- Details
- Category: DES
- Published: Sunday, 26 August 2018 07:46
- Hits: 2303
นายกฯ สั่งทุกฝ่ายทบทวนจัดทำแผนขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลใหม่ หลังไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลว่า สิ่งที่กำลังดำเนินการสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ยังไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองต้องการ จึงได้แจกเอกสารกำหนดหลักการและแนวคิดของตนเองให้ทุกหน่วยงานนำไปศึกษา ทบทวน และปฎิบัติตามเพื่อจัดทำแผนใหม่ โดยต้องการคำตอบจากหลักการในเอกสารนี้ที่จะเป็นผลสรุปของการประชุมในครั้งนี้ และหากมีอะไรเพิ่มเติมขอให้แจ้งในวาระการประชุมตามลำดับ
พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจตนเองด้วย ช่วงนี้มีเรื่องราวมากมาย หนักหนาสาหัส โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างความเข้าใจ และการสร้างการรับรู้ในระดับพื้นที่ เพราะมีหลายฝ่ายยังบิดเบือนไม่หวังดีต่างๆเยอะแยะไปหมด ฉะนั้นวันนี้จึงอยากให้ทุกคนย้อนกลับไปดูว่า รัฐบาลเดินหน้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลถึงจุดไหนแล้ว และะต้องเดินต่อไปอย่างไรตามนโยบายและคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี
ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้มีการหารือการนำเลขบัตรประชาชน 13 หลักมาใช้ประโยชน์กับภาคเอกชนด้วย เพื่อช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งในวันที่ 27 ส.ค.นี้ จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการกฤษฎีกา มาหารือเพื่อวางแนวทางและออกแบบเชิงเทคนิคเพื่อให้ภาคเอกชนสามารถนำเลขบัตรประชาชน 13 หลักมาใช้ประโยชน์และสร้างความปลอดภัยในข้อมูลได้อย่างไร ซึ่งอาจจะมีการสร้างระบบโครงข่ายเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะเป็นจุด One Stop Service
ส่วนการเตรียมการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบมจ. กสท โทรคมนาคม กับบริษัท CAC ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจของจีนในวันพรุ่งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัลของประเทศและเชื่อมโยงไปโลก โดยการเพิ่มแบนด์วิธในประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มแบนด์วิธในเส้นทางใหม่ ในโครงการเส้นทางสายเศรษฐกิจหรือ’One Belt One Road’ไปที่ฮ่องกง เพื่อทำให้ไทยเป็นเกตเวย์ในกลุ่มประเทศ CLMVT เชื่อมกับ One Belt One Road ด้วย และประโยชน์ในด้านการค้า การลงทุนและการติดต่อสื่อสารด้วย
โดยจะเป็นวางระบบเคเบิลใต้น้ำจากอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปยังฮ่องกง โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 2-3 ปี และดำเนินการภายใต้งบประมาณในโครงการขยายเกตเวย์ไปยังต่างประเทศด้วยงบประมาณ 5,000 ล้าน
สำหรับ ความคืบหน้าการพัฒนาสู่ 5G เป็นการลงทุนจากภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ โดยทางกระทรวงได้มีการทำสนามทดสอบ 5 จีที่อ.ศรีราชา ซึ่งเป็นความร่วมมือจากผู้จัดสรรคลื่น 5G กลุ่มเจ้าของอุปกรณ์ กลุ่มผู้ให้บริการ และกลุ่มที่เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น
อินโฟเควสท์