- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Tuesday, 23 June 2015 12:32
- Hits: 9473
แจง'ทดรองจ่าย'96 ล.วิหารพ่อคูณ
'เกรียงไกร จารุทวี'อดีตรอง ปธ.กก.วัดบ้านไร่ ยันไม่ฟ้องร้อง เรื่อง 96 ล้านเงินทดรองจ่ายไปก่อนเพื่อสร้างวิหารหลวงพ่อคูณ เปิดโรงแรมหรูแถลงชี้แจงการสร้างอุทยานธรรม 3 ระยะ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ใช้งบ 38 ล้าน ศาลาปริสุทธรรม หอน้ำมนต์ ใช้งบ 17 ล้าน และวิหารเทพวิทยาคม ใช้งบ 355 ล้าน ซึ่งทุกระยะหลวงพ่อคูณมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ และทำพิธีด้วยตัวเอง ทั้งหมดได้จัดทำรายละเอียดครบถ้วนตามหลักการบัญชีสากล จะนำส่งกก.ตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ชุดใหม่ 24 มิ.ย.นี้ ส่วนเงิน 96 ล้านที่ทดรองจ่ายไปก่อนนั้น จะให้กก.ชุดใหม่พิจารณาเองว่าจะดำเนินการอย่างไร
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8973 ข่าวสดรายวัน
วิหารพ่อคูณ - นายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานวัดบ้านไร่ แถลงบัญชีทรัพย์สินและกรณีเงินทดรองจ่ายค่าก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมจำนวน 96 ล้านบาท ที่เตรียมส่งมอบให้คณะกรรมการวัดชุดใหม่ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ห้องเลอนัว เดอะแกลลอรี่ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ นายเกรียงไกร จารุทวี อดีตรองประธานกรรมการวัดบ้านไร่ และผู้รับผิดชอบการพัฒนาโครงการอุทยานธรรม วัดบ้านไร่ แถลงว่า หลังจากหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พ.ค. เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ขึ้นมา ตนเกรงว่าทรัพย์สินและรายงานบัญชีทรัพย์สินที่อยู่ในความรับผิดชอบจะสูญหาย เนื่องจากมีบุคคลกลุ่มหนึ่งอ้างว่าได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ให้ไปรื้อโกดังเก็บทรัพย์สินที่รอการส่งมอบให้คณะกรรมการ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ตนจึงไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ที่สภ.ด่านขุนทด แต่ไม่ทราบว่ากลุ่มคนดังกล่าวประสงค์อะไร นอกจากนี้ยังมีข่าวออกมาว่าวัดบ้านไร่มีนักธุรกิจต่างถิ่นเข้ามาหากินจนสร้างความรำคาญให้หลวงพ่อคูณ ซึ่งทำให้คนที่รู้จักอาจคิดว่าหมายถึงตน จึงอยากชี้แจงว่าโครงการต่างๆ ที่ตนรับผิดชอบนั้น ได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อคุณ และทำด้วยความศรัทธาหลวงพ่อคูณ
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการอุทยานธรรมระยะที่ 1-3 ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ที่สร้างเมื่อปี 2552 ใช้งบประมาณ 38 ล้านบาท ขณะนั้นหลวงพ่อคูณมีอายุ 86 ปี ท่านยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ระยะที่ 2 สร้างศาลาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือศาลาปริสุทธรรม หอน้ำมนต์ ใช้งบประมาณ 17 ล้านบาท และระยะที่ 3 คือการสร้างวิหารเทพวิทยาคม ใช้งบประมาณ 355 ล้านบาท ซึ่งหลวงพ่อคูณทำพิธีเจิมเสาเอกด้วยตัวท่านเอง เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2555 ซึ่งการก่อสร้างโครงการทั้ง 3 ระยะ ตนจัดทำรายละเอียดรายรับและรายจ่ายทั้งหมด มีการบันทึกไว้ครบถ้วนตามหลักการบัญชีสากล ตามคำแนะนำของนักวิชาชีพสอบบัญชี และรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการวัดบ้านไร่รับทราบเป็นประจำทุกเดือน
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า การเก็บรักษาเงินจะอยู่ในรูปแบบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกจ่ายต้องมีการอนุมัติและลงนามโดยคณะกรรมการผู้มีอำนาจ ตนไม่มีสิทธิ์เบิกได้ด้วยตัวเอง สำหรับเอกสารรายการบัญชีทรัพย์สินของโครงการอุทยานธรรมที่ตนรับผิดชอบ ตั้งแต่ระยะที่ 1-3 มีมากกว่า 50,000 แผ่น ตนจะนำส่งมอบให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินชุดใหญ่โดยตรงในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นแสดงรายการทรัพย์สิน
"ผมอยากแถลงต่อสังคม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทรัพย์สินและเอกสารทุกชิ้นที่ส่งมอบจะถึงมือคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินอย่างถูกต้องและครบถ้วน ทั้งนี้อยากให้คณะกรรมการนำผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม การก่อสร้าง และนักบัญชี มาตรวจสอบประเมินมูลค่ามรดกธรรมของหลวงพ่อคูณ เพื่อรักษาไว้ให้เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติต่อไป ส่วนเรื่องเงินที่ผมทดรองจ่ายในการสร้างวิหารเทพวิทยาคมจำนวน 96 ล้านบาท ผมคงไม่ฟ้องร้องเอาคืน ต้องรอดูว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะประชุมเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และจะทำอย่างไรต่อไป" นายเกรียงไกรกล่าว