- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Monday, 28 February 2022 20:39
- Hits: 1684
'ตรีนุช' ชู วก.ปากท่อ ต้นแบบดึงเด็กกลับมาเรียน
เสมา1 นำทีมผู้บริหาร ศธ.ลงพื้นที่ราชบุรี ติดตามโครงการ'อาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ' พบวิทยาลัยการอาชีพปากท่อ 2 ปี เด็กพุ่งเกิน 100% พร้อมเดินสายปลุกสถานศึกษาปลอดภัย ชี้ปัญหาส่วนใหญ่เด็กบูลลี่กัน
ที่ จังหวัดราชบุรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการ รมว.ศธ. และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการอาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนเพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ หรือ 'อาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ' ที่วิทยาลัยการอาชีพ (วก.) ปากท่อ และ เปิดงาน Kick-off สถานศึกษาปลอดภัยจังหวัดราชบุรี ที่โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ เพื่อกระตุ้นให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยของทุกคน
โดยนางสาวตรีนุช ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่า โครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ เป็นโครงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญตามนโยบายเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเด็กตกหล่น ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียน-การเดินทาง ดังนั้นรัฐบาลจึงมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ดำเนินโครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ เพื่อช่วยเหลือเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษามาเรียนฟรี 3 ปี และมีที่พักอาศัยให้
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจเยี่ยมพบว่า วิทยาลัยการอาชีพปากท่อ สามารถนำเพิ่มจำนวนเด็กจาก ปีการศึกษา 2562 ที่มีประมาณ 60 คน เป็น 631 คน ในปีการศึกษา 2564 ซึ่งปริมาณผู้เรียนที่เพิ่มขึ้นมาจากการแนะแนวตามโรงเรียนชายขอบ ในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง อ.บ้านคา อ.โป่งกระทิง และ อ.เบิกไพร เป็นอำเภอที่มีระยะทางห่างจากวิทยาลัยประมาณ 50-60 กิโลเมตร
โดยวิทยาลัยมีสวัสดิการให้แก่นักเรียน อาทิ บริการรถรับ-ส่งฟรี มีบริการหอพัก ที่เป็นตึกละ 4 ชั้น แยกเป็นชาย -หญิง ที่เป็นมาตรฐานของ สอศ. ฟรีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมนอกจากนี้ยังมีงบฯเรียนฟรี 15 ปี นำมาจัดสรรเป็นชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน ฟรี และมีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อช่วยเหลือให้นักเรียน ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงประสานงานเชื่อมโยงกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการส่งต่อเด็กด้วย
"ต้องขอชื่นชมผู้บริหารที่สามารถคิดนอกกรอบและปรับเม็ดเงินที่มีอยู่มาดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่ดี อย่างไรก็ตาม ดิฉันจะนำข้อดี รวมถึงปัญหาอุปสรรคที่พบมาปรับปรุงในแผนรายละเอียดการดำเนินโครงการ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติในหลักการของโครงการแล้ว และสอศ.กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอขอความเห็นชอบการใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการต่อไป " นางสาวตรีนุช กล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะคือระยะที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่ง สอศ.ได้คัดเลือกสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 87 แห่งทั่วประเทศสามารถรับปริมาณนักเรียนเข้าร่วมโครงการได้ 5,200 คนซึ่งการมาดูความพร้อมของ ส่วนระยะที่ 2 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2566 เพิ่มสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการให้ได้ 169 แห่งทั่วประเทศสามารถสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน ทั้งสิ้น 116,000 คน
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า สำหรับการเดินสายโรดโชว์สถานศึกษาปลอดภัยจังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดที่ 4 ที่ ศธ.มาการสร้างการรับรู้ ซึ่งพบว่าสถานศึกษามีความตื่นตัวดี และจากการเปิดศูนย์ MOE SAFETY CENTER ได้รับเรื่องร้องเรียนมาประมาณ 100 กว่าเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องบูลลี่กัน และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว เหลือประมาณ 20 เรื่องซึ่งได้เร่งประสานให้แก้ไขปัญหาโดยเร็วแล้ว