- Details
- Category: DES
- Published: Saturday, 02 October 2021 14:24
- Hits: 1187
กองทุนพัฒนาดิจิทัลฯอนุมัติ 46 โครงการ ได้รับทุนสนับสนุน
'ชัยวุฒิ'เป็นประธานแถลงผลพิจารณาโครงการยื่นรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ ปี 64 ตามกรอบนโยบาย 6 ด้าน เผยกลั่นกรองเข้มข้นจาก 600 กว่าโครงการ ผ่าน 46 โครงการให้ได้รับทุน รวม 2,881,456,560 บาท ชี้เป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศสู่ ‘ดิจิทัลไทยแลนด์’
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยในการแถลงข่าว การประกาศผลการพิจารณาโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งจัดโดยกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่า
การพิจารณาจัดสรรทุนเพื่อการสนับตามกรอบนโยบายการให้ทุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ทั้ง 6 ด้าน ปรากฏว่า
1.ด้าน Digital Manpower ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวางแผนการจัดการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงอายุ ได้รับอนุมัติ จำนวน 9 โครงการ
2.ด้าน Digital Health เป็นการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลทางด้านสาธารณสุข ได้รับอนุมัติ จำนวน 8 โครงการ
3.ด้าน Digital Agriculture เป็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเกษตรแบบเชิงรุก ได้รับอนุมัติ จำนวน 2 โครงการ
4.ด้าน Digital Technology เป็นการส่งเสริมการนำอุปกรณ์และระบบดิจิทัล อาทิ IoT หรือ Internet of Things มาใช้ในการบริหารจัดการภาคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ได้รับอนุมัติ จำนวน 8 โครงการ
5.ด้าน Digital Government & Infrastructure โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการออกแบบบริการภาครัฐ ได้รับอนุมัติ จำนวน 16 โครงการ
และ 6.ด้าน Digital Agenda เป็นโครงการตามนโยบายเร่งด่วน โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้รับอนุมัติ จำนวน 3 โครงการ
นายชัยวุฒิกล่าวว่า"สำหรับในปีนี้มีโครงการที่เสนอเข้ามามากกว่า 600 โครงการ ซึ่งผ่านกระบวนการพิจารณา จนได้โครงการที่เป็นประโยชน์ และตรงตามเป้าหมายของกองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ จนได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมทั้งสิ้น 46 โครงการ แบ่งเป็นโครงการวงเงินเกินกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 32 โครงการ และวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท จำนวน 14 โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้น 2,881,456,560 บาท"
นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า สำหรับโครงการที่ผ่านการอนุมัติจะเป็นโครงการที่สามารถนำไปขยายผลต่อยอด ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาทั่วประเทศ ตัวอย่างเช่น
-การจัดตั้งศูนย์การแพทย์ทางไกล Telemedicine โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อรองรับการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน ในพื้นที่ภาคเหนือ
-การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการบริหารจัดการความปลอดภัยสาธารณะ ของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี
-การจัดหาระบบและอุปกรณ์ 5G Smart City สำหรับพื้นที่ EEC
-การบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริหารเมืองเบตงอัจฉริยะ
-การพัฒนาระบบการอบรมทักษะดิจิทัลพื้นฐานที่จำเป็น และทักษะขั้นสูงเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรดิจิทัลทางการศึกษา ซึ่งจะนำไปขยายผลในมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ
-การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทั่วประทศ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร การพัฒนาระบบตรวจสอบสิทธิ การโอนสิทธิ์ให้ทายาทในพื้นที่เกษตรกรรมด้วยดิจิทัลของ สปก.
-การพัฒนาระบบการบริหารจัดการรถ Logistic Platform ของ ปณท.
-การบริหารกองทุนหมู่บ้านด้วยระบบดิจิทัล ที่มีมากกว่า 80,000 กองทุน เป็นต้น
ทั้งหมดจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น“ดิจิทัลไทยแลนด์” อย่างเต็มรูปแบบต่อไป
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ทั้ง 46 โครงการผ่านการพิจารณารายละเอียดตามหลักเกณฑ์การพิจารณาจากคณะทำงานวิเคราะห์โครงการ และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการ เพื่อให้ได้โครงการด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศที่ครอบคลุมในทุกด้าน เพื่อประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะและไม่เป็นการแสวงหากำไร โดยไม่เป็นการทำลายการแข่งขันอันพึงมีตามปกติวิสัยของกิจการภาคเอกชน
นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินงานบริหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล มีความยืดหยุ่นสูง สอดรับกับวิสัยทัศน์ของกองทุนดิจิทัลฯ ในการเป็นกองทุนชั้นนำในการผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้นการพิจารณาโครงการจึงเป็นไปอย่างเข้มข้นในทุกขั้นตอน และครอบคลุมการพัฒนาทั่วประเทศ สร้างความมั่นใจได้ว่า การพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศจะไม่กระจุกตัวอยู่เพียงเมืองหลัก แต่จะลงไปถึงระดับท้องถิ่น โดยโครงการที่ได้รับการอนุมัติยังเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปขยายผลต่อยอดการพัฒนาต่อไป
“สำหรับ การดำเนินการต่อไป ทุกโครงการที่ผ่านการอนุมัติจะเข้าสู่ขั้นตอนการเซ็นสัญญา เพื่อดำเนินโครงการตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ โดยในการนี้ทางกองทุนฯจะดำเนินการติดตามและประเมินผลการดําเนินงานโครงการ โดยจะอยู่ภายใต้หลักของความโปร่งใส และชัดเจนในทุกขั้นตอนเป็นสำคัญ ให้ผลที่ได้รับจากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ของกองทุนฯในการเป็นกองทุนชั้นนำในการผลักดัน และเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป”นางวรรณพร กล่าวตอนท้าย
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ