- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Sunday, 01 June 2014 20:31
- Hits: 5665
ไทย-นิวซีแลนด์ ขยายความร่วมมือด้านการศึกษาอัดฉีดทุนการศึกษาและโครงการความร่วมมือระหว่างเมืองไครสต์เชิร์ช และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ระยอง และชลบุรี เผยจุดเด่น ไครสต์เชิร์ช 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดของโลกพร้อมโอกาสทางการศึกษามากมาย
การศึกษานิวซีแลนด์ ภายใต้สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย นำคณะผู้ให้บริการด้านการศึกษา 11 รายจากเมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ และผู้บริหารโรงเรียนมัธยมปลายในเขตจังหวัดระยอง-ชลบุรี 13 แห่ง เข้าหารือและร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างเมืองไครสต์เชิร์ชและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 (ชลบุรี-ระยอง) โดยมุ่งขยายโอกาสผ่านการให้ทุนการศึกษา โครงการความร่วมมือต่างๆ ตลอดจนสิทธิพิเศษแก่นักเรียนไทย พร้อมผลักดันและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคคลากรทั้งครู อาจารย์ นักเรียน เพื่อยกระดับการศึกษาแก่เด็กนักเรียนไทย และพัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ หวังหน้าขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดต่างๆ อีกทั้งยังตอกย้ำเมืองไครสต์เชิร์ช ที่โดดเด่นด้านโอกาสการศึกษาและคว้าตำแหน่ง 1 ใน10 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลก
นางสาวเกวลิน เลิศรัศมีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านการศึกษา ประเทศไทย การศึกษานิวซีแลนด์ สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ประเทศนิวซีแลนด์ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างเมืองไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนด้านองค์ความรู้ บุคคลากร และสนับสนุนด้านทุน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ สำหรับในภูมิภาคอาเซียนประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จมาก มีโรงเรียนที่ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงแล้วมากกว่า 50 โรงเรียน ในปีที่ผ่านมา (2556) สามารถส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยน ณ ประเทศนิวซีแลนด์จำนวนมากกว่า 200 คน ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างเมืองต่างๆ ของนิวซีแลนด์ อาทิ ไครสต์เชิร์ช ทารานากิ ริชมอนด์ โอคแลนด์ เซาท์แลนด์ เป็นต้น และประเทศไทย มีโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ เข้าร่วม อาทิ กรุงเทพ และปริมณฑล เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร กาญจนบุรี ลพบุรี ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู สมุทรสาคร ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ ระยอง และชลบุรี
การจับคู่โรงเรียนในกลุ่มเมืองไครสต์เชิร์ช กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 ในครั้งนี้ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 15 โรงเรียน ความร่วมมือจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 การเปิดโอกาสให้นักเรียนไทยเลือกเดินทางไปเรียนภาคเรียนปกติที่นิวซีแลนด์แล้วสามารถโอนหน่วยกิตและสำเร็จการศึกษาในระบบของไทยได้ ระดับที่ 2 การส่งครู อาจารย์ ของไทยไปศึกษาเรียนรู้แนวทางการเรียนการสอนและนำกลับมาพัฒนาในชั้นเรียน รวมถึงการได้รับทุนการศึกษาไปศึกษาสาขาด้านการสอนโดยเฉพาะ และระดับที่ 3 จะเป็นการส่งนักศึกษาด้านศึกษาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ สาขาการสอน มาแลกเปลี่ยนและฝึกสอนในชั้นเรียนปกติให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับ ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเมืองไครสต์เชิร์ชและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2556 และได้พัฒนาต่อยอดความคิดกับโรงเรียนในจังหวัดทั้งสอง ภายใต้ข้อตกลงนี้ นอกจากนักเรียนไทยสามารถสมัครเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมที่เข้าร่วมโครงการโดยเสียค่าเล่าเรียนในอัตราคงที่พิเศษแล้ว ยังได้จัดเตรียมทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยจำนวนมาก
กัส เฟย์ ผู้จัดการโครงการการศึกษาไครสต์เชิร์ช เปิดเผยว่า มีทุนการศึกษาใหม่สำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการศึกษาต่อในเมืองไครสต์เชิร์ชจำนวนมาก อาทิ สถาบันเทคโนโลยีไครสต์เชิร์ชโปลีเทคนิคจะมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวนสำหรับนักเรียนจากจังหวัดระยอง-ชลบุรีโดยเฉพาะ สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีทุก 3 คนที่สมัครเรียน
"ทุนการศึกษาประเภทนี้มอบให้นอกเหนือไปจากอัตราค่าเล่าเรียนคงที่พิเศษสำหรับนักศึกษาที่กำลังเรียนในโรงเรียนในเมืองไครสต์เชิร์ชที่เข้าร่วมโครงการ และทุนการศึกษาก็มีอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงทุนเรียนภาษาอังกฤษ 12 สัปดาห์ จำนวน 5 ทุนที่มหาวิทยาลัยลินคอล์น (Lincoln University) จัดไว้ให้แก่นักเรียนไทยโดยเฉพาะ และทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแคนเทอร์เบอรีอีก 24 ทุน ทุนละ 20,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์"
“คณะผู้แทนที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ประกอบด้วย ตัวแทนสถาบันการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการจากหลายประเทศ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งเริ่มจากลงนามโดยโรงเรียนมัธยมต้นในแคนเทอร์เบอรี่ 7 แห่ง กับโรงเรียนมัธยมปลายในเขตจังหวัดระยอง-ชลบุรี 13 แห่ง นอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลงระหว่างเมืองไครสต์เชิร์ชและชลบุรี-ระยอง ยังจะมีการหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างข้อตกลงร่วมกัน โดยบรรจุโรงเรียนและผู้ให้บริการการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเพิ่มเติม และการสำรวจโครงการฝึกอบรมใหม่ๆ ด้านการเรียนการสอนที่เป็นไปได้สำหรับครูผู้สอนชาวไทยอีกด้วย” นางสาวเกวลิน กล่าวเสริม
เกล็นดา สโตน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียนต่างชาติของโรงเรียนมัธยมลินคอล์น ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “การมาเยือนครั้งนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างศิษย์เก่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจ
“เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้บริหารโรงเรียนไทยตั้งใจจะส่งบุตรหลานและนักเรียนของพวกเขาไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เรื่องสำคัญที่สุด คือ การดูแลเอาใจใส่และคุณภาพของ การศึกษาที่จัดไว้ให้ ที่ไครสต์เชิร์ช นักเรียนจะได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือเป็นอย่างดีทั้งที่โรงเรียนและโฮมสเตย์ที่พวกเขาเลือกไปพักอาศัย"
ไครสต์เชิร์ช: โอกาสทางการศึกษามากมาย ณ 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดของโลก
ในปีที่ผ่านมา Lonely Planet เลือกให้ไครสต์เชิร์ช เป็น 1 ใน 10 เมืองที่น่าไปเยือนที่สุดในโลก มีโรงเรียนที่มีคุณภาพหลายแห่ง มหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ 2 แห่ง และสถาบันอาชีวะศึกษาที่มีคุณภาพสูงอีกหลายแห่ง
เมืองไครสต์เชิร์ชเป็นแหล่งรวมโอกาสมากมายในด้านการศึกษาและการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญที่เมืองนี้กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนชั้นนำ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ และสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยให้เลือกหลายแห่ง ซึ่งล้วนแต่มีศักยภาพในการจัดหลักสูตรการศึกษาเฉพาะด้านอย่างครบครัน บนทำเลที่ตั้งทั้งในชนบทและในเมืองไครสต์เชิร์ช
เมื่อเร็วๆ นี้ มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ คือ มหาวิทยาลัยแห่งแคนเทอร์เบอรี (University of Canterbury) เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศนิวซีแลนด์ที่เข้าร่วมเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาในภูมิภาคเอเชียและประเทศญี่ปุ่น (Academic Consortium 21 หรือ AC21) กับอีกหลายมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรในระดับโลก โอกาสในการวิจัย และโครงการด้านการเรียนรู้ในชุมชนทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้มีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เข้าร่วมด้วย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองไครสต์เชิร์ช ได้ที่ http://www.christchurchnz.com/new-zealand