- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Sunday, 14 June 2015 11:09
- Hits: 12418
นับหมื่นแห่ไหว้-รูปหล่อพ่อคูณทองคำ ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดที่วัดบ้านไร่ 2
ชาวโคราชนับหมื่นร่วมพิธีเปิดรูปหล่อหลวงพ่อคูณใหญ่ ที่สุดในโลก ที่วัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตรสูงเท่ากับตึก 10 ชั้น ใช้ทองคำแท้กว่า 9 ล้านบาทปิดทั้งองค์ เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายก่อนพ่อคูณละสังขาร หวังเป็นแลนด์มาร์กแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอ เผยนิมนต์สมเด็จพระสังฆราชจาก 4 ชาติศรีลังกา ลาว ภูฏาน กัมพูชา พร้อมพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีก 19 รูปร่วมเจริญพระพุทธมนต์และปลุกเสก รับแจกวัตถุมงคลรุ่นฉลองพระองค์ใหญ่ ด้านคณะกรรมการวัดบ้านไร่ เผยการรวบรวมทรัพย์สินต่างๆ คืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ยันโปร่งใสตรวจสอบได้
วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8964 ข่าวสดรายวัน
องค์ใหญ่ - ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีเปิดรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และรับแจกวัตถุมงคลรุ่นฉลองพระองค์ใหญ่ ที่วัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่วัด บุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมพล.ต.ประวิทย์ หูแก้ว รองแม่ทัพ ภาคที่ 2 และ พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ 2 ร่วมทำพิธีเปิดรูปหล่อหลวงพ่อคูณใหญ่ที่สุด ของโลก โดยมีสมเด็จพระสังฆราชจาก 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา ศรีลังกา และภูฏาน รวมทั้งพระเกจิอาจารย์ 19 รูป เจ้าคณะอำเภอในพื้นที่ 32 อำเภอ เขต จ.นครราชสีมา ร่วมประกอบพิธีทางศาสนา และพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึกสมโภชรุ่น "เทพประทานพร" จากนั้นคณะกรรมการได้แจกวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่นฉลองพระองค์ใหญ่ ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน พร้อมจับรางวัลแจกเหรียญพ่อคูณทองคำ รุ่นเจริญพร จำนวน 1 องค์ ให้กับผู้โชคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รูปหล่อหลวงพ่อคูณมีขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 18 เมตร ตั้งอยู่บนฐาน 12 เมตร มีความสูงเท่ากับตึก 10 ชั้น ใช้ทองคำแท้ปิดทั้งองค์ เฉพาะทองคำมีมูลค่ากว่า 9 ล้านบาท จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้
นายธงชัยกล่าวว่า องค์หล่อหลวงพ่อคูณ ที่วัดบ้านไร่ 2 จะเป็นแลนด์มาร์ก และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางศาสนา และวัฒนธรรม เป็นศูนย์รวมจิตใจให้ศิษยา นุศิษย์ได้บูชากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตและครอบครัว รวมทั้งให้แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย ดั่งคำอวยพร "กูให้มึงเดินทางปลอดภัย ครอบครัวมีสุข" นอกจากนี้ ได้จัดให้เป็นสถานที่รำลึกถึงคุณงามความดี ของหลวงพ่อคูณ ที่ได้สร้างคุณูปการให้แก่ประชาชนอย่างมากมาย ทั้งนี้ ในส่วนของภาครัฐได้อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท เพิ่มช่องทางจราจรหรือขยายเป็น 4 เลน และเพิ่มเลนสำหรับรถจักรยานปั่น บน เส้นทาง ถ.บุไผ่-ไทยสามัคคี ระยะทาง 20 กิโลเมตร
ด้าน พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า รูปหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายก่อนท่านละสังขาร ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อคูณ ดำริให้สร้างศาสนสถานในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวอ.วังน้ำเขียวได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในพื้นที่ ไม่ต้องลำบากในการเดินทางไกล โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 100 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ได้จากการบริจาค โดยได้ทำบัญชีไว้อย่างละเอียดเพื่อความโปร่งใส
ประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ 2 กล่าวต่อว่า การสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเพื่อต้องการให้ประชาชนทุกคนได้ระลึกถึง คุณงามความดีของหลวงพ่อคูณ อีกทั้งก็ต้องการให้เป็นสัญลักษณ์ของหลวงพ่อคูณที่เป็นที่เคารพบูชาของคนไทยทั่วประเทศ ที่ตั้งของวัดอยู่ติดถนนเส้น 304 เดินทางสะดวก ประชาชนที่ต้องการกราบขอพร ก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง อ.ด่านขุนทด ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาทั้งบนถนนสาย 304 สามารถมองเห็นองค์หลวงพ่อคูณในระยะไกลได้อย่างชัดเจน
"นอกจากองค์หล่อหลวงพ่อคูณแล้ว ทางวัดยังปรับภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น มีจุดนั่งพักผ่อนและถ่ายรูป มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกจำนวน 22 ร้าน ห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 80 ห้อง และบริเวณฐานใต้องค์หล่อหลวงพ่อคูณทำเป็นห้องโถงใหญ่สำหรับการปฏิบัติธรรม การจัดนิทรรศการด้านศาสนา จัดงานบุญต่างๆ รองรับคนได้ 300-400 คน และวัดแห่งนี้ จะเป็นวัดแห่งแรกที่ให้จัดงานแต่งงาน ในวัดได้" พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์กล่าว
ประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ 2 ยังกล่าวถึงการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สิน และการแต่งตั้งเจ้าอาวาส คณะกรรมการ วัดบ้านไร่ หลังจากที่หลวงพ่อคูณมรณภาพไปว่า การที่ใครจะแต่งตั้งให้ใครเข้ามาเป็นเจ้าอาวาส หรือคณะกรรมการวัดนั้น ก็เป็นเรื่องขององค์กรของคณะสงฆ์ที่จะเป็น ผู้ดำเนินการ ส่วนความเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินภายในวัดบ้านไร่ หรือบัญชีต่างๆ ของวัดบ้านไร่ ตนไม่เคยมีความเกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ที่ถือบัญชีทางการเงินต่างๆ เพียงแต่ตนมีหน้าที่ควบคุม เมื่อจะอนุมัติอะไรก็จะต้องผ่านความเห็นจากตน ส่วนจะต้องหารือหรือแก้ปัญหาต่างๆ กับคณะกรรมการชุดเก่าหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่ต้องหารือและแก้ไขอะไร เพราะเหลือแต่ขั้นตอนการตรวจสอบทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้ที่ถือบัญชีต่างๆ ของวัด
นายธวัช เรืองหร่าย (วัดร้าง) รักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมทรัพย์สินวัดบ้านไร่ เพื่อเตรียมส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบว่า ล่าสุด การรวบรวมเอกสารต่างๆ นั้นคืบหน้าไปมากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ทั้งหมวดพระเครื่อง รถยนต์ ที่ดิน เพื่อให้การตรวจสอบง่ายขึ้น ส่วนที่ตนดูแลนั้น ก็จะเป็นในส่วนของเงิน ในธนาคาร ซึ่งตนก็ได้ประสานกับทาง เจ้าหน้าที่ของธนาคาร จัดเตรียมเอกสารทางการเงินทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นกัน ถ้าถามว่าหนักใจหรือไม่ ยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะทุกอย่างที่ทำมาก็ล้วนแต่เป็นเจตนาของหลวงพ่อคูณทั้งสิ้น สามารถตรวจสอบได้หมด
"กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบบางคนคิดว่า กระบวนการในบางส่วนนั้นอาจจะมีการเผอเรอ จนส่งผลให้เกิดการทุจริตในบางส่วน ผมคิดว่าก็เป็นหน้าที่คณะกรรมการจะต้องตรวจสอบ แต่เรื่องราว ในอดีตนั้น ไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้ ก็มีเพียงแต่ปัจจุบันที่คณะกรรมการวัดจะช่วยกันสร้าง หรือสานต่อให้จบทุกเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทูลเกล้าฯ 100 ล้าน สร้างบ้านให้พ่อ ซ่อมโบสถ์ ซึ่งวัตถุมงคลของเก่าที่มีอยู่ ก็จะทำให้การสานต่อนั้นสำเร็จได้ด้วยเช่นกัน ส่วนการตั้งคณะกรรมวัดชุดใหม่ขึ้นมานั้น ปัจจุบันได้พุดคุยกับรักษาการ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรก็จะต้องรอให้ขั้นตอนของการตรวจสอบทรัพย์สินนั้นแล้วเสร็จไปก่อน แต่ตนยืนยันว่าหากมีการแต่งตั้งให้ผม เป็นคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ ผมก็พร้อมที่จะกลับไปทำงานเพื่อพัฒนา วัดบ้านไร่ เหมือนที่หลวงพ่อคูณเคยทำ จนเป็นที่รู้จักของประชาชนทั้งชาวไทย และต่างชาติ" นายธวัช กล่าว