- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Tuesday, 20 December 2022 23:49
- Hits: 5797
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้คำแนะนำเสริมศักยภาพนักศึกษาไทยในการเรียนและประกอบอาชีพด้านแพทยศาสตร์
นักศึกษาแพทย์มักไทยส่วนใหญ่มักสงสัยว่าการเริ่มต้นประกอบวิชาชีพแพทย์ในสหรัฐอเมริกาจะต้องเผชิญกับประสบการณ์อย่างไร การเรียนในคณะแพทยศาสตร์ การได้รับจับคู่เพื่อเป็นแพทย์ประจำบ้านและการเรียนสาขาแพทยศาสตร์ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ผู้คนไม่ค่อยเข้าใจ เราได้ขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แบ่งปันประสบการณ์จากคณะแพทยศาสตร์และโลกของการทำงาน เพื่อช่วยไขข้อข้องใจว่าการเริ่มต้นวิชาชีพแพทย์จะต้องประสบกับอะไรบ้าง
1. การเป็นนักศึกษาแพทย์ต้องทำงานหนักเท่าๆ กับการทำงานประจำ
ก่อนหน้าที่จะเป็นนักศึกษาแพทย์หลายคนอาจคุ้นเคยกับการต้องบริหารเวลาระหว่างการทำงานพาร์ทไทม์และการเรียน แต่การเป็นนักศึกษาแพทย์ให้ได้ผลดีที่สุดคุณควรที่จะให้ความสนใจกับการเล่าเรียนเป็นหลัก ดร.เจนย่า คามินสกี้ ผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University: SGU) ประเทศเกรนาดา ซึ่งในปัจจุบันเป็นแพทย์ประจำบ้านแผนกฉุกเฉินของ Nazareth Hospital ที่รัฐฟิลเดเฟียสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากคุณจะไม่สามารถทำงานไปพร้อมกับการเรียนในโรงเรียนแพทยศาสตร์ที่หนักหน่วง”
แต่ข้อดีสำหรับนักเรียนของ SGU คือสามารถเข้าถึงการสนับสนุนหลากหลายรูปแบบจากช่องทางโดยทั่วไปของหลักสูตรการศึกษาแพทยศาสตร์เช่น การเรียนตัวต่อตัวที่เจาะลึกในแต่ละหัวข้อและกลุ่มสนทนาย่อย นอกจากนั้นยังสามารถใช้บริการอื่นๆ ได้
2. คุณจะได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมายจากการประกอบวิชาชีพแพทย์
การรักษาผู้ป่วยที่มีความเป็นมาหลากหลายเป็นประสบการณ์สำคัญที่จะได้รับจากวิชาชีพแพทยศาสตร์นักเรียนแพทย์ที่ศึกษาในสถาบันที่มีนโยบายมุ่งเน้นสนับสนุนความหลากหลายด้านสาธารณสุขอาจจะได้เปรียบในด้านนี้ จากฐานข้อมูลผู้ที่ได้รับปริญญาแพทยศาสตร์ในช่วงปีพ.ศ. 2524 ถึง 2559 SGU ผลิตแพทย์กว่า 20,000 คน ซึ่งมี 470 คนมาจากเอเชียในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ในปัจจุบันมีนักเรียน 30 คนจากประเทศไทยที่กำลังศึกษาวิชาแพทยศาสตร์กับ SGU
ดร. เจเรมี่ เมดเดอร์ ผู้จบการศึกษาจาก SGU ในปัจจุบันเป็นประจำแผนกอายุรกรรมที่ Spectrum Health ในเขตมิชิแกนตะวันตก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการเรียนที่ SGU ทำให้รู้จักเพื่อนจากทั่วทุกมุมโลก
“คุณจะได้พบในที่หลากหลายและทำให้มุมมองที่มีต่อชีวิตและสิ่งต่างๆเปลี่ยนไป และนี่มีความสำคัญในการรักษาผู้ป่วย” ข้อนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นเท่านั้น งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าบุคลากรสาธารณสุขมีประสบการณ์หลากหลายจะรักษาผู้ป่วยได้ผลสัมฤทธิ์ดีกว่า
3. คุณต้องชั่งน้ำหนักหลายๆ ด้านเมื่อจะเลือกสาขาเฉพาะทาง
การเลือกเรียนในสาขาที่คุณมีความสนใจเป็นพิเศษนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งแต่คุณจะต้องพิจารณาด้วยว่าคุณมองอนาคตตัวเองอย่างไร ตารางชีวิตที่คุณต้องการเป็นอย่างไรและคุณมีความรับผิดชอบอื่นที่ต้องดูแลอีกหรือไม่ ดร.คามินสกี้ ชี้ว่าการเลือกเรียนสาขาเฉพาะทางเช่นศัลยกรรมที่ต้องใช้เวลามากอาจไม่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการมีลูก
“คำถามคือไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการเป็นอย่างไร และมีความสำคัญมากแค่ไหนสำหรับคุณ ท้ายที่สุดการเลือกนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล” ดร.คามินสกี้ กล่าวเสริมว่าการได้พูดคุยกับอดีตนักศึกษาจาก SGU เพื่อฟังมุมมองเกี่ยวกับสาขาเฉพาะทางเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจว่าการเป็นแพทย์ฉุกเฉินเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับเธอ
4. คุณจะได้สร้างและกระชับความสัมพันธ์
แม้แต่บุคคลที่ให้ความสนใจกับการทำงานมากกว่าเรื่องอื่น ก็จะมีเพื่อนสนิทตลอดชีวิตจากคณะแพทยศาสตร์และการเป็นแพทย์ประจำบ้าน การมีประสบการณ์ร่วมกันในการเรียน การสอบใบอนุญาตวิชาชีพ การสลับเวรการรักษา และการเป็นแพทย์ในพำนักจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างนักเรียน
ดร.คามินสกี้ กล่าวว่า “ฉันได้ใช้เวลาร่วมกับกลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม พวกเขามาจากที่ต่างๆ ทั่วโลก มีเป้าหมายเดียวกัน และยึดถือคุณค่าคล้ายๆ กัน” สำหรับนักศึกษา SGU สิ่งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมชั้น ดร. เมดเดอร์ กล่าวว่าเขาชอบทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่อาหารไปจนถึงวัฒนธรรมของเกาะคาริบเบียน “ผมหวังที่จะได้กลับไปยัง คาริบเบียน อีกในอนาคตกับเพื่อนๆ ที่นั่นเป็นที่ที่สุดพิเศษ”
5. คุณจะพบว่าคุณสามารถทำได้มากกว่าที่คุณคิดไว้
นักศึกษาแพทย์เกือบทุกคนตระหนักดีว่าการเรียนแพทยศาสตร์เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่อย่างไรก็ดีที่น่าประหลาดใจคือการที่ตระหนักว่าสามารถที่จะผลักดันตัวเองให้ทำได้มากกว่าที่คิด
6. คุณจะเรียนรู้ได้ดีขึ้นกว่าเดิมจากการเรียนคณะแพทยศาสตร์
แพทยศาสตร์เป็นสาขาวิชาชีพหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้มีความสนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ที่จริงแพทยศาสตร์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ดร. เมดเดอร์ กล่าวว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงการศึกษาปี 3 และปี 4 เทียบไม่ได้เลยสิ่งที่ได้เรียนรู้การประกอบวิชาชีพ” นี่เป็นเรื่องใหญ่เพราะการเป็นแพทย์ประจำบ้านมีความรับผิดชอบสูงกว่ามากนัก
ดร.คามินสกี้ กล่าวว่า “ความรับผิดชอบในฐานะแพทย์ประจำบ้านเมื่อเทียบกับความรับผิดชอบในฐานะนักศึกษาแล้วมากกว่าเป็นหลายเท่า แม้การเซ็นคำสั่งในการรักษาและการจ่ายยาอยู่ภายใต้การควบคุมการดูแล แต่อย่างไรก็ตามคุณเป็นผู้กำหนดทางเลือกและคำวินิจฉัยในการรักษาผู้ป่วย”
7. เพื่อนและครอบครัวจะเริ่มขอคำแนะนำจากคุณ
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญประการหนึ่งเมื่อคุณกำลังเริ่มต้นวิชาชีพแพทย์คือการที่ผู้เป็นที่รักขอคำแนะนำด้านการแพทย์จากคุณ แม้สมาชิกในครอบครัวไม่เคยถามความเห็นของคุณเกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วย ตอนนี้พวกเขาอาจพบว่ามุมมองของคุณมีความสำคัญ
ดร.คามินสกี้ กล่าวว่า “คุณจะมีบทบาทในการให้ความรู้อย่างแน่นอนเพราะพวกเขาจากมองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้
8. การเป็นคนดีมีความสำคัญเท่ากับการเป็นแพทย์ที่เก่ง
ความเชื่อมโยงระหว่างมือและสายตาที่เยี่ยมยอด ความละเอียดในการมองสถานการณ์ และความสามารถในการบริหารเวลาอย่างไร้ที่ติ เป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งของแพทย์ แต่ความสามารถในเชิงเทคนิคเหล่านี้ทำให้คุณก้าวหน้าในวิชาชีพได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและความสามารถในการให้ความอุ่นใจกับผู้ป่วย
SGU มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้นักศึกษาแพทย์ไทยที่สนใจประกอบวิชาชีพด้านแพทยศาสตร์ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกามีความเข้าใจสิ่งที่จำเป็นในการประกอบวิชาชีพแพทย์ และให้การสนับสนุนนักศึกษาในกระบวนการตัดสินใจ ตัวแทนของ SGU ในประเทศไทยพร้อมที่จะให้คำแนะนำและตอบคำถามจากนักเรียนไทย คณะแพทยศาสตร์ SGU เปิดภาคการศึกษา เดือนมกราคม เมษายน และสิงหาคม
A12822