- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Friday, 04 July 2014 10:57
- Hits: 5186
วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8619 ข่าวสดรายวัน
แม่ชีเชอร์รี่ร่ำไห้ โผล่แจง ทั้งปอร์เช่-เป๋าหรู ขอโทษทำเสื่อม ยันไม่ใช้เงินวัด ศิษย์เจ้าของรถ เปิดตัว-ช่วยโต้ จอดทิ้งไว้ให้ใช้ เพราะเชื่อได้บุญ
แม่ชีโผล่ - แม่ชีเชอร์รี่-สุปริญญา ฮุนนางกูร (นั่งหน้าซ้าย) ปรากฏตัวที่บ้านนายกอบต.ท่า ม่วง จ.กาญจนบุรี ชี้แจงกรณีขับรถปอร์เช่ กระเป๋าหรู จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม เมื่อ 3 ก.ค. |
แม่ชีเชอร์รี่โผล่แล้ว ชี้แจงทั้งน้ำตา กรณีขับปอร์เช่ หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมหรู พร้อมขอโทษวัดและสถาบันสงฆ์ทำเสื่อมเสีย ยันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนรถหรูเป็นของญาติโยมจอดทิ้งไว้ให้ใช้ เช่นเดียวกับกระเป๋าหรู ด้านลูกศิษย์เจ้าของรถเปิดตัวระบุเป็นรถแฟนเอาไปให้วัดใช้ เชื่อว่าได้บุญ แต่ตอนนี้เอากลับมาแล้ว เจ้าอาวาสย้ำ ตำหนิไปเรียบร้อย ส่วนเรื่องเบิกจ่ายเงินก็มีระเบียบชัดเจน ไม่ต้องกังวล
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวรเดช กาญจนอโนทัย นายกอบต.ท่าม่วง อยู่บ้านเลขที่ 1142 หมู่ 4 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จัดพิธีทำบุญพระสงฆ์ โดยนิมนต์พระครูสุธรรมวีราจารย์ (พระอาจารย์สมใจ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมพระลูกวัด รวม 6 รูป มาทำพิธีทางศาสนา โดยมีน.ส.สุปริญญา ฮุนนางกูร หรือแม่ชีเชอร์รี่ ที่ตกเป็นข่าวประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทั้งใช้รถปอร์เช่หรู ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง และยังมีข่าวระบุว่าแม่ชีเชอร์รี่เป็นผู้ดูแลการเงินในวัดถ้ำขวัญเมืองทั้งหมด ร่วมเดินทางมาด้วย
เมื่อไปตรวจสอบที่หน้าบ้านพักหลังดังกล่าว พบมีรถยนต์ รถตู้ รถกระบะ จอด อยู่ประมาณ 10 คัน แต่นายวรเดช เจ้าของบ้าน ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในบ้าน โดยระบุว่า พระครูสุธรรมวีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าพบ ตนในฐานะเป็นลูกศิษย์จึงต้องทำตาม แต่ทราบว่าเจ้าอาวาส และแม่ชีเชอร์รี่ จะเป็น ผู้แถลงข่าวด้วยตัวเอง
นายวรเดช กล่าวว่า ในฐานะลูกศิษย์ทราบถึงข่าวที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ จึงอยากชี้แจงว่า รูปที่ถ่ายกับกองเงินจำนวนมาก ก็เพราะวันนั้นเป็นวันทำบุญ เมื่อมีญาติโยมมาถวายเงินจำนวนมาก ก็ต้องเอาเงินไปเข้าธนาคาร เนื่องจากวัดอยู่ในสายธรรมยุติ จึงไม่สามารถเก็บเงินไว้ที่วัดได้ แต่ตอนนั้นคนขับรถไม่อยู่ และวัดก็ยุ่งมาก แม่ชีเชอร์รี่ จึงตัดสินใจขับรถปอร์เช่ เอาเงินไปเข้าบัญชีธนาคารด้วยตัวเอง หลังจากไปธนาคาร ก็ขับรถกลับมาที่วัดตามเดิม และไม่ได้ไปไหน ซึ่งเชื่อว่าภาพที่หลุดออกไปเกิดจากลูกศิษย์ภายในวัดที่หวังทำลายชื่อเสียงของแม่ชี จึงนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่
นายวรเดช กล่าวว่า สำหรับรถปอร์เช่ ก็เป็นของลูกศิษย์ที่ไปนั่งวิปัสนาภายในวัดเป็นประจำ แต่ละครั้งก็จะใช้เวลา 7 วัน ซึ่งตามกฎของวัดผู้เข้าปฏิบัติธรรม ต้องฝากกุญแจรถยนต์ทุกชนิด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารไว้กับแม่ชี ด้วยความเคารพศรัทธาในตัวแม่ชีเชอร์รี่ จึงมอบรถไว้ให้ใช้ยามจำเป็น เพราะเชื่อว่าหากถวายรถให้จะทำให้ธุรกิจของครอบครัวเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งขึ้น ทุกครั้งเวลาไปไหนจะมีลูกศิษย์เป็นคนขับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ยอมรับว่าไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาลงโทษกัน
"ฐานะทางบ้านของแม่ชีเชอร์รี่ มีฐานะร่ำรวยพอสมควร แต่ไม่ใช่ร้อยล้านพันล้านอย่างที่มีข่าว มีกิจการขายเครื่องไฟฟ้า ญาติพี่น้องก็ทำงานมั่นคงทุกคน" นายวรเดชกล่าว
ต่อมาเวลา 10.00 น. พระครูสุธรรมวีราจารย์ แถลงว่า ตามที่มีภาพข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ในฐานะเจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง อาตมามีความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะรายละเอียดของข่าวที่เผยแพร่ออกไปสู่ประชาชน ทำให้วัดเสื่อมเสีย ส่วนประเด็นเกี่ยวกับรถยนต์สปอร์ตปอร์เช่ ขอชี้แจงว่าไม่ใช่รถยนต์ของวัด รวมทั้งไม่ใช่รถยนต์ของแม่ชีเชอร์รี่ แต่เป็นรถของลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด ซึ่งเจ้าของรถยนต์มีความเคารพ และศรัทธาในตัวแม่ชี จึงนำรถยนต์ให้แม่ชี ทดลองขับเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่รถและเจ้าของรถเองเท่านั้น ซึ่งเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวก็ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย
เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมืองกล่าวว่า ส่วนประเด็นที่สงสัยว่าแม่ชีเชอร์รี่ นำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือของใช้ราคาแพง อาตมารับรายงานว่า แม่ชีไม่ได้นำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือของใช้ราคาแพงส่วนตัวแต่อย่างใด ซึ่งกลุ่มลูกศิษย์ ที่มีความเคารพและศรัทธาเป็นการส่วนตัวนำมาถวายให้กับแม่ชีใช้ ส่วนประเด็นการบริหารเงินของวัดนั้น วัดมีคณะกรรมการในการบริหารจัดการเงินของวัด ซึ่งเงินที่ได้รับการบริจาค จะนำไปฝากไว้ที่สถาบันการเงินตามบัญชีที่ผู้บริจาคประสงค์ทำบุญ ซึ่งในการเบิกจ่ายเงินนั้นจะต้องมีผู้มีอำนาจลงนาม 2 ใน 3 โดยลงนามร่วมกับเจ้าอาวาสเสมอ จึงจะสามารถเบิกจ่ายเงินจากธนาคารได้ ซึ่งทางวัดก็จะจัดทำงบ การเงิน ส่งให้สำนักพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดชุมพรเพื่อตรวจสอบทุกปีอยู่แล้ว
"การที่แม่ชีเชอร์รี่ขับรถและใช้กระเป๋าราคาแพงนั้น แม้การกระทำดังกล่าวจะไม่ผิดศีล แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับสถานะภาพของนักบวช อาตมาว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ซึ่งแม่ชีเชอร์รี่ก็รับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก" พระครูสุธรรมวีราจารย์กล่าว
ด้านน.ส.สุปริญญา หรือแม่ชีเชอร์รี่ อายุ 42 ปี แถลงด้วยน้ำตานองหน้าว่า ขอกราบประทานอภัยต่อเจ้าคุณพระสังฆาธิการทุกระดับชั้น พระครูสุธรรมวีราจารย์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทุกจังหวัด ประธานสภาแม่ชีไทย ตลอดจนแม่ชีทุกท่าน ขอยืนยันว่าไม่เคยนำเงินของวัดไปซื้อกระเป๋าหรือสิ่งของราคาแพงมาใช้เป็นการส่วนตัว กระเป๋าดังกล่าวมีลูกศิษย์ที่มีความเคารพและศรัทธานำมาถวายให้ทั้งสิ้น
"ขอกราบประทานอภัยต่อทุกท่าน ที่ฉันก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสมขึ้น ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา หรือสถาบันแม่ชีไทยเลยแม้แต่น้อย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งฉันได้รับการตักเตือนจากเจ้าอาวาสและพระผู้ใหญ่ให้แก้ไขแล้ว ซึ่งต่อไปนี้ฉันจะใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติตนให้เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป" แม่ชีเชอร์รี่กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาการ แถลงข่าวของพระครูสุธรรมวีราจารย์ และ แม่ชีเชอร์รี่ ใช้วิธีการอ่านคำแถลงตามสคริปต์ต่อสื่อมวลชน
จากนั้นแม่ชีเชอร์รี่ ทำพิธีกราบไหว้ขอขมา โดยกราบและถวายพานพุ่ม เพื่อเป็นการขอขมาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ร่วมในพิธีดังกล่าวด้วยอาการสงบ
ด้านน.ส.นวลวิรัช เครือบัว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 ซอยวัดกำแพง ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าของรถปอร์เช่ เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องรถว่า รถคันนี้เป็นของแฟนตนที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ โดยตนเดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรม ตนก็ทำตามความศรัทธาของตนที่เชื่อว่านำรถมาให้ทางวัดใช้แล้วจะได้บุญมากขึ้น จึงถือปฏิบัติเหมือนลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่เขาก็เอามาจอดไว้ที่วัด โดยเมื่อเสร็จจากการนำมาให้วัดใช้ประมาณ 1 เดือนก็จะนำกลับไปใช้ทำธุรกิจเหมือนปกติ ไม่มีอะไร
น.ส.ศิรลักษณ์ เพ็ชรศิริ ชาวจันทบุรี และน.ส.กุลฑีรา สัตตะบงกช ชาวสุราษฎร์ธานี อดีตรองนางสาวไทย เป็นตัวแทนลูกศิษย์ กล่าวถึงเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนมว่า ที่มาของกระเป๋ามาจากการที่ลูกศิษย์เดินทางไปต่างประเทศ และรวบรวมเงินกันซื้อมาฝากแม่ชีเชอร์รี่ เพราะเห็นว่าขณะเดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัด ได้รับการดูแลและการชี้แนะรวมถึงข้อแนะนำในการวางตัวเพื่ออยู่ระเบียบของวัดที่พึงปฏิบัติ ดังนั้นเมื่อคณะลูกศิษย์ได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็เลยนึกถึงและซื้อกระเป๋ามาฝาก ไม่คิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพียงแค่คิดอยากซื้อมาให้เท่านั้นเอง