WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1099 NXPO

‘เศรษฐา’ นั่งหัวโต๊ะประชุมสภานโยบาย อววน. ย้ำเร่งยกระดับการศึกษา ผลิตบุคลากรทักษะสูง รองรับอุตสาหกรรมอนาคต หนุนปั้นธุรกิจสตาร์ทอัพ พร้อมเคาะกรอบวงเงินด้าน อววน. ปี 68 รวม 1.5 แสนล้านบาท

          เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สภานโยบาย) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.) รองประธานคนที่หนึ่ง และ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รองประธานคนที่สอง พร้อมด้วยรัฐมนตรี ผู้บริหารจากกระทรวง หน่วยงานต่างๆ และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

          ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการสภานโยบาย กล่าวภายหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ของประเทศไทยที่กำลังเผชิญปัญหาต่างๆ ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับยกระดับการศึกษา โดยมุ่งพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักในการเสริมสร้างแรงงานที่มีทักษะสูง สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน และยังช่วยสร้างอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ที่จะเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ ช่วยยกระดับรายได้ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

          นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ต้องมีความรู้เชิงลึก เชื่อว่ามียูนิคอร์นจำนวนมากที่รอคอยการถูกค้นพบในมหาวิทยาลัย หากได้รับการบ่มเพาะทักษะที่เหมาะสม เชื่อว่าจะก่อให้เกิดผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูงอีกมาก นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยต้องสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) ก่อให้เกิดการ upskill reskill ในทุกระดับ โดยได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญมากกับประเด็นด้านการศึกษา ฝากให้มหาวิทยาลัยปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และความต้องการของตลาดแรงงาน

          ในด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) รัฐบาลมุ่งเน้นให้เกิดงานวิจัยที่ตรงกับนโยบายรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไฮโดรเจน พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว ปัญญาประดิษฐ์ การคำนวณเชิงควอนตัม เทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เทคโนโลยีการวิจัยเรื่องอาหารแห่งอนาคต โดยกองทุนที่มีอยู่จะเข้าไปสนับสนุนกลายเป็นสปริงบอร์ดที่ติดจรวดสร้างความเติบโตให้กับประเทศได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำให้ทุกคนช่วยกันระดมความคิด ทำรายละเอียดออกมาเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพื่อให้ประเทศเราพัฒนาเติบโตไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกัน 

          ทั้งนี้ ในการประชุมสภานโยบาย ที่ประชุมยังได้พิจารณาเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษา ปี 2568 จำนวน 108,149.7273 ล้านบาท และด้าน ววน. จำนวน 42,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 150,149.7273 บาท โดยจะครอบคลุมทั้งในส่วนการพัฒนาบุคลากร พัฒนาความเป็นเลิศของมหาวิทยาลัย รวมถึงเป็นงบประมาณด้านการวิจัย นวัตกรรม และโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

 

ขอบคุณภาพจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

 

 

1099

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

SME 720x100 66

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

QIC 720x100

TOA 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

gen 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!