- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Saturday, 30 May 2015 21:36
- Hits: 7820
ชี้เหตุ'พ่อคูณ'สีชมพู หมอเตือนอย่าแตกตื่น ชาวโคราชทำบุญ 15 วัน
วอนอย่าแตกตื่นสรีระร่าง'หลวงพ่อคูณ'เป็นสีชมพู คณบดีคณะแพทย์-หัวหน้าคณะภาควิชากายวิภาคศาสตร์ มข.ชี้เกิดจากสภาพร่างกายที่ไม่มีสารอื่นเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด ประกอบกับมรณภาพกะทันหัน ทำให้สรีระออกมาเป็นสีธรรมชาติ ด้านพุทธศาสนิกชนยังคงหลั่งไหลไปสักการะหลังทราบข่าวมงคล ชาวโคราชรวมใจทำบุญใหญ่-ตักบาตรพระ 93 รูป อุทิศส่วนกุศลถวายพระเทพวิทยาคม พ่อเมืองวอนแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8949 ข่าวสดรายวัน
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย ถึงกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ในโอกาสมรณภาพครบ 15 วัน พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ที่จังหวัดนครราชสีมาจัดขึ้นเพื่ออุทิศถวายในวันที่ 30-31 พ.ค. ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา และลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ว่าในวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 19.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพร้อมกับพุทธศาสนิกชนร่วมกันชมวีดิทัศน์ พินัยกรรม และประมวลภาพการมรณภาพตั้งแต่วันแรกถึงวันมอบสรีรสังขารให้มหา วิทยาลัยขอนแก่น จากนั้นประธานในพิธีกล่าวสดุดีพระเทพวิทยาคม พร้อมรับฟังเพลงโคราชไว้อาลัยจากศิลปินแห่งชาติ สาขาเพลงพื้นบ้านโดยนายกำปั่น บ้านแท่น
นายธงชัยกล่าวว่าหลังจากนั้นพระสงฆ์ ทรงสมณศักดิ์จำนวน 10 รูป และเจ้าคณะอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ร่วมสวดพระพุทธมนต์ถวายกุศล จากนั้นก็จะสวดมาติกาทอดผ้าบังสุกุล พร้อมกับนั่งบำเพ็ญสมาธิเพื่อ อุทิศถวาย สำหรับการแต่งกายสำหรับพุทธ ศาสนิกชนที่จะร่วมงานขอให้สวมใส่ชุด สุภาพ ไว้ทุกข์ ในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. เวลา 06.30 น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 93 รูป ที่เต็นท์พิธีด้านข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
ศรัทธา- ศิษยานุศิษย์ยังหลั่งไหลมากราบสักการะหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่อาคารผู้ป่วยนอก ตึก ก.ชั้นล่าง คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ขณะที่สรีรสังขารของหลวงพ่อดองเป็นอาจารย์ใหญ่น.ศ.แพทย์อยู่บนชั้น 7 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวต่อว่า เวลา 07.15 น. ผู้ว่าฯนครราชสีมาเป็นประธานในการนำประชาชนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมจุดเครื่องทองน้อยหน้าโต๊ะหมู่ที่ตั้งภาพถ่ายพระเทพวิทยาคม เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พร้อมกล่าวถวายข้าวสารอาหารแห้ง ในเวลา 07.30 น. พุทธศาสนิกชนร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์จำนวน 93 รูป โดย ผู้ที่จะมาร่วมตักบาตรขอให้สวมใส่ชุดสุภาพหรือชุดขาวดำ พร้อมกันนี้ทางจังหวัดนครราช สีมายังได้ประสานให้นายอำเภออีก 31 อำเภอ ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร เพื่ออุทิศถวายแด่หลวงพ่อคูณ อำเภอละ 1 วัด เพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมงานอย่างทั่วถึง
ที่วัดบึง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นคร ราชสีมา พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการ ของคณะตรวจสอบทรัพย์สินว่าไม่ขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สิน ควรรอให้กระบวนการตามที่ได้มอบหมายให้คณะกรรมการดำเนินการจัดทำบัญชีรวบรวมตามกรอบเวลาที่กำหนด ได้ปรากฏเป็นข้อเท็จจริง จากนั้นพระภาวนาประชานาถ(นุช รตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จึงสามารถใช้อำนาจ หน้าที่ ติดตามทวงหนี้ได้โดยชอบตามกฎหมาย ที่ผ่านมาได้พยายามประสานติดต่อทางโทรศัพท์รักษาการเจ้าอาวาส เพื่อสอบถามข้อสงสัยตามที่ปรากฏตามสื่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ท่านอาจจะกลัวผู้สื่อข่าว หรือไม่อยากเป็นข่าว จึงไม่ยอมเปิดเครื่องก็ได้
"อาตมาให้โอวาทไปเมื่อครั้งร่วมประชุมคณะกรรมการที่วัดบ้านไร่ การดำเนินการทุกอย่างนั้น ต้องคำนึงถึงหลวงพ่อคูณ ท่านเป็นพระผู้ให้ มีบารมีเป็นที่พึ่งทางใจต่อพุทธ ศาสนิกชนทั่วโลก ลูกศิษย์คนไทย ต้องไม่ขัดแย้งกัน โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ เป็นสิ่งไม่ดีงาม และไม่ถูกต้อง สาเหตุเกิดจากกิเลส ความอยาก เมื่อหลวงพ่อคูณมรณภาพ ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องการเป็นใหญ่ จึงเกิดปัญหาขึ้นมา ฝากเป็นหลักคำสอน หากรู้ไม่จริง ไม่มีข้อมูลชัดเจน ไม่ควรให้ข่าว จะทำให้เสียหายทั้งระบบ รวมทั้งภาพลักษณ์กับวัดบ้านไร่ด้วย" พระราชสีมาภรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารผู้ป่วยนอก ตึกก.ชั้นล่าง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถานที่สักการะ พระเทพวิทยาคม มีผู้ศรัทธาพากันมาสักการะกราบไหว้เป็นจำนวนมาก เพราะทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณแช่อยู่ในอ่างน้ำยา ที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. พบว่าผิวหนังกลับเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ เชื่อว่าเป็นบุญบารมีของหลวงพ่อคูณ พร้อมกับบริจาคเงินจำนวนหนึ่งใส่ในตู้รับบริจาคสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ร.พ.ศรีนครินทร์ด้วย
นายอนุวิท กงคูคำ อายุ 36 ปี ราษฎรชาวจ.เพชรบูรณ์ และผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณบอกว่า ได้มาสักการะและกราบไหว้หลวงพ่อคูณเพราะความศรัทธาท่านอย่างมาก สื่อมวลชนเสนอข่าวว่าสรีรสังขารของท่านขณะที่เข้าอ่างสเตนเลสและเข้าสู่ขั้นตอนดองตามหลักการของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย ศาสตร์ ม.ขอนแก่น สรีรสังขารของท่านเป็นสีชมพู เรื่องนี้สรีรสังขารของท่านจะเป็นสีอะไรก็ตาม ตนเคารพศรัทธาท่าน พร้อมเชื่อในคำสอนของท่านตลอดมา เมื่อท่านมรณภาพตามอายุขัย ก็ได้บริจาคสรีรสังขารให้คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาสรีระของท่าน ถือเป็นบุญกุศลอย่างมาก
นายบุญทัน สารีแก้ว อายุ 53 ปี ชาวบ้านนาวัง ต.นาเหล่า อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู บอกว่า ตนและครอบครัวมาจากจ.หนองบัวลำภู เพื่อมากราบไหว้สรีรสังขารหลวงพ่อคูณ เพราะในช่วงที่มีบำเพ็ญกุศลศพและเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ม.ขอนแก่น ไม่ได้เดินทางมา เมื่อได้ข่าวสรีรสังขารของท่านเป็นสีชมพู ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างมาก แม้ว่าท่านจะจากพวกเราไปแล้วก็ตาม ก็ยังถือว่าหลวงพ่อคูณยังอยู่ในใจของผู้เคารพศรัทธาท่านตลอดไป
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. พร้อมกับคณะกรรมการจัดโต๊ะหมู่บูชาให้ผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณมาเคารพกราบไหว้ที่อาคารผู้ป่วยนอก ตึกก.ชั้นล่าง คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ได้มาดูแลความเรียบร้อย และสั่งการให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ที่มาประจำในสถานที่โต๊ะหมู่บูชาสักการะหลวงพ่อคูณที่ชั้นล่างอาคาร 7 ชั้น คณะแพทยศาสตร์ด้วย
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปว่าสรีรสังขารหลวงพ่อคูณที่อยู่ในอ่างเก็บสรีรสังขารในน้ำยา(อ่างดอง) ตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย ศาสตร์ ม.ขอนแก่น ตึกคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น สรีระของท่านได้เป็นสีชมพู ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นทำให้มีผู้ไม่หวังดีจ้องหาประโยชน์กับสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณในรูปแบบใดแบบหนึ่ง โดยเฉพาะผู้มีวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆ ของหลวงพ่อคูณ ให้เป็นการสร้างกระแสในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกด้วย
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่า การที่สื่อมวลชนได้นำเสนอสีผิวของหลวงพ่อคูณขณะที่สรีระดองอยู่ในอ่างเก็บสรีรสังขารในน้ำยา ขณะนี้สีผิวของท่านยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่สีผิวของท่านเป็นสีผิวชมพูมาตั้งแต่เคลื่อนสรีรสังขารของท่านมาจากจ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.แล้ว ถือว่าเป็นปกติ เพราะสีผิวของครูใหญ่/อาจารย์ใหญ่ ในกรณีฉีดน้ำยารักษาสภาพก่อนที่จะดองในช่วงสวดพระอภิธรรม มีได้หลายแบบขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของครูใหญ่แต่ละท่านเป็นอย่างไร บางท่านเจ็บป่วยและได้ยาอะไร บางท่านมีอาการป่วยเช่นไตวายมีของเสียคั่งในร่างกาย ก็ทำให้มีสีผิวต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามสภาพของสิ่งที่ได้รับไป เป็นส่วนประกอบในเลือด เนื้อเยื่อต่างๆ ก็เป็นไปได้ ทำให้มีสีผิวแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสีคล้ำดำ สีเขียวอ่อนหรือแก่
"ในกรณีหลวงพ่อคูณได้มีอาพาธกะทันหัน พร้อมกับละสังขารไปภายใน 24-48 ชั่วโมง ทำให้องค์ประกอบในร่างกายของท่านเป็นไปตามธรรมชาติ สรีรสังขารของท่านจึงเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มียา ไม่มีสารอะไรเข้าไปเจือปนในสรีระของท่าน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ผิวหนังของหลวงพ่อคูณเกือบจะเหมือนคนปกติ ที่ผิวหนังจะเป็นสีชมพูเหมือนแรกเกิด" รศ.นพ.ชาญชัยกล่าว
รศ.ยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยว่าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เป็นผู้ดูแลกระบวนการดองสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ยืนยันว่าสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเป็นสีชมพูจริง ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่สีผิวหนังจะมีสีเขียว น้ำตาล ดำ หรือสีชมพู ขึ้นอยู่กับว่าในตัวอาจารย์ใหญ่/ครูใหญ่ ในช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นจะมีการสะสมสารพิษหรือสารต่างๆ ในร่างกายที่ไม่เหมือนกัน แต่ในส่วนของ สรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ทางภาควิชากาย วิภาคศาสตร์ ยืนยันเป็นเรื่องปกติ ขออย่า ให้ประชาชนได้แตกตื่นกับข่าวเรื่องสีผิวของสรีรสังขารหลวงพ่อคูณที่มีสีชมพู อย่างไรก็ตาม ทางภาควิชากายวิภาค ศาสตร์จะไม่เผยแพร่ภาพดังกล่าวออกมาอย่างแน่นอน