- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Monday, 21 December 2020 18:53
- Hits: 1291
‘ALLY BAG’ กระเป๋าสัญชาติไทย เทียบชั้นแบรนด์นอก
ผลงานปั้นแบรนด์ของศิษย์เก่า DPU ‘เอ-ภาณุพัฒน์ แสวงหอม’
ปัจจุบันกระเป๋าหนังจากดีไซเนอร์ไทยหลายแบรนด์ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ วันนี้ เรากำลังพูดถึง ความสำเร็จของกระเป๋าหนังจากดีไซเนอร์คนไทย ที่ได้รับการตอบรับจากเซเลบริตี้ทั้งไทยและเทศ ด้วยคุณภาพของสินค้าและเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัว รูปทรงน่ารักมุ้งมิ้งในรูปแบบหน้าสัตว์ต่างๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง อาทิ น้องหมา น้องแมว กระต่าย และที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ เพนกวิน ทำให้แม้กระเป๋าจะมีราคาสูงเทียบชั้นแบรนด์หรูจากเมืองนอก แต่เหล่าเซเลบริตี้ต่างยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้ครอบครอง กระเป๋าหนังสัญชาติไทยที่กล่าวถึงนี้ คือ ALLY BAG จากฝีมือการปั้นแบรนด์ของ นายภาณุพัฒน์ แสวงหอม หรือ เอ ศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบและ ธุรกิจแฟชั่น มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU
วันนี้ พี่เอ ในฐานะรุ่นพี่ DPU มีโอกาสได้มาบอกเล่าประสบการณ์ พร้อม Coaching การสร้างไอเดียในการออกแบบกระเป๋า การสร้างแบรนด์ การสร้างจุดเด่น รวมถึงกลยุทธ์การทำตลาด ให้กับน้องๆ ถึงในมหาวิทยาลัย โดย พี่เอ เล่าถึงการเริ่มต้นการสร้างแบรนด์ ALLY BAG ว่า มีความชื่นชอบในการออกแบบตั้งแต่มัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนตัวชอบกระเป๋า จึงเลือกที่จะออกแบบกระเป๋าและผลิตออกขาย ตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 3 โดยมีแนวคิดว่า รูปแบบต้องไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมาลงตัวที่กระเป๋าทรงกลม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ถึงขนาดเกิดมีการก้อปปี้ ทำให้ เอ ต้องพัฒนาเพื่อหนีการเลียนแบบ โดยสร้างความแปลกใหม่ด้วยการออกแบบเป็นรูปหน้าสัตว์น่ารักฟรุ้งฟริ้ง อาทิ น้องหมา น้องแมว และ เพนกวิน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ขณะเดียวกันยังคงยึดหลักสินค้าต้องมีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุหนังแท้คุณภาพดี ใช้งานได้จริงและประโยชน์ใช้สอยครบ
“คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ใครก็ไม่สามารถก็อปออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บที่เราใส่ใจทุกขั้นตอน หรือ วัสดุที่เลือกนำมาประกอบกระเป๋า แต่ละชิ้นเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีได้ มาจากกำลังใจ ของ “พี่แอน ทองประสม” หนึ่งในดาราชื่อดังที่เคยถือกระเป๋าของเรา ที่บอกกับเราว่า การที่สินค้าของเราถูกก็อป เพราะของเราผ่านไปถึงขั้นที่มีคนอยากก็อปปี้ เราต้องภูมิใจมากกว่าที่จะรู้สึกไม่ดี แสดงว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว เขาถึงเลือกที่จะก็อปปี้สินค้าของเราออกมาขาย” เอเล่าถึงความรู้สึกเมื่อครั้งสินค้าถูกทำเลียนแบบ
ส่วนที่มาของแบรนด์ ALLY BAG เอ เล่าต่อว่า ในการสร้างแบรนด์สิ่งสำคัญที่อาจารย์ DPU สอน คือ ชื่อจะต้องจดจำง่าย แบรนด์ต้องมีเอกลักษณ์ ซึ่งตอนนั้นคิดไว้หลายชื่อ แต่ในที่สุดคิดว่า ชื่อสั้น จดจำง่ายและเป็นตัวตนของเรามากที่สุด คือ เอลี่ ALLY ในเฟสบุคของเราใช้ชื่อว่า เอลี่ เลยมาลงตัวที่ชื่อ ALLY BAG ชื่อสั้นๆ จดจำง่าย และเป็นตัวตนของเราที่สุด โดย ALLY BAG ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่ทำตลาด ด้วยรูปแบบที่แตกต่างบวกกับคุณภาพของสินค้า และเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนว่า เป็นเอ ของจริง คือ ต้องใส่หมวกมิกกี้เม้าท์ เป็นจุดขายอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรามีลูกค้าประจำอยู่ค่อนข้างเยอะ หลายคนก็ชื่นชอบในความเป็นตัวตนของเรา แม้แต่ศิลปินดาราหลายราย อาทิ “พลอย เฌอมาลย์” หรือแม้แต่ คู่ซี้ ดาราซูเปอร์สตาร์ อย่าง “อั้ม พัขราภา และ เมย์ เฟื่องอารมย์” หลังจากที่หลายคนสะดุดตากับความน่ารักของกระเป๋า ที่ไม่เหมือนใคร ที่เหล่าดาราชื่อดังถือ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ยอดขายแบรนด์ ALLY BAG ปังไม่หยุดมาจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 9 ปี ดังไกลถึงต่างประเทศทั้ง จีน ญี่ปุ่น อเมริกา ถึงกับที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังยังต้องมาทำเลียนแบบวางขายในห้าง แต่การก็อปของคนไทยด้วยกัน ไม่ได้น่ากลัวอะไร สำหรับเจ้าของแบรนด์ “ALLY BAG” ยังเอ่ยด้วยอารมณ์ดีว่าเป็นเรื่องน่ารักดี เพราะขายในราคาใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ทำให้ “เอ” กังวลมากที่สุด คือ การก็อปปี้จากตลาดจีน เพราะด้วยราคาแตกต่างกันมาก แต่ทำออกมาได้เกือบ 100% ทั้งยังส่งมาขายทั่วตลาดประตูน้ำและเชียงใหม่ ทำให้เขาสะดุดไปพักหนึ่ง และกังวล กับทิศทางการทำตลาดต่อจากนั้น
เอ บอกว่า ครั้งนั้น เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดสำหรับคนตั้งใจทำงานอย่างเขา แต่ก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา ส่วนหนึ่ง คือ การได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาสู้และเดินต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะเรื่องแย่ในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันให้เขาต้องพัฒนาสินค้าให้มากขึ้นไปอีกขั้น จนสินค้าก็อปปี้ก็ไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับ ALLY BAG ของแท้ พร้อมกับการมีใบรับรอง หรือ ใบเซอร์ (Certificated) ที่ออกให้กับลูกค้า และยังสร้างความต่างในการทำตลาดแบบเข้าถึงลูกค้าด้วยการเสิร์ฟกระเป๋ากันถึงที่ด้วยตัวเอง
เอบอกเคล็ดในการได้ใจลูกค้าคือต้องบริการแบบเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าราคากระเป๋าใบนั้นจะราคาเท่าใด โดยสนนราคาของ ALLY BAG เริ่มต้นที่ 25,000 บาท ไปจนถึงแพงสุด 2 แสนกว่าบาท ซึ่งเอการันตีว่าสินค้าทุกชิ้นใช้วัสดุอย่างดีและเป็นงานมาสเตอร์พีซทุกชิ้นจะไม่ซ้ำกันเพราะเป็นงานแฮนด์เมด
การก้าวมาถึง ณ จุดนี้ได้ เอ บอกขอบคุณตัวเองที่เลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพราะ ที่นี่เปิดโอกาสและมีเวทีให้เด็กได้แสดงความสามารถมากมาย ถึงแม้จะเรียนคณะศิลปกรรม สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่แนวคิดในการออกแบบ แต่มากกว่านั้น คือ การปูความรู้ด้านธุรกิจ ทำให้สร้างธุรกิจได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นนักศึกษา เพราะงานออกแบบที่ดี ไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของธุรกิจเสียทั้งหมด DPU ไม่ได้แค่สอนให้เป็นมืออาชีพด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างเดียวแล้วจบ แต่ยังต้องนำผลิตภัณฑ์นั้นออกไปสำรวจความต้องการของตลาดด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ ดังนั้น ความเป็นผู้ประกอบการจึงถูกหล่อหลอมอยู่ในตัวเขานับแต่นั้น ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่เขาบอกกับตนเองว่าคิดถูกที่เลือกเรียนที่นี่ และยังเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถสร้างแบรนด์กระเป๋า ALLY BAG โด่งดังมาได้จนถึงทุกวันนี้
A12639
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ