน เพราะจะดำเนินการได้เร็วและคล่องตัวกว่าการปรับทั้งหมดในภาพรวม ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในระดับปฐมวัยซึ่งมีความสำคัญมาก จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงพัฒนาการตามช่วงวัยที่เหมาะสมและกำหนดผลผลิตที่ต้องการอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ได้เสนอแนะให้เชื่อมโยงผลสำรวจออนไลน์ของ สพฐ. กับการดำเนินการของคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรียนรู้ ซึ่งมีนางสิริกร มณีรินทร์ เป็นประธาน เพื่อนำข้อมูลความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานข้อมูลหนังสือเรียนที่ใช้ในสถานศึกษาตามที่ สพฐ.เสนอ ซึ่งการจัดทำหนังสือเรียนฉบับกระทรวงศึกษาธิการ มีหน่วยงานรับผิดชอบจัดทำ 2 หน่วยงาน คือ สพฐ. รับผิดชอบ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รับผิดชอบ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ขณะนี้ได้จัดทำต้นฉบับหนังสือเรียนปีการศึกษา 2558 เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดส่งให้องค์การค้าของ สกสค.เป็นผู้จัดพิมพ์จำหน่ายต่อไป ส่วนการกำหนดราคาจำหน่ายจะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณาราคาจำหน่ายสื่อการเรียนรู้ของ สพฐ. ต่อไป ซึ่งเห็นว่าในปีงบประมาณนี้ยังคงจำหน่ายในราคาเดิม
ในส่วนของการตรวจประเมินคุณภาพหนังสือของสำนักพิมพ์เอกชน สามารถดำเนินการได้ทั้งก่อนและหลังจัดจำหน่าย ซึ่ง สพฐ.ได้มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินคุณภาพ เพื่อให้ได้ต้นฉบับที่ถูกต้อง สมบูรณ์ สอดคล้องกับหลักสูตร ก่อนที่จะออกใบอนุญาตให้ใช้ในสถานศึกษาโดยสำนักพิมพ์สามารถกำหนดราคาจำหน่ายหนังสือได้เองตามกลไกและภาวะต้นทุนการผลิต
สำหรับการจัดทำบัญชีรายชื่อสื่อการเรียนรู้และการจัดซื้อ ตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เรียนฟรี) สพฐ.ได้จัดทำบัญชีกำหนดสื่อการเรียนรู้ของกระทรวงศึกษาธิการและเอกชนสำหรับเลือกใช้ในสถานศึกษา เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (http://academic.obec.go.th) และเว็บไซต์ สพฐ. (www.obec.go.th) ซึ่งจะแสดงรายชื่อ ภาพปก ขนาดรูปเล่ม ลักษณะการพิมพ์ น้ำหนักกระดาษ สารบัญ ตัวอย่างบทที่ 1 และราคาจำหน่าย ทั้งนี้ สถานศึกษาสามารถเลือกใช้หนังสือได้อย่างเสรี โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาและภาคี 4 ฝ่าย ได้แก่ ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนชุมชน และผู้แทนกรรมการนักเรียน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้สำนักพิมพ์เอกชนหลายแห่งมีใบอนุญาตครบ 5 ปีแล้ว และได้ขอส่งต้นฉบับตรวจสอบเพื่อขอใบอนุญาตฉบับใหม่ รวมทั้งฉบับที่เปลี่ยนในประกันคุณภาพของสำนักพิมพ์เป็นใบอนุญาตให้ใช้ในสถานศึกษาของ สพฐ.ในการขึ้นบัญชีในปีการศึกษา 2558 มีการปรับราคาจำหน่าย สพฐ.จึงได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักพิมพ์เอกชนเพื่อให้ตรึงราคาจำหน่าย และมีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเกี่ยวกับการปรับราคาหนังสือเรียนบางรายการ ขอให้สถานศึกษาพิจารณาจัดซื้อหนังสือโดยเปรียบเทียบกับราคาเดิม ความเหมาะสมของเนื้อหา รูปแบบการพิมพ์ และคุณภาพของหนังสือ และจัดให้เพียงพอแก่นักเรียนทุกคนทุกชั้นให้ครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งให้คำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสมตามงบประมาณที่ได้รับด้วย
นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน