'ไทยพาณิชย์' ผนึกกำลัง'มหิดล' ชูความร่วมมือครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด Digital Convergence University สร้างระบบนิเวศด้านดิจิทัลมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

    ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง เดินหน้าสร้างสังคมไร้เงินสด Cashless Society ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ภายใต้โครงการ Smart University เพื่อร่วมกันบูรณาการและสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึงระบบนิเวศ (Ecosystem) ทางด้านดิจิทัล เชื่อมโยงแพลตฟอร์มการบริหารจัดการ การเรียนการสอน โครงสร้างพื้นฐาน และการใช้ชีวิตยุคดิจิทัลในมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรเตรียมความพร้อมสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society นวัตกรรมการเงินดิจิทัลที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ก้าวสู่ความเป็นต้นแบบแห่ง Digital Convergence University มุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

   ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดี กล่าวว่า “ปัจจุบันดิจิทัลเทคโนโลยีก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ในทุกภาคส่วน มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะดิจิทัลเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญต่อพันธกิจของมหาวิทยาลัยในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัย ด้านการศึกษา ด้านบริการวิชาการ รวมไปถึงการบริหารจัดการ อีกทั้งยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน มหาวิทยาลัยมหิดลไม่หยุดยั้งในการพัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัยฯ เพื่อยกระดับสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ภายใต้โครงการ Smart University ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมกันสร้างองค์ความรู้และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี สภาพแวดล้อม และด้านอื่นๆ ที่สำคัญในมหาวิทยาลัยมหิดล

      เพื่อส่งเสริมให้อาจารย์ บุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยทัดเทียมในระดับสากล ที่จะช่วยส่งเสริมให้สามารถแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถและจบการศึกษาออกไปเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป”

    นายวศิน ไสยวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด Corporate Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์และมหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านโครงการ Smart University ในครั้งนี้ ทั้งสององค์กรจะร่วมมือกันพัฒนา Ecosystem หรือระบบนิเวศด้านดิจิทัล ผ่านการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มของมหาวิทยาลัยฯ ทั้งด้านการบริหารจัดการ การเรียนการสอน โครงสร้างพื้นฐาน และการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Digital Convergence University ผ่านรูปแบบต่างๆ

      อาทิ 1) ระบบการเชื่อมต่อระหว่างวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยทั้ง 4 แห่ง (ศาลายา, กาญจนบุรี, นครสวรรค์ และอำนาจเจริญ) ผ่านโครงสร้างพื้นฐานและสื่อต่างๆ สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ พร้อมระบบ Interactive สำหรับอาจารย์และนักศึกษา 2) ระบบ MU application เพื่อรองรับสังคมการเรียนรู้แบบใหม่ และไลฟ์สไตล์ของนักศึกษา 3) ห้องสมุดมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ (Intelligence Library) คลังความรู้แห่งใหม่ที่จะนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้บริการ 4) นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกต่างๆ ในมหาวิทยาลัย อาทิ Smart ID Card บัตรประจำตัวนักศึกษาและบุคลากร, อุปกรณ์และระบบรับชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless Society), ระบบที่จอดรถ, Smart Locker

      และ One-stop service kiosk สำหรับการออกเอกสารทางการศึกษา เป็นต้น นับเป็นการสร้างมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล 4.0 ที่นอกจากจะช่วยสนับสนุนนโยบายเชิงรุกของมหาวิทยาลัยฯ ให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้ รวมถึงเป็นการขานรับนโยบาย Thailand 4.0 ของประเทศ ธนาคารมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน การบริการ และการวิจัย ของมหาวิทยาลัยมหิดลให้มุ่งสู่ความเป็นเลิศ เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ขององค์กรต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก ที่สำคัญจะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชนที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”

SCB and MU collaborate on a Digital Convergence University concept, creating a digital ecosystem to prep for status as leading international university

   Digital banking leader Siam Commercial Bank (SCB) recently inked a memorandum of understanding calling for cooperation on a “Smart University” to develop and drive a cashless society. The MOU, signed by SCB and Mahidol University (MU), aims for the two organizations to collaborate on developing a digital ecosystem connecting an administration platform, education and learning, infrastructure, and digital lifestyle at the university. SCB will support university personnel and students’ readiness for a cashless society with innovative digital financial services that are modern, secure, and convenient to prep for MU becoming a leading international model of a digital convergence university.

     Speaking about the collaboration, Mahidol University Acting President Prof. Banchong Mahaisavariya, M.D., said, “Digital technology is now playing a crucial role in change across all sectors. Mahidol University, as a leading university in Thailand, is well aware of this issue. Digital technology is crucial for the university’s mission in every aspect, be it research, education, academic services, administration, as well as everyone’s daily life. We continue developing the university’s potential to prep for becoming a leading international university. Regarding this ‘Smart University’ collaboration with SCB, we will jointly drive changes in technology, ecosystems, and other key areas at Mahidol University to encourage lecturers, personnel, and students in particular to be technologically knowledgeable and advanced at an international level, so as to promote their competitiveness at home and abroad.

     We hope our students can learn and fully benefit from innovations and serve the country as quality undergraduatesSCB Senior Executive Vice President and Head of Corporate Banking Wasin Saiyawan said, ‘As for the ‘Smart University’ collaboration between SCB and Mahidol University , we will jointly develop a digital ecosystem by connecting the university’s platforms for administration, education and learning, infrastructure, and digital lifestyles under a digital convergence concept. The digital ecosystem development will include, for example,

   1) A network connecting the university’s four campuses (Nakhon Pathom - Salaya, Kanchanaburi, Nakhon Sawan, and Amnat Charoen) with infrastructure and media for online learning and an interactive system for lecturers and students; 2) MU application for a new learning society and student lifestyles; 3) An Intelligence Library with digital technology to facilitate library services; 4) Innovations for more effective and convenient life at the university, including smart ID cards for university personnel and students, infrastructure and systems to support a cashless society, a smart parking system, smart lockers, and one-stop service kiosks for issuing academic documents, etc.

     The collaborative effort will create a new learning dimension to the 4.0 digital era, supporting the university’s proactive policy to follow its strategic plan and in line with the government's Thailand 4.0 policy. SCB is confident that this collaboration will help drive Mahidol University’s quality development of learning, academic services, and research towards excellence as a leading international university, as well as a source for learning for both internal and external organizations. Importantly, this is an example of collaboration between the public and private sectors to continuously drive leapfrogging and sustainable development.”

Click Donate Support Web