- Details
- Category: DES
- Published: Monday, 07 August 2017 19:50
- Hits: 6268
สมคิด จี้'ดีอี'เร่งคลอดดิจิทัลพาร์ค
ไทยโพสต์ : แจ้งวัฒนะ *'สมคิด' ปลื้ม รมว.ดีอี ทำงานเก่ง สั่งเร่งทำแผนดิจิทัลพาร์คอีอีซี ด้านดีอีผุดไอเดียตั้งสถาบันไอโอทีแห่งชาติ ที่แรกแห่งอาเซียน หวังดึงนักลงทุนเข้าไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังฟังการรายงานผลติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี แล้ว ต้องชื่นชมนายพิเชฐ ดุรงค เวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง และเจ้าหน้าที่ ที่ผลักดันหลายโครงการให้สำเร็จและมีประสิทธิ ภาพ โดยเฉพาะโครงการอินเทอร์ เน็ตหมู่บ้านจำนวน 24,700 หมู่ บ้าน หรือเน็ตประชารัฐ ซึ่งดำเนินงานติดตั้งเสร็จแล้วจำนวน 14,000 แห่ง ซึ่งจะถือเป็นการช่วยสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ กระทรวงดีอีควรจัดทำแผนงานรายละเอียดที่ชัดเจนว่า บริษัทที่จะเข้ามาลงทุนใน ดิจิทัลพาร์ค ไทยแลนด์ บนพื้น ที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง โดยขอให้มีสิ่งปลูกสร้างและความชัดเจนของพื้นที่โครง การเกิดขึ้นภายใน 1 ปี เพื่อให้บริษัทต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะมาตั้งสำนักงาน และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยกันพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี ที่มีบทบาทสำคัญ กับระบบเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ สมาร์ทซิตี้, อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (ไอโอที), บิ๊กดาต้า, การใช้ปัญญาประ ดิษฐ์ (เอไอ) เป็นต้น
ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเว โรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าวว่า จะเร่งจัดทำแผนงานในดิจิทัลพาร์ค ไทยแลนด์ ให้แล้วเสร็จก่อนถึง ก.ย.2560 ตามแผนงานของกระทรวงในช่วงครึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา ได้เริ่มศึกษาโครงการรายละเอียดของแผนดิจิทัลพาร์ค ไทยแลนด์เบื้องต้น จะใช้งบประ มาณ 100 ล้านบาท ใน 2 ปี จากนั้นจะลงทุนดำเนินการก่อสร้างอาคารใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่จากต่างประเทศหลายรายได้ขยายโครงการลงทุนด้านดิจิทัลในพื้นที่อีอีซีแล้ว ส่วนเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับไอโอทีนั้น กระทรวงจะจัดตั้งสถาบันไอโอทีแห่งชาติ ขึ้นเป็นแห่งแรก ในอาเซียน เพื่อส่งเสริมภาคเอกชน จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย คาดว่าจะเสนอแผนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ และเริ่มสร้างอาคารสถาบันไอโอทีได้ในช่วงปลายปี
สมคิด กำชับดีอีเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันปท. ย้ำปลายปีต้องเป็นรูปธรรมชัดเจน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ของกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ว่า ขอให้ทำโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมให้เกิดการเชื่อมโยง อาทิ โครงการเน็ตประชารัฐไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การใช้เทคโนโลยีพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การพัฒนาตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขทางไกล ให้เกิดประโยชน์และได้ผลที่เป็นรูปธรรม ให้ประชาชนและผู้ประกอบการใช้บริการได้จริง และขอให้บูรณาการทำงานระหว่างหน่วยภาครัฐและเอกชนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา
นอกจากนี้ ในการทำงานขอให้ร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนโดยย้ำว่า บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม และไปรษณีย์ไทยมีหน้าที่สำคัญมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
"ขอให้เปิดกว้างดูว่าจะเป็นพันธมิตรกับใครได้ ทำในส่วนของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลายปีนี้ขอให้เกิดความชัดเจน" นายสมคิดกล่าว
สำหรับ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเป็น ASEAN Digital Hub อาทิ การวางเคเบิ้ลใต้น้ำซึ่งจะมีการลงทุนเพิ่มในการวางสายจากสิงคโปร์ไปฮ่องกง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คำนึงถึงประโยชน์และความสามารถในการแข่งขัน
ส่วนโครงการ Digital Park ซึ่งอยู่ระหว่างการทำมาสเตอร์แพลน รองนายกรัฐมนตรีได้แนะนำให้ทำแผนลงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนจะอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง โดยขอให้มีสิ่งปลูกสร้างและความชัดเจนของพื้นที่โครงการเกิดขึ้นภายใน 1 ปี เพื่อให้บริษัทต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะมาตั้งสำนักงาน
"ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยกันพัฒนาขีดความสามารถเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับระบบเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ สมาร์ทซิตี้ ,Internet Of Thing หรือ IOT, Big Data ภาครัฐ, การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการทำธุรกิจ โดยขอให้มีความคืบหน้าในการรองรับการมาของเทคโนโลยี และการวางยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาประเทศ"นายสมคิด กล่าว
อินโฟเควสท์