- Details
- Category: DES
- Published: Sunday, 01 June 2014 19:57
- Hits: 4508
ปลัดไอซีทีสานต่อ 2 โครงการนำร่อง สมาร์ท โพรวินท์
แนวหน้า : ปลัดไอซีทีสานต่อ 2 โครงการนำร่อง สมาร์ท โพรวินท์ ขยายไอทีลงตจว.
นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบให้หน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการเร่งด่วน และแนวทางดำเนินงานนั้น ในส่วนของไอซีทีเองจะเสนอโครงการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศตามที่ได้เคยดำเนินงานมา นอกจากนี้ จะสานต่อโครงการจังหวัดต้นแบบอัจฉริยะรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือสมาร์ท โพรวินท์ (smart province) ใน 2 จังหวัดนำร่องคือ ภูเก็ต และนครนายก
กระทรวงไอซีทียังได้เตรียมปรับแผนนโยบายในโครงการสมาร์ท โพรวินซ์ เดิมมีแผนจะขยายจังหวัดต้นแบบไม่น้อย กว่า 4 จังหวัดในปี 2557 และจะเริ่มขยายไปทั่วประเทศในปี 2558 แต่จากกรณีความวุ่นวายทางการเมืองประกอบกับผลกระทบการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2558 ส่งให้กระทรวงไอซีที ต้องปรับแผนงานเดิมลง
ปลัดไอซีที กล่าวอีกว่า ในส่วนความคืบหน้า การหารือร่วมกับผู้ประกอบการที่มีโครงข่ายเชื่อมต่ออินเตอร์เนตไปต่างประเทศ (ไอไอจี) ทั้งบมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม และผู้ประกอบการเอกชนอีก 2 รายนั้น ล่าสุดจะมีการวางแผนการบูรณาการเข้าถึงเกตเวย์ที่เชื่อมต่อไปต่างประเทศร่วมกัน และเท่าที่ทราบ ทีโอที ได้เสนอโครงการขยายเกตเวย์เพิ่มเติมอีก 1 เส้นทางเพื่อกระจายความเสี่ยงหากเกิดปัญหาขัดข้องก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และจะมีการหารือร่วมกันในสัปดาห์หน้าอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม และมีเนื้อหาส่อไปในทางปลุกปั่น แตกแยกนั้น ไอซีที ไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์เหล่านั้นมาตลอด ซึ่งหลังจากนี้ก็เชื่อว่าการทำงานจะง่ายขึ้น หลังจากมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดูแล และสอดส่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเตอร์เนต โดยจัดตั้ง 3 คณะทำงาน ดังนี้ 1.คณะทำงานด้านอำนวยการ 2.คณะทำงานด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (ล็อกไฟล์) การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบการฝ่าฝืนสามารถระงับการเผยแพร่ข้อมูลนั้นๆ ได้ทันที โดยมีหัวหน้าคณะทำงาน คือ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์
และ 3.คณะทำงานด้านด้านสืบสวนสอบสวนและปรามปราม มีอำนาจสอบสวน สืบสวน และจับกุม ผู้ที่กระทำผิดนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย โดยมีผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีผู้แทนจากกองทัพบกร่วมทำงานด้วย