WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 

คลื่นคน-ครึ่งล้าน แห่อาลัย ส่งสรีระพ่อคูณวันนี้ ระดมตร.อารักขา ตลอดทั้งเส้นทาง ขบวนเคลื่อนศพ ไปห้องเก็บดอง หวั่นฮือยื้อแย่ง

          ประชาชนครึ่งล้านหลั่งไหลสักการะสรีรสังขาร หลวงพ่อคูณและสวดพระอภิธรรมวันสุดท้ายก่อนมอบร.พ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่นรักษาความปลอดภัยระดับเข้มห้องเก็บโลงดอง สรีรสังขาร จัดพิธีทางศาสนาในการรับมอบรวมถึงพิธีขอขมาเพื่อนำสรีรสังขารไปศึกษา โดยถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ชมด้วย อธิการบดี เผยขั้นตอนก่อนถึงร.พ. หลังเสร็จพิธีบำเพ็ญกุศลถึงขั้นตอนวางดอกไม้จันทน์เรียบร้อย สับเปลี่ยนสรีระของหลวงพ่อคูณ เข้าโลงไม้และนำใส่เข้าโลงเย็น สห.8 นาย ยกโลงเย็นไปขึ้นรถนำขบวนไปยังร.พ. ตลอดทางใช้กำลังจนท.ทหาร ตำรวจ รปภ. และอาสาสมัครรวมกว่า 500 คน จัดพื้นที่ปชช.ยืนรอส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณระยะทาง 3-4 ก.ม. เผยการจราจรขาเข้าหนาแน่นทุกเส้นทางด้วยแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่ตั้งใจมากราบหลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย ด้าน ผู้ว่าฯ โคราช ระบุเงิน 47 ล้านบาทในบัญชีมูลนิธิหลวงพ่อคูณฯ ยังอยู่ครบ 47 ล้าน

ปชช.หลายแสนร่วมวันสุดท้าย

 

    วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ซึ่งเป็นวันสุดท้าย คือวันที่เจ็ดของการบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ว่าประชาชนที่เคารพศรัทธาและศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณจำนวนกว่า 3 แสนคน เดินทางเข้า มาเต็มแน่นศูนย์ประชุมฯ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. จนสถานที่จอดรถเต็มทุกพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีผู้เดินทางมากับรถโดยสารประจำทางและรถไฟอีกนับหมื่น เพื่อร่วมงานบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ก่อนที่ในวันที่ 24 พ.ค. เวลา 16.00 น. จะมีพิธีมอบศพให้ภาควิชากายภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.

     พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เป็นประธานปล่อยแถวตำรวจประมาณ 550 นาย ออกตรวจความเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจาก กก.สส.ภ.4, ภ.จว.ขอนแก่น, สภ.เมืองขอนแก่น รวมถึงทหารค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น และหน่วยงานรักษาความปลอดัยของ มข. ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ จะเฝ้าระวังมิให้มิจฉาชีพก่อเหตุล้วงกระเป๋าและทำลายทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ล้วงกระเป๋า และทุบกระจกรถยนต์ขโมยทรัพย์สิน พร้อมกันนี้ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด 6 จุด รวม 14 ตัว และวางกองกำลังบริเวณภายในและพื้นที่โดยรอบศูนย์ประชุมฯ

 

 

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8943 ข่าวสดรายวัน

 

     คลื่นศรัทธา - คลื่นประชาชนหลายแสนคนเดินทางเข้ากราบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณในการสวดพระอภิธรรมวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ก่อนส่งให้ม.ขอนแก่นดองศพตาม

 

พินัยกรรมในอ่าง สแตนเลส ประดับด้วยลายกนก

 

เผยพิธีมอบสรีรสังขาร

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งเป็นพิธีมอบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ไปที่ภาควิชากายภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ พิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีพิธีบรรพชาสามเณร จำนวน 93 รูป โดยพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ณ อาคารพุทธศิลป์ สำนักวัฒนธรรม มข. เวลา 07.00 ถวายภัตตาหารเช้า ณ ศูนย์ประชุมฯ เวลา 08.00 น. สามเณรจำนวน 93 รูป กราบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ และอนุโมทนา

       เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล อาราธนา ศีลและอาราธนาธรรม พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาแสดงพระธรรมเทศนา เสร็จแล้ว พระสงฆ์จำนวน 123 รูป สวดมาติกา ประธานในพิธีถวายไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำ รับพร และเวลาเวลา 14.00 น. พิธีทอดผ้าบังสุกุล ในช่วงเวลานั้นจะฉายวีดิทัศน์ประวัติหลวงพ่อคูณ ประธานในพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุล ประธานสงฆ์พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล พระธรรม วรนายกนำคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน วางดอกไม้เคารพสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ เวลา 15.00 น. เริ่มพิธีเคลื่อนสรีรสังขารจากศูนย์ประชุมฯ ไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข.

รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวอีกว่า ภายในห้อง ดังกล่าว ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบอินฟราเรดที่เชื่อมสัญญาณไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น บุคคลที่จะเข้ามาภายในห้องนี้ได้จะต้องได้รับอนุญาตและผ่านการสแกนลายนิ้วมือ ส่วนอ่าง สแตนเลสที่จะใช้สำหรับดองสรีรสังขาร ช่างจะ ขนย้ายมาติดตั้งภายในคืนนี้

       ด้านรศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. กล่าวว่า ได้กำหนดเส้นทางเคลื่อน สรีรสังขารหลวงพ่อคูณในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ค. โดยจะเคลื่อนขบวนออกจากศูนย์ประชุมฯ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกัลปพฤกษ์จนถึงแยกวัดป่าอดุลยาราม แล้วเลี้ยวขวาตรงไปยังถนนมิตรภาพ จากนั้นเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าศูนย์หัวใจสิริกิติ์ และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ แล้วขึ้นไปยังพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ชั้น 7 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ เพื่อย้ายสรีรสังขารใส่โลงดองทันที ทั้งนี้ ตลอดสองข้างทางประชาชนสามารถมารอกราบสรีรสังขาร ได้ตลอดทางที่เคลื่อนผ่าน

 

เปิดรูปแบบอ่างดองสรีรสังขาร

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ณ ห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ชั้น 7 อาคารเรียนรวมภาควิชากายภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. รศ.นพ.ชาญชัย พร้อมคณะอาจารย์และนักศึกษา ร่วมพิธีรับมอบอ่างดองสรีรสังขารหลวงพ่อคูณจากนายหฤษฎ์ อินทะกนก ประธานกรรมการ ผู้จัดการ บ.กนกไทย จำกัด เพื่อใช้ดองสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเป็นเวลา 1 ปี โดยได้จัดเตรียมพิธีทางศาสนาไว้แล้ว คือเมื่อขบวนอัญเชิญสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเดินทางมาถึง พระสงฆ์จำนวน 10 รูป สวดมาติกา พระธรรมวรนายกนำกล่าวคำ ขอขมา และมอบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณแก่คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ประธานในพิธีถวายไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานในพิธีกรวดน้ำ รับพร เป็นเสร็จพิธี โดยตลอดพิธีจะถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ชมพร้อมกันผ่านจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้

     นายจักริน อินทะกนก ประธานที่ปรึกษา บ.กนกไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ไปรับสแตนเลสความหนา 3 ม.ม. จากกรุงเทพฯ ระดมช่าง 20 คน อ่างดองสรีรสังขารแล้วเสร็จตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เป็นอ่างดองที่มีความกว้าง 60 ซ.ม. ยาว 180 ซ.ม. สูง 65 ซ.ม. ได้ทดสอบการใส่น้ำยาและน้ำหนักที่จะลงไป ในอ่างแล้ว โดยมีลวดลายที่อ่างดองยาตามแนวคิดเรียบง่าย ไม่หรูหรา มีความหมายตามวัตถุประสงค์ของท่านที่ระบุไว้ในพินัยกรรม

ประธานที่ปรึกษา บ.กนกไทย กล่าวด้วยว่า การออกแบบมีแนวคิดตามหลักศาสนาพุทธ ประดับด้วยสแตนเลสสีทองลายกนก มีดอกบัว ด้านหน้าข้างละ 5 ดอก หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ และด้านข้างซ้ายขวา ประดับด้วยลายกนกสีทอง มีดอกบัว 3 ดอก หมายถึง ทาน ศีล ภาวนา เมื่อรวมทั้งหมด 4 ด้าน ดอกบัวจำนวน 16 ดอก หมายถึงสวรรค์ 16 ชั้นฟ้า ใช้งบประมาณ 80,000 บาท เงินจำนวนนี้ได้รับบริจาคจาก ผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณ เมื่อดำเนินการแล้ว ยังเหลือเงินอีกจำนวนมากบริจาคให้กับคณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อดำเนินการตามวัตถุ ประสงค์ของหลวงพ่อคูณที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ต่อไป

 

ปชช.ทยอยแจ้งบริจาคร่างกาย

      ผศ.ยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาค ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจำนวนประชาชนแจ้งความประสงค์จะบริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์เพิ่มมากขึ้น เป็นผลจากบารมีของหลวงพ่อคูณที่เสียสละเป็นต้นแบบ จากที่ ปกติจะมีผู้ยื่นความประสงค์บริจาคร่างกายเฉลี่ยวันละ 50 ราย แต่หลังจากหลวงพ่อคูณละสังขาร มีประชาชนมาบริจาคร่างกายเพิ่มขึ้นวันละกว่า 100 ราย ทั้งนี้ ด้วยปริมาณคนมากขึ้นดังกล่าว ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ อาจจะล่าช้าบ้าง จนต้องทำคิวเพื่อจัดทำบัตร ซึ่งบางคนต้องส่งไปให้ที่บ้านในภายหลัง

 

ผวจ.โคราชระบุบัญชีมูลนิธิครบ

       นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวถึงบัญชีเงินของวัดบ้านไร่ในส่วนของมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานโดยตำแหน่ง ว่า คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทุกเมื่อ มูลนิธิมีหลักฐานบัญชีถูกต้องครบถ้วน การถอนหรือฝากเงินจะต้องมีหลักฐานบันทึกจากคณะกรรมการมูลนิธิ ใครจะถอนเงินออกไปไหนทำอะไรจะต้องผ่านที่ประชุมของคณะกรรมการและ มีหลักฐานยืนยันทุกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีเงินในบัญชีประมาณ 47 ล้านบาท ไม่ได้หายไปไหน ขอให้ทุกคนสบายใจอย่าได้กังวล

    ผวจ.นครราชสีมา กล่าวด้วยว่า ส่วนเงินในบัญชีและทรัพย์สินรูปแบบอื่นๆ ที่ลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ดูแลอยู่ ต้องรอการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินที่พระเทพวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แต่งตั้งขึ้น ถ้าการตรวจสอบเป็นไปโดยราบรื่นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหาหรือเกิดมีความเห็นไม่ตรงกันและมีความขัดแย้งตามมาต้องอาศัยกฎหมาย โดยวัดเป็นนิติบุคคลสามารถแจ้งความร้องทุกข์ดำเนิน คดีอาญาและฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายจากผู้เกี่ยวข้องได้

 

โคราชจัดบัส 70 คันร่วมพิธี

      ผวจ.นครราชสีมากล่าวด้วยว่า ในวันที่ 24 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดให้ประชาชนสักการะสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ก่อนจะเคลื่อนไปยังคณะแพทยศาสตร์ มข.นั้น มีประชาชนเป็นจำนวนมากต้องการเดินทางไปร่วมในพิธีดังกล่าว ทางจังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดรถบัสโดยสารเพิ่มจากเดิม 10 คัน เป็น 20 คัน และได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อีก 10 คัน โดยรถจะจอดที่สนามหน้าศาลากลางและด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบล นอกจากนี้สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา (ส.จ.) ทั้ง 32 อำเภอ ได้จัดรถโดยสารปรับอากาศบริการอีกจำนวน 40 คัน สรุปว่าในวันที่ 24 พ.ค.จะมีรถบัสโดยสารเดินทางออกจาก จ.นครราชสีมา ไปขอนแก่นทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน ออกเดินทางในเวลา 09.00 น. และ ตนคาดว่าจะมีประชาชนชาว จ.นครราชสีมา นำรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปร่วมพิธีด้วยแรงศรัทธาอีกเป็นจำนวนมาก

 

ตร.ขอนแก่นเตรียมรถตู้บริการ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น ได้จัดเตรียมรถยนต์ตู้ของทางราชการทั้งหมดที่มีในจังหวัด บริการรับ-ส่งประชาชนจากจุดจอดรถไปบริเวณศูนย์ประชุมฯ มข. เพื่อรองรับประชาชนและศิษยานุศิษย์จำนวนมากที่เดินทางร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมและกราบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ขณะที่นักเรียนนายสิบตำรวจศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 (ศฝร.4.) ร่วมกับนักศึกษาแพทย์ มข. ช่วยกันทำความสะอาดบริเวณโรงทานภายในศูนย์ประชุมฯ เพื่อเตรียม พื้นที่รองรับประชาชน

 

คลื่นปชช.ล้นหลามวันสุดท้าย

        วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ในงานบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ วันสุดท้าย มีประชาชนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้การจราจรถนนมิตรภาพขาขึ้นจาก จ.นครราชสีมา และ ขาล่องจาก จ.หนองคาย อุดรธานี และถนนมะลิวัลย์ที่มาจากจังหวัดภาคเหนือ ติดขัดอย่างหนัก เช่นเดียวกับการจราจรบนถนนทุกเส้นทาง ที่มุ่งหน้าเข้าสู่ศูนย์ประชุมฯ หนาแน่นทุกสาย

       ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เสริมโบกี้รถไฟสายนครราชสีมาไปหนองคาย จากเดิมรถไฟจำนวน 4 โบกี้ เพิ่มอีก 4 โบกี้ รวม 8 โบกี้ และจัดรถสองแถวให้ประชาชนนั่งฟรีเดินทางเข้าไปยังศูนย์ประชุมฯ เพื่อให้พุทธ ศาสนิกชนสักการะสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณวันสุดท้าย โดยเปิดให้เข้าสักการะได้จนถึงเวลา 19.00 น.

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบรรยากาศภายในศูนย์ประชุมฯ พุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามาวางดอกบัวสักการะหลวงพ่อคูณเป็นวันสุดท้าย จำนวนหลายแสนคนท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้นางหฤทัย ภูสูง อายุ 37 ปี อยู่เลขที่ 103 บ้านโพนทอง ต.บ้านผือ อ.หนอง เรือ จ.ขอนแก่น เป็นลมล้มลง ทีมแพทย์พยาบาลต้องเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน นางหฤทัยกล่าวว่า ตนเองมากับครอบครัวและญาติ 8 คน สถานที่จอดรถเต็มทำให้ต้องไปจอดรถไกลจากศูนย์ประชุมฯ และเดินเท้ามาประมาณ 3 ก.ม. อากาศก็ร้อนมาก มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน เกิดอาการเบาหวานกำเริบ ทำให้หน้ามืดเป็นลม แต่ก็อยากมากราบสักการะ หลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่เคยมาสักครั้ง มีความศรัทธาในหลวงพ่อคูณมาก

     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายนอกบริเวณรอบๆ ศูนย์ประชุมฯ มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านำสลากกินแบ่งมาตั้งแผงขายรวมกว่าร้อยราย โดยยึดเอาเต็นท์ที่จัดไว้สำหรับประชาชนเป็นพื้นที่ขายของ และยังมีคนบางกลุ่มนำภาพหลวงพ่อคูณใส่กรอบเร่ขายในราคาแผ่นละ 100 บาทด้วย

 

หวั่นยื้อแย่งสิ่งของไปบูชา

     วันเดียวกัน ศิษย์หลวงพ่อคูณรายหนึ่งกล่าวว่า ช่วงกระทำพิธีเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณออกจากเวทีชั้น 2 ห้องประชุมของศูนย์ประชุมฯ ในเวลา 15.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เกรงว่าจะเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ทั้งนี้คาดว่าบรรดาศิษย์ของท่านจำนวนหนึ่งจะต้องพยายามเข้าไปจนถึงโลงแก้ว เพื่อจะได้จีวรที่ห่ม สรีรสังขารและสิ่งของที่อยู่ในโลงแก้ว แม้กระทั่งโลงแก้ว ที่ใส่สรีรสังขารหลวงพ่อคูณก็อาจถูกแย่งยื้อ

      ด้านหนึ่งในคณะกรรมการบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณกล่าวว่า การเคลื่อนย้ายสรีรสังขารหลวงพ่อคูณจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ดูแลป้องกันอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวางดอกไม้จันทน์เคารพสรีรสังขารเรียบ ร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องนำสรีรสังขารของท่านใส่โลงไม้ที่เตรียมไว้แล้ว แล้วซ้อนลงไปในโลงเย็น จากนั้นจะยกโลงไปขึ้นรถนำขบวน ที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่มีความหมายและสมเกียรติของท่าน ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสรีรสังขารของท่านจะเข้าไปอยู่ในโลงเย็น ไม่ว่า จะเป็นจีวร อัฐบริขารทั้งหมด ส่วนโลงแก้วที่ใส่สรีรสังขารของท่านจะอยู่ในความรับผิดชอบ ของมข. ที่จะดำเนินการจัดเก็บไว้อย่างดี ส่วนสรีรสังขารจะเคลื่อนไปถึงที่ชั้น 7 จากนั้นเข้าพิธีขอขมาและมอบสรีรสังขารให้กับคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จนเข้าสู่การดองสรีระร่างกายของท่าน ทุกอย่างจะถูกดองทั้งหมด ไม่มีใครจะนำไปบูชาได้

 

จนท.นับพันคุ้มกันตลอดเส้นทาง

     ต่อมารศ.ดร.กิตติชัยกล่าวอีกว่า หลังจากเสร็จพิธีบำเพ็ญกุศลศพมาถึงขั้นตอนวางดอกไม้จันทน์เรียบร้อยแล้ว จะสับเปลี่ยนสรีระของหลวงพ่อคูณเข้าโลงไม้ และนำใส่เข้าโลงเย็นเหมือนเดิม จะใช้สห.จำนวน 8 นาย ยกโลงเย็นที่บรรจุสรีรสังขาร พระอริยสงฆ์เดินจูงโลงไปยังรถนำขบวน จากนั้นรถนำขบวน จะเริ่มเคลื่อนออกจากศูนย์ประชุมฯ มีรถตามขบวนประมาณ 10 คัน ตลอดสองข้างทาง จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รปภ.มข. และ อาสาสมัครรวมกว่า 500 คน กันประชาชน ที่คาดว่าจะมากกว่า 4-5 แสนคน ไม่ให้ล้ำขึ้นบนผิวจราจร โดยให้ยืนรอส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณตลอดสองข้างทางซึ่งมีระยะทางประมาณ 3-4 ก.ม.

      อธิการบดีมข.กล่าวต่อไปว่า ส่วนช่วงเช้าที่เป็นพิธีบำเพ็ญกุศลศพและวางดอกไม้จันทน์ จะไม่เปิดให้ประชาชนเข้ามาวางในหอประชุมฯ เพราะเกรงว่าจะทำให้พิธีการทางศาสนาไม่เสร็จสิ้น จึงได้กำหนดระยะเวลาไม่เกิน 15.30 น. และจัดเตรียมสถานที่วางดอกไม้จันทน์รอบๆ ศูนย์ประชุมฯ 22 จุด ทั้งไม่อนุญาตให้ขึ้นมาบริเวณชั้น 2 พร้อมกับปิดการจราจรบนถนนกัลปพฤกษ์ หน้าศูนย์ประชุมฯ ห้ามจอดรถทั้งสองฝั่งถนนจนกว่าการเคลื่อนย้ายสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเสร็จสิ้น

 

ถ่ายทอดสดช่วงทำพิธีที่รพ.

      ด้านรศ.นพ.ชาญชัยเปิดเผยว่า เมื่อสรีรสังขาร ของหลวงพ่อคูณได้มาถึงที่อาคารสูง 7 ชั้น ของคณะแพทยศาสตร์ มข. จะนำเข้าลิฟต์ชั้น 1 ขึ้นสู่ชั้น 7 และเข้าสู่พิธีทางศาสนา พระสงฆ์จำนวน 10 รูปสวดมาติกา พระธรรม วรนายกนำกล่าวคำขอขมาและมอบสรีรสังขาร หลวงพ่อคูณแก่คณบดีคณะแพทยศาสตร์ หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนของการศึกษาและเข้าสู่การใช้น้ำยาดองสรีรสังขารของท่านตามที่ระบุ ไว้ในพินัยกรรม

      ทั้งนี้ ผู้ศรัทธาและศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณที่ติดตามมาจะไม่ได้เข้าไปในพิธีกรรมการขมา ของคณะแพทยศาสตร์ ในการขอสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณมาชำแหละเพื่อการเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ด้วย แต่จะอยู่เฉพาะด้านล่างที่มีการถ่ายทอดในสัญญาณ ของมข. ผ่านจอแอลซีดีชั้นล่างจำนวน 2 จอ เพื่อให้เห็นบรรยากาศของการทำพิธีที่ชั้น 7

 

ลูกบุญธรรมร่วมบรรพชาสามเณร

        เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่สำนักกองกิจการนักศึกษา มข. มีพิธีปลงผม เพื่อเตรียมบรรพชาสามเณรจำนวน 109 รูป ซึ่งจะบรรพชาต่อหน้าสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ในเวลา 07.00 น. วันที่ 24 พ.ค. โดยนายภาคภูมิ ทิทา หัวหน้างานวินัยนักศึกษา กองกิจการนักศึกษา มข. เปิดเผยว่า โครงการบรรพชาสามเณรมีขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้หลวงพ่อคูณ โดยมีพระราชปริยัติโสภณ หรือเจ้าคุณถนอม เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นเป็นพระอุปัชฌาย์ ทั้งนี้ในบรรดาผู้แจ้งความประสงค์ในการบวชทั้ง 109 คนนั้น มีนักศึกษา มข. 31 คน บุคลากร 15 คน ศิษยานุศิษย์และคนทั่วไป 63 คน 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจำนวนผู้ที่เตรียมบวชสามเณร 109 คน มีลูกชายบุญธรรมของหลวงพ่อคูณ 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องกันร่วมบวชด้วย ชื่อนายชาคริต หรือจก ลิ้มชูวงศ์ อายุ 21 ปี และนายธีทัต หรือทา ลิ้มชูวงศ์ อายุ 20 ปี 

     นายชาคริต เปิดเผยว่า ครอบครัวตนเป็นชาว อ.ด่านขุนทด มีความสนิทสนมกับหลวงพ่อคูณ พ่อและแม่ตนเคยมีปัญหามีลูกยาก จึงไปไหว้หลวงพ่อคูณ ท่านแนะนำให้ไปไหว้ศิวลึงค์ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม. เมื่อกลับมาที่บ้านพ่อแม่ก็ได้ลูกคือตนทันที ส่วนน้องชายเกิดหลังจากตนคลอดออกมาเพียง 4 เดือนเท่านั้น หลวงพ่อคูณให้ตนกับน้องเรียกท่านว่าพ่อ และครั้งหนึ่งท่านขอว่าถ้าท่านมรณภาพขอให้ตนกับน้องชายบวชให้ท่าน 3 วัน แต่ตนคุยกับน้องว่าจะบวชให้ท่านเบื้องต้นเพื่อส่งสรีรสังขารก่อน และจะบวชให้ท่านอย่างเป็นทางการที่วัดบ้านไร่ในปี 2561 หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่

 

คาดคนมาร่วมงานกว่า 5 แสน

     ต่อมา พล.ต.ต.จิตรจรูญ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวภายหลังประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก., รอง ผกก., สว.สส,สว.จร. และตำรวจที่ได้รับคำสั่งให้ดูแลความเรียบ ร้อยด้านการจราจรในวันที่ 24 พ.ค. ในการเคลื่อนย้ายสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ว่า ระหว่าง การจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่วันที่ 17?23 พ.ค. ได้ใช้กำลังตำรวจ ทหาร รปภ.มข. พร้อมอาสา ประมาณ 500-600 นาย ในการดูแลความเรียบร้อย แก้ปัญหาการจราจร และปัญหามิจฉาชีพที่เข้ามาก่อเหตุ

ในส่วนการจราจรมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทั่วประเทศและต่างประเทศเดินทางกันมามากเกินความคาดหมาย แต่ละวันเป็นหลักแสน จึงต้องอำนวยการจราจร จัดสถานที่จอดรถ เพิ่มที่จอดรถมากขึ้น แม้ว่าจะต้องเดินไกลบ้างก็ยอม การจราจรจึงดีขึ้น มีบางช่วงที่ติดขัด แก้ปัญหาได้เพราะมีการตรวจ การณ์ทางอากาศ พร้อมกับสั่งการให้ผู้รับผิดชอบได้ระบายรถได้ดีขึ้น

ส่วนเช้าวันที่ 24 พ.ค.ที่จะมีพิธีการเคลื่อนย้ายสรีรสังขาร ตั้งแต่เช้าถึงเย็นจะใช้กำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รปภ.มข. และอาสาตำรวจ ประมาณ 1,300?1,400 นาย เพื่อดูทั้งความปลอดภัย การจราจร และมิจฉาชีพ ทั้งนี้เชื่อว่าประชาชนที่ศรัทธาหลวงพ่อคูณ จะเดินทางมาร่วมในพิธีมากกว่า 500,000 คน

      เวลา 18.30 น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประชุมฯ มีประชาชนเข้าร่วมพิธีสวดอภิธรรมในคืนที่เจ็ด ซึ่งเป็นวันสุดท้าย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเดินทางมากราบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ และเป็นประธานในพิธีสวด ร่วมกับ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน และนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายเตช บุนนาค อุปนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

 

เคลื่อนสรีระพ่อคูณวันนี้ 5 แสนร่วม ส่งเป็นอจญ.แพทย์มข. 109 รูปเดินนำขบวนรถ อ่างดองมีปริศนาธรรม สวดวันสุดท้ายศิษย์ล้น

มติชนออนไลน์ : คลื่นศรัทธา - ศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วทุกสารทิศเข้าไหว้สรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จนล้นศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม

 

ปริศนาธรรม - อ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ มีปริศนาธรรมดอกทานตะวันและบัว 16 ดอก ที่คณะเเพทยศาสตร์ มข. เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม   

     คาด 5 แสนล้น'ขอนแก่น'ร่วมพิธีเคลื่อนสรีระสังขารพ่อคูณ ส่งดองเป็น อจ.ใหญ่ 109 รูปนำจูงหีบศพ ระดมตำรวจ-ทหาร-อาสาสมัคร 1,400 นาย คุมเส้นทาง-ดูความปลอดภัย มข.เตรียมดอกไม้ 1.5 แสนดอก

 

@ แน่นกราบพ่อคูณวันสุดท้าย

      เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 ของพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม สิริอายุ 92 ปี และได้ทำพินัยกรรมมอบร่างให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ หรืออาจารย์ใหญ่ โดยได้มีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ก่อนจะเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณไปยังภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. ในวันที่ 24 พฤษภาคม เพื่อเข้าสู่กระบวนการดองร่างเป็นเวลา 1 ปีนั้น บรรยากาศวันสุดท้ายของพิธีบำเพ็ญกุศลมีพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์และประชาชนทั่วทุกสารทิศ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ถนนทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ มข.หนาแน่นไปด้วยรถยนต์ ทั้งถนนมิตรภาพ ขาขึ้นจากจังหวัดนครราชสีมา และขาล่องจากจังหวัดหนองคาย อุดรธานี และถนนมะลิวัลย์ ที่มาจากทางจังหวัดภาคเหนือ คาดว่าจะมีประชาชนเกือบ 4 แสนคนเดินทางมาในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 04.00 น. บรรดาศิษยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อคูณ ได้พากันหลั่งไหลเข้าจับจองที่นั่งจนแน่นศูนย์ประชุม สถานที่จอดรถเนืองแน่นไปหมดทุกแห่ง นอกจากนี้ยังมีรถบัสโดยสารมากกว่า 40 คัน ได้นำญาติโยมจาก จ.นครราชสีมา อีกกว่า 5,000 คน เดินทางมาร่วมพิธี ทางเจ้าหน้าที่ต้องเปิดประตูอาคารชั้น 2 สถานที่ตั้งโลงแก้วใส่สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณก่อนกำหนด 1 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนทยอยเข้าไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณ ก่อนกำหนดเดิมที่จะต้องเปิดในเวลา 06.00 น.

 

@ ลายกนกสีทอง-ดอกบัวประดับอ่าง

       เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ชั้น 7 อาคารเรียนรวมภาควิชากายวิภาคศาสตร์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. นายยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ พร้อมคณะอาจารย์และนิสิตนักศึกษา จัดพิธีรับมอบอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากนายหฤษฎ์ อินทะกนก ประธานกรรมการ/ผู้จัดการบริษัท กนกไทย จำกัด และนายจักริน อินทะกนก ประธานที่ปรึกษาบริษัทกนกไทยฯ 

      นายจักริน กล่าวว่า บริษัทภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมบุญในการจัดทำอ่างดองสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณที่มีความกว้าง 60 ซม. ยาว 180 ซม. สูง 65 เซนติเมตร มีลวดลายไทยตามแนวคิดที่เรียบง่าย ไม่หรูหรา เป็นไปตามหลักคิดของศาสนาพุทธและเป็นปริศนาทางธรรม โดยอ่างดองจะประดับด้วยสแตนเลสสีทองลายกนก มีดอกทานตะวันตั้งอยู่เหนือสุด หมายถึงความรู้ มีดอกบัวจำนวน 16 ดอก ด้านหน้าข้างละ 5 ดอก ที่มีความหมายว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ และด้านข้างซ้ายขวา ประดับด้วยลายกนกสีทอง มีดอกบัว 3 ดอก หมายถึง ทาน ศีล และภาวนา เมื่อรวมทั้งหมด 4 ด้าน มีดอกบัวจำนวน 16 ดอก หมายถึงสวรรค์ 16 ชั้นฟ้า ทั้งนี้ การสร้างอ่างดองร่างใช้งบประมาณ 8 หมื่นบาท เงินจำนวนนี้ได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณบริจาคมาให้

 

@ หกโมงเช้า 24 พ.ค.บวช 109 รูป

        นพ.ชาญชัยกล่าวว่า สำหรับพิธีการวันที่ 24 พฤษภาคม จะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีพิธีบรรพชาสามเณร จำนวน 109 รูป โดยพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ณ อาคารพุทธศิลป์ สำนักวัฒนธรรม มข. เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า ณ ศูนย์ประชุม เวลา 08.00 น. สามเณร 109 รูป กราบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ และอนุโมทนา เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล อาราธนาศีล และอาราธนาธรรม และพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แสดงพระธรรมเทศนา เสร็จแล้ว พระสงฆ์ 123 รูป สวดมาติกา ประธานในพิธีถวายไทยธรรม พระสงค์อนุโมทนา/ประธานกรวดน้ำ รับพระ เวลา 14.00 น. พิธีทอดผ้าบังสุกุล ในช่วงเวลานั้นจะมีการฉายวีดิทัศน์ประวัติหลวงพ่อคูณ ประธานในพิธีทอดผ้ามหาบังสุกุล ประธานสงฆ์พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน วางดอกไม้เคารพสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ 

 

@ ติดกล้อง-รปภ.เฝ้าห้องดอง

        เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. นำสื่อมวลชนขึ้นไปยังชั้น 7 ห้องพิพิธภัณฑ์ อาคารเรียนรวม คณะเเพทยศาสตร์ มข. เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของสถานที่เก็บร่างสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ซึ่งภายในห้องเจ้าหน้าที่กำลังจัดเตรียมโต๊ะหมู่บูชา เก้าอี้ พร้อมประดับประดาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในพิธี มีการตั้งอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณไว้บริเวณด้านหน้าจุดกึ่งกลางของห้อง 

      นพ.ชาญชัย กล่าวว่า อ่างดองร่างที่เห็นเป็นอ่างดองชั้นในจะถูกใช้ดองร่างของหลวงพ่อคูณเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนอ่างเเก้วชั้นนอกยังอยู่ในระหว่างจัดทำเเละปรับเปลี่ยนรูปเเบบให้เหมาะสม ด้านซ้ายมือของอ่างดองจะเป็นที่ตั้งของอาสนะสงฆ์ โต๊ะหมู่บูชา ด้านขวาเป็นพื้นที่นั่งของคณะผู้บริหาร บรรดาญาติสนิทคนสำคัญเเละพระเถระชั้นผู้ใหญ่ "หลังพิธีส่งมอบร่างสรีระเสร็จสิ้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยเพราะทาง มข.ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เเละอาจจะนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูเเลห้องเก็บร่างสรีระเป็นการเฉพาะ ทาง มข.จะพยายามทำทุกอย่างให้รอบคอบที่สุดเเละไม่คิดว่าจะมีผู้ใดมีเจตนาไม่ดีต่อร่างสรีระ" คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข.กล่าว 

 

@ ยอดบริจาคเกือบ 40 ล้านบาท 

        นพ.ชาญชัยกล่าวอีกว่า เนื่องจากวันนี้เป็นคืนสุดท้ายของการสวดพระอภิธรรมคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมากกว่าทุกวัน ทาง มข.จึงได้ขยายเวลาให้ประชาชนได้เข้าเคารพกราบไหว้ร่างสรีระหลวงพ่อคูณจนกระทั่งถึงคนสุดท้ายจากเดิมที่จะปิดศูนย์ประชุมในเวลา 22.00 น. ส่วนยอดรับบริจาคเเละร่วมทำบุญจากพี่น้องประชาชนในปัจจุบันรวมประมาณ 36 ล้านบาท และหลังจากหักค่าใช้จายแล้วคาดว่าจะมีเงินเหลือประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้ากองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุที่อาพาธตามเจตนารมณ์ที่ระบุไว้ต่อไป

 

@ ทหาร-ตร. 500 คุมเคลื่อนร่าง

        จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. และ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ร่วมกันแถลงข่าวพิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ในวันที่ 24 พฤษภาคม โดยกิตติชัยกล่าวว่า การเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณจะมีการสับเปลี่ยนสรีระของท่านเข้าโรงไม้ และนำใส่เข้าโรงเย็น จะใช้สารวัตรทหาร (ส.ห.) จำนวน 8 นาย ยกโรงเย็นที่บรรจุใส่สรีระสังขารหลวงพ่อคูณ และกำหนดให้พระอริยะสงฆ์ พระสงฆ์ 109 รูป เดินจูงโลงที่ใส่ไว้ในรถนำขบวน จากนั้นรถนำขบวนจะเริ่มเคลื่อนออกจากศูนย์ประชุมไปที่อาคาร 7 ชั้น ของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และจะมีรถตามขบวนประมาณ 30 คัน เคลื่อนไปตามถนนกัลปพฤกษ์ จนไปถึงหัวมุมวัดป่าอดุลยวราราม เลี้ยวขวามุ่งตรงไปถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายผ่านเข้าศูนย์หัวใจสิริกิติ์ เข้าไปใน รพ.ศรีนครินทร์ มข. และเลี้ยวเข้าอาคาร 7 ชั้น ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ จากนั้นนำไปขึ้นลิฟต์ชั้น 1 ขึ้นไปที่ชั้น 7 ทำพิธีส่งมอบให้กับคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. "ตลอดสองข้างทางจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ รปภ. อาสาสมัคร กว่า 500 คน กันประชาชนที่คาดว่าจะมากกว่า 4-5 แสนคน กันผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณไม่ให้ล้ำไปบนผิวจราจร โดยให้ยืนรอส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณตลอดสองข้างทาง ซึ่งมีระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร" อธิการบดี มข.กล่าว และว่าส่วนช่วงเช้าที่เป็นพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ในช่วงที่เป็นการวางดอกไม้จะไม่เปิดให้ประชาชนเข้ามาวางในหอประชุม เพราะเกรงว่าจะทำให้พิธีการทางศาสนาไม่เสร็จสิ้น จึงได้กำหนดระยะเวลาไม่เกิน 15.30 น. และจัดเตรียมสถานที่วางดอกไม้รอบศูนย์ประชุมประมาณ 22 จุด

 

@ สวดมาติกา-ขอขมาก่อนมอบร่าง

       นพ.ชาญชัย กล่าวว่า เมื่อสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณได้มาถึงที่อาคารสูง 7 ชั้น ของคณะแพทยศาสตร์ มข. ก็จะนำเข้าลิฟต์ชั้น 1 ขึ้นสู่ชั้น 7 และเข้าสู่พิธีทางศาสนามีพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป สวดมาติกา พระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำกล่าวคำขอขมาและมอบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณแก่คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนของการศึกษาและเข้าสู่การใช้น้ำยาดองสรีระสังขารของท่านตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ผู้ศรัทธาหลวงพ่อคูณและศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณที่ติดตามมาจะไม่ได้เข้าไปในพิธีกรรมการขมาของคณะแพทยศาสตร์ มข.ในการขอสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณมาชำแหละการเรียนการสอนในคณะแพทยศาสตร์ด้วย แต่จะอยู่เฉพาะด้านล่างที่มีการถ่ายทอดสดสัญญาณของ มข.จากห้องชั้น 7 มาสู่จอแอลซีดีชั้นล่าง จำนวน 2 จอ เพื่อให้เห็นบรรยากาศของการทำพิธีที่ชั้น 7 

 

@ มข.เตรียมดอกบัว 1.5 แสนดอก

       นางขนิษฐา นันทบุตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มข. กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ทางคณะผู้จัดงานได้เตรียมดอกบัวไว้วันละ 50,000 ดอก อย่างวันนี้ดอกบัวกว่า 50,000 ดอก ที่เตรียมไว้รอบแรกหมดตั้งแต่ช่วงเช้าต้องนำดอกบัวมาวนใช้เป็นรอบที่ 7 แล้ว คาดว่ากว่าจะถึงเวลา 22.00 น. จะต้องนำดอกบัวมาวนใช้อีกหลายรอบทีเดียว ส่วนวันที่ 24 พฤษภาคมเตรียมดอกบัวไว้ให้ประชาชนจำนวน 150,000 ดอก ซึ่งดอกบัวจะไม่ถูกนำมาวนใช้ซ้ำจะถวายครั้งเดียวเท่านั้นหมดแล้วหมดเลย ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์ถึงพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปที่จะเดินทางมากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ ถ้าสะดวกก็เตรียมดอกบัวมาเองได้

    น.ส.อุไรนุช โมริ เจ้าหน้าที่ประสานงานโรงทาน กล่าวว่า เฉพาะวันนี้ยอดผู้มาทำโรงทานมีจำนวนมากกว่าทุกวัน อาจเพราะเป็นวันหยุด ซึ่งวันนี้มียอดผู้มาตั้งโรงทานที่ลงทะเบียนไว้กว่า 1,000 โรงทาน ที่มีทั้งอาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่ม ซึ่งประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเลย เพราะน่าจะมีเพียงพอ

 

@ ลูกบุญธรรมพ่อคูณร่วมบรรพชา

        เวลา 14.30 น. ที่สำนักกองกิจการนักศึกษา มข. มีพิธีปลงผมเพื่อเตรียมบรรพชาสามเณรจำนวน 109 รูป เพื่อเตรียมบรรพชาต่อหน้าสรีระสังขารหลวงพ่อคูณวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ในจำนวนนี้มีลูกชายบุญธรรมของหลวงพ่อคูณ 2 คน ที่เป็นพี่น้องมาร่วมบวชด้วย ชื่อนายชาคริสต์ หรือจก ลิ้มชูวงศ์ อายุ 21 ปี และนายธีทัต หรือทา ลิ้มชูวงศ์ อายุ 20 ปี

นายภาคภูมิ ทิทา หัวหน้างานวินัยนักศึกษา กองกิจการนักศึกษา มข. กล่าวว่า โครงการบรรพชาสามเณรมีขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้หลวงพ่อคูณ มีผู้แจ้งความประสงค์ในการบวช 109 คน ประกอบด้วยนักศึกษา มข. 31 คน บุคลากร มข. 15 คน และศิษยานุศิษย์และคนทั่วไป 63 คน

      นายชาคริสต์ กล่าวว่า สมัยเด็กๆ หลวงพ่อคูณให้ตนกับน้องเรียกท่านว่าพ่อจึงเรียกว่าพ่อมาตลอด และครั้งหนึ่งได้ขอว่าถ้ามรณภาพขอให้ตนกับน้องชายบวชให้ท่าน 3 วัน แต่ตนคุยกับน้องว่าจะบวชให้เบื้องต้นเพื่อส่งสรีระสังขาร และจะบวชให้อย่างเป็นทางการที่วัดบ้านไร่ ในปี 2561 อีกครั้งหลังมีพิธีพระราชเพลิงศพอาจารย์ใหญ่

"ตอนเด็กๆ ผมกับน้องชายวิ่งเล่นเข้าออกกุฏิหลวงพ่อคูณบ่อย ท่านชอบกอดและชอบเอาหัวผมกับน้องมาถูเล่นกัน วันที่ทราบว่าอาพาธหนักเข้าไอซียู ผมรีบมาดูที่โรงพยาบาล น้ำตาไหลไม่อยากเชื่อว่าหลวงพ่อคูณจะไปแล้วจริงๆ ที่ผ่านมาไม่สอนอะไรมาก บอกแค่ว่ากูให้มึงเป็นคนดี" นายชาคริสต์กล่าว 

        พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เผยภายหลังประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก., รอง ผกก., สว.สส., สว.จร. และตำรวจที่ได้รับคำสั่งให้ดูแลความเรียบร้อยด้านการจราจร ในการเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงพ่อคูณว่า ในวันที่ 24 พฤษภาคม ตั้งแต่เช้าถึงเย็นจะใช้กำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รปภ. และอาสาตำรวจประมาณ 1,300-1,400 นาย เพื่อดูทั้งความปลอดภัย การจราจร และมิจฉาชีพที่จะเข้ามาก่อเหตุฉวยโอกาสฉกชิงวิ่งราวในงานพิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ เพราะเชื่อว่าประชาชนที่ศรัทธาหลวงพ่อคูณจะเดินทางมาร่วมในพิธีมากกว่า 500,000 คน

 

@ จัดรถไฟฟรี 4 เที่ยวรับ-ส่ง 24 พ.ค. 

         นางนวลอนงค์ วงศ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.ได้จัดตู้โดยสารพ่วงเพิ่มไปกับขบวนรถไฟท้องถิ่นที่ให้บริการฟรีในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือรองรับประชาชนที่ต้องการไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ไปกลับ 4 เที่ยวพบว่ามีประชาชนมาใช้บริการเต็มทุกที่นั่งไม่ต่ำกว่า 2,200 คน จนทำให้ประชาชนบางส่วนต้องยืนโดยสารไป ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นประชาชนใกล้เคียง จ.ขอนแก่น ส่วนประชาชนที่อยู่พื้นที่ไกลส่วนมากจะขับรถยนต์ส่วนตัวหรือเหมารถตู้ไปกันเอง 

        นางนวลอนงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนวันเคลื่อนย้ายร่างไปดอง รฟท.ยังเปิดให้บริการรถไฟฟรีขบวนท้องถิ่นเที่ยวไป 431แก่งคอย-ขอนแก่น ออก 05.00-12.00 น. และขบวน 415 นครราชสีมาออก 06.20-09.40 น. ส่วนเที่ยวกลับ 432 ขอนแก่น-แก่งคอย ออก 13.55-20.30 น. และขบวน 418 หนองคาย-ขอนแก่นออก 13.04-15.54 น. รวม 4 เที่ยวอีก 1 วัน ผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟฟรีต้องนำบัตรประชาชนติดต่อขอรับตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟก่อนขบวนรถออกทุกครั้ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

@ บริจาคร่างพุ่ง 100 รายต่อวัน

       ด้าน นายยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนแจ้งความประสงค์จะบริจาคร่างกายให้แก่คณะแพทย์ มข.เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้แก่นักศึกษาแพทย์เพิ่มมากขึ้น ยอมรับว่าเป็นผลจากบารมีของหลวงพ่อคูณที่เสียสละเป็นต้นแบบ เพราะโดยปกติมีผู้มายื่นความประสงค์บริจาคร่างกายเฉลี่ยวันละ 50 ราย แต่หลังจากหลวงพ่อคูณละสังขาร มีประชาชนสนใจมาบริจาคร่างกายเพิ่มขึ้นกว่าปกติวันละกว่า 100 รายขึ้นไป 

 

@ 'บวรศักดิ์'ปธ.สวดคืนสุดท้าย

      ช่วงค่ำเวลา 18.30 น. ที่ศูนย์ประชุม มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมในคืนสุดท้ายคืนที่ 7 จนล้นออกมานอกห้องประชุมมากกว่าทุกคืนที่ผ่านมา โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้เดินทางมากราบสรีระสังขารและเป็นประธานในพิธีสวด ร่วมกับนายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภา มข. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และยังมีนายบวรศิลป์ เชาวน์ชื่น กรรมการสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น นายเตช บุนนาค อุปนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรม มีพระสงฆ์จำนวน 4 รูป จากวัดวุฒาราม และมีพระราชปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานสวดพระอภิธรรมฝ่ายสงฆ์ เเละนายณรงค์ชัยเป็นประธานฝ่ายฆราวาส

 

@ โคราชจัดบัส 70 คันมุ่งขอนแก่น

       ที่ จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในวันที่ 24 พฤษภาคม ทางจังหวัดได้จัดรถบัสโดยสารเพิ่มเติม เพื่อรองรับประชาชนที่จะไปร่วมงานที่บริเวณลานสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเดิม 10 คันเพิ่มเป็น 20 คัน นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.นครราชสีมา จัดรถบัสโดยสารเพิ่มอีก 10 คัน อีกทั้งยังมีสมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมาตามอำเภอจัดรถโดยสารปรับอากาศบริการแก่ประชาชนเดินทางไปร่วมงานจำนวน 40 คัน สรุปว่าจะมีรถบัสโดยสารที่เดินทางออกจากจังหวัดนครราชสีมาเพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดขอนแก่นจำนวน 70 คัน

 

@ ผวจ.ยันเงินมูลนิธิ 47 ล้านอยู่ครบ

        นายธงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับบัญชีเงินของวัดบ้านไร่ในส่วนของมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ที่มี ผวจ.นครราชสีมาเป็นประธานโดยตำแหน่งนั้น คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทุกเมื่อ มูลนิธิมีหลักฐานบัญชีถูกต้องครบถ้วน เงินไม่ได้หายไปไหน 1,000% การถอนหรือฝากเงินจะต้องมีหลักฐานบันทึกจากคณะกรรมการมูลนิธิ ใครจะถอนเงินออกไปไหน ทำอะไร จะต้องผ่านที่ประชุมของคณะกรรมการและมีหลักฐานยืนยันทุกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีเงินอยู่ในบัญชีตัวเลขประมาณ 47 ล้านบาท ไม่ได้หายไปไหน ขอให้ทุกคนสบายใจได้อย่าได้กังวล ส่วนเงินในบัญชีและทรัพย์สินในรูปแบบอื่นๆ ที่ลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ดูแลอยู่ก็ต้องรอการตรวจสอบของคณะกรรมการ ถ้าการตรวจสอบเป็นไปโดยราบรื่นก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหาหรือเกิดมีความเห็นไม่ตรงกันและมีความขัดแย้งตามมาก็ต้องอาศัยกฎหมาย โดยวัดเป็นนิติบุคคลสามารถแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาและฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายแก่ผู้เกี่ยวข้องได้ 

 

@ ศิษย์เอกเล่าความหลังพ่อคูณ

     ที่ จ.ชัยภูมิ หลวงพ่อทอง สุทธสีโล เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขายายหอม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ในฐานะศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า สมัยไปอุปสมบทที่วัดสระแก้ว จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2514 ช่วงนั้นหลวงพ่อคูณอาพาธเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีและมาจำวัดที่วัดสระแก้ว จึงเริ่มรู้จักท่านตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นปี 2516 หลวงพ่อคูณเริ่มให้ศึกษาภาษาขอม ลงอักขระยันต์ สมุด 2 เล่ม รวมทั้งให้อาตมาเขียนตะกรุดโทนยันต์ 8 มุม เป็นงานชิ้นแรกที่หลวงพ่อคูณมอบหมายให้ทำ ตั้งใจจะนำรายได้มาสร้างกุฏิหลังใหม่ พอดีเป็นช่วงสงครามเวียดนามมีงานสั่งทำเข้ามาเป็นหมื่นๆ แผ่น อาตมาต้องเป็นผู้จารอักขระหลวงพ่อคูณจะลงมาซุ่มดูเสมอว่าฉันตั้งใจทำงานหรือไม่ บางครั้งทำไปนานๆ ก็ง่วงพักนอนบ้าง พอรู้ว่าง่วงท่านก็หากาแฟมาให้ 

       "ตอนนั้นหลวงพ่อคูณจะทำหน้าที่รับผู้คนทั้งมาให้เคาะหัว เป่ากระหม่อม ส่วนอาตมาทำหน้าที่จารอักขระถวายท่านจนถึงปี 2527 หลวงพ่อแถวเจ้าอาวาสวัดสระแก้วมรณภาพ พอแต่งตั้งเจ้าอาวาสใหม่หลวงพ่อคูณได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสุขสันติการาม จ.นครราชสีมา และในปี 2528 ไปจำพรรษาที่วัดบัวชุม อ.ชัยบาดาล พอออกพรรษาจึงกลับมาที่วัดบ้านไร่ ปี 2529 ซึ่งอาตมาได้มาอยู่ที่วัดบ้านไร่ถึง 3 ปี และหลังจากนั้นช่วงปี 2536-37 ชื่อเสียงหลวงพ่อคูณเริ่มโด่งดังจนมีเหรียญสารพัดรุ่นที่ออกมามากมายจนแทบจำไม่ได้" หลวงพ่อทองกล่าว 

 

@ เจริญรอยตามสร้างคุณประโยชน์

     เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทฯกล่าวอีกว่า หลังจากหลวงพ่อคูณสิ้นแล้วอาตมาตั้งใจเจริญรอยตาม ถ้าเป็นเจ้าอาวาสแล้วต้องสร้างต้องทำ จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้ สร้างบารมี นำญาติโยมทำไปจะได้เป็นบุญเป็นกุศล หลวงพ่อคูณเคยพูดเอาไว้ ตอนที่สร้างสิ่งต่างๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ว่า ที่ทำที่สร้างไม่ได้ต้องการเป็นพระพุทธเจ้าดอก แต่ต้องการเป็นอัครมหาเศรษฐี จะได้เอาเงินนั้นมาช่วยเหลือชาวบ้าน สร้างโรงพยาบาลบ้าง อะไรต่างๆ จะตั้งใจสานต่อปณิธานของท่านให้ได้ดีที่สุด ตามกำลัง 

 

@ หลวงปู่ยกย่องแบบอย่างเกจิ

      หลวงปู่เร็ว ฉันทโก เจ้าอาวาสวัดหนองโน อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า หลวงพ่อคูณมีวิธีการสอนหลักธรรมไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เช่นใช้ไม้กระบองเคาะหัว เพื่อแผ่มงคลแก่ญาติโยมที่เลื่อมใส ศรัทธา และพูดเป็นนัยว่าการเคาะหัวนั้นส่วนจะดีหรือไม่ดีนั้นอยู่ที่การปฏิบัติตัวเอง ซึ่งเป็นตัวตนของหลวงปู่คูณที่โดดเด่นและเป็นผลให้มีลูกศิษย์ลูกหากับผู้คนเลื่อมใสศรัทธามากมาย และยังมีเงินบริจาคทำบุญให้แก่หลวงพ่อกับวัดบ้านไร่จำนวนมาก แล้วท่านก็นำเงินเหล่านั้นกลับมาทำคุณประโยชน์แก่สังคมอย่างมาก "เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน" 

       "การที่หลวงพ่อคูณได้ทำพินัยกรรมยกร่างกายให้กับคณะแพทย์ มข. นั่นเรียกว่า 'กายวิทยาทาน' อาจารย์ใหญ่ มีคุณค่ามาก เพราะนักเรียนแพทย์สามารถเรียนรู้การทำงานของร่างกาย เนื่องจากไม่สามารถเรียนรู้จากคนเป็นได้ นักศึกษาแพทย์เองจะได้ประโยชน์สูงสุด ร่างของหลวงพ่อคูณแห่งวัดบ้านไร่ก็ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกศิษย์ที่เคารพเลื่อมใสที่มีอยู่ทั่วประเทศ ได้ทำตาม นับว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีคติ คำสอน ประพฤติปฏิบัติเป็นอย่างดี" หลวงปู่เร็วกล่าว

 

@ 'แอ๊ด คาราบาว'แต่งเพลงใหม่

       นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) นครราชสีมา ลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิดภายหลังมีการตั้งพระภาวนาประชานาถ หรือหลวงพ่อนุช ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และเกิดประเด็นความขัดแย้ง ซึ่งการตั้งเจ้าอาวาสวัดตัวจริงต้องผ่านการพิจารณาของพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภออย่างน้อย 3 รูปมาพิจารณาร่วมกัน รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นจากชาวบ้าน ก่อนที่จะเสนอชื่อไปยังเจ้าคณะจังหวัดเพื่อพิจารณา

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ในเว็บไซต์ยูทูบได้มีการมีเผยเเพร่เพลงเทพเจ้าด่านขุดทด ที่ระบุว่าแต่ง คำร้องเเละทำนองโดยแอ๊ด คาราบาว มีเนื้อเพลงท่อนต้นว่า "กูจนกว่าใครๆ จนที่สุดในโลก กูจนร่างกาย เพราะร่างกายกูแคระแกร็น กูจนการศึกษา มีใครรู้หรือเปล่า กูไม่ได้เล่าเรียนเท่าคนอื่นๆ หมื่นแสน กูจนกระทั่งพ่อแม่ ท่านตายตอนกูยังเด็ก ความจนทั้งหมดทั้งหลาย กูมีธรรมะคอยทดแทน"

 

 

พระเถระเฉลยข้อสงสัย มหาทานของ'หลวงพ่อคูณ'

 

      พระเทพวิทยาคม หรือ 'หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ' เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ละสังขารไปแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา 

      หลวงพ่อคูณยังได้ทำพินัยกรรม มอบศพให้แก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มข. และเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าให้จัดงานแบบเรียบง่าย เช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆ

      นับเป็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวงที่หลวงพ่อคูณได้ฝากไว้ในยามที่ต้องละสังขาร ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่พุทธศาสนิกชนไทยจำนวนมากไปบริจาคร่างกายเพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มข.

       การบริจาคสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณเพื่ออุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่นั้น แม้มีผู้ที่เห็นด้วยค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีข้อสงสัยจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย "พระราชวิมลโมลี" (ดำรง ทิฏฺฐธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดพายัพ จ.นครราชสีมา ให้ทรรศนะในทางธรรมว่า หลายคนสงสัยว่าที่หลวงพ่อคูณบริจาคร่างกายเพื่ออุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ เหมาะสมหรือไม่ และถูกหรือผิด 

      อาตมามองว่า หลวงพ่อคูณท่านบำเพ็ญทานระดับอุปบารมี ซึ่งหมายถึงการให้เลือด เนื้อ อวัยวะในร่างกายตนนั่นเอง หลวงพ่อคูณท่านเป็นพระผู้ให้ เมื่อมีผู้มาขอ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ท่านก็ยินดีให้โดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาหลอก และท่านเป็นพระเกจิที่ไม่สั่งสมทรัพย์ ได้ปัจจัยมาเท่าไหร่ก็บริจาคหมด ส่วนที่หลวงพ่อคูณมีหนี้สินมาก เพราะเป็นหนี้ที่ท่านรับปากไว้กับผู้มาขอ ท่านให้ลงบัญชีเอาไว้ เมื่อมีปัจจัยก็ทยอยให้ไปตามคิวนั่นเอง 

หลวงพ่อคูณทำให้เห็นเป็นแบบอย่างในการบำเพ็ญทาน และท่านอยากเห็นลูกศิษย์เจริญรอยตามในการเป็นผู้ให้ ส่วนการที่ท่านบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะท่านคิดว่าร่างกายของท่านยังเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ดีกว่าปล่อยให้มันเน่าเปื่อยไป ท่านจึงบริจาคให้กับทาง มข.เพื่อนำไปศึกษา 

       "อีกประเด็นหนึ่ง ถ้าท่านไม่ได้บริจาคร่างกาย อาจเกิดศึกแย่งชิงสรีระสังขารท่าน ในกลุ่มลูกศิษย์และกลุ่มประชาชน ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายตามมา หลวงพ่อท่านมองการณ์ไกล ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงระบุไว้ในพินัยกรรมอย่างชัดเจนว่า เมื่อมรณภาพแล้วให้นำสรีระสังขารมอบให้ มข.ภายใน 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าสรีระสังขารของท่านเป็นสมบัติของ มข.แล้ว เมื่อครบ 3 ปีให้นำไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น และนำเถ้ากระดูกลอยอังคารที่แม่น้ำโขง เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงใดๆ หรือเกิดการอุปโลกน์ว่ากระดูกของท่านกลายเป็นพระธาตุ"

      "หลวงพ่อคูณท่านไม่ต้องการเช่นนั้น ท่านต้องการให้ทุกอย่างสงบ นี่เป็นเรื่องที่หลวงพ่อคูณวิเคราะห์ไว้เสร็จสรรพแล้วว่าเมื่อท่านมรณภาพจะเกิดปัญหาอะไรตามมาบ้าง ส่วนที่ประชาชนกังขาและลูกศิษย์หลายคนไม่อยากให้นำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณไปเชือดเฉือน หรือทำการใดๆ นั้น อาตมาอยากทำความเข้าใจกับญาติโยมว่าหลวงพ่อท่านมรณภาพแล้ว และแพทย์นำสรีระสังขารไปศึกษาตามความประสงค์ของท่าน" พระราชวิมลโมลีกล่าว

       พระเทพเมธี (สมเกียรติ โกวิโท) เจ้าคณะภาค 9 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ กล่าวว่า การบริจาคสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณ เป็นเรื่องที่ประชาชนและพระสงฆ์ตื่นตัวมาก หลังจากหลวงพ่อคูณได้ละสังขารแล้ว ท่านยังสร้างทานบารมีโดยการบริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการศึกษา ในมุมมองของคณะสงฆ์มองว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้ชาติและศาสนา

      ผู้ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อคูณจะทราบดีในเรื่องคำสอนของหลวงพ่อคูณว่า "ให้รู้จักให้ ให้รู้จักพอ" ซึ่งท่านทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว ทั้งในเรื่องของการให้และเรื่องของความพอเพียง ทั้งนี้ คณะสงฆ์ไม่มีใครตำหนิในเจตนารมณ์อันดีงามของหลวงพ่อคูณ เพราะพระในนิกายมหายาน เมื่อมรณภาพแล้ว ได้เสียสละร่างให้เป็นอาหารของสัตว์เดรัจฉาน เปรียบเป็นการอุทิศร่างกายให้เป็นประโยชน์เช่นกัน เพราะเหตุนี้จึงทำให้ลูกศิษย์ของท่านหลายคนตัดสินใจบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ตามหลวงพ่อคูณ

    "ในเรื่องภพชาติ บางคนอาจมีความเชื่อที่ผิดว่าการเสียสละร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ หรือบริจาคอวัยวะในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อตายไปแล้วจะเกิดเป็นคนพิการ ซึ่งตามหลักของพระพุทธศาสนา การไปเกิดในภพชาติใหม่ จิตเป็นตัวปรุงแต่งทั้งหมด ไม่ใช่ร่างกายเป็นตัวปรุงแต่ง ดังนั้น การที่หลวงพ่อคูณบริจาคร่างกายของท่านให้เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นการสร้างมหาทานอันยิ่งใหญ่ เมื่อท่านปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ การสร้างทานบารมีเช่นนี้จะทำให้ท่านถึงฝั่งพระนิพพาน" พระเทพเมธีกล่าว

      หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลวงพ่อคูณ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่และเป็นพระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งของศาสนาพุทธในประเทศไทย เป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตากรุณาต่อประชาชนทุกผู้ทุกนาม โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ และท่านยังได้สร้างสาธารณประโยชน์มากมาย ท่านเป็นพระผู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่สรีระสังขารของท่าน นับว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พระสงฆ์ของประเทศไทย 

        "พระธรรมโมลี" (ดร.พระมหาทองอยู่ ญาณวิสโธ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย พระอารามหลวง ต.ในเมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า อาตมาก็เคยเป็นศิษย์ของหลวงพ่อคูณ เคยไปศึกษาเล่าเรียนกับท่านมาระยะหนึ่ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่พูดจริง ทำจริง เห็นมาอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น ไม่มีการชักแม่น้ำทั้ง 5 มาขยายความให้มากเรื่อง คำพูดคำสั่งสอนของท่านใช้ภาษาสมัยพ่อขุนรามคำแหง ไม่ถือยศถือตัว มีความจริงใจกับทุกคนที่เข้ามาหา ท่านสร้างบุญบารมีไว้เยอะมาก มีพระสงฆ์รูปไหนในประเทศไทย ที่ทำได้อย่างท่านบ้าง ถือว่ายิ่งใหญ่มาก

       "ร่างกายของท่านนี้ เป็นอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นบุญบารมีที่คนรุ่นหลังจะได้สำนึกในสิ่งที่ท่านได้ทำไว้ ท่านสอนทุกคนให้เป็นคนเสียสละ จะสละมากสละน้อยก็เป็นไปตามกำลังศรัทธาที่มี ทำให้พุทธศาสนิกชนมีแต่ความชื่นชม ยกย่อง และศรัทธาในตัวท่านโดยเสมอมา" 

พระมหาคาวี ญาณสาโร เจ้าอาวาสวัดสะพานคำ ต.ธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร กล่าวว่า ในการบริจาคร่างกาย ท่านจะเน้นปัญญาความรู้ อยากให้นักศึกษาแพทย์ได้ความรู้ ซึ่งเมื่อก่อนการบริจาคร่างกายอวัยวะต่างๆ น้อยมาก เพราะคนไทยบางทีก็มีความเชื่อว่าถ้าบริจาคร่างกายตายไปเกิดมาในชาติหน้าร่างกายจะพิการไม่ครบสมบูรณ์ แต่แนวคิดของหลวงพ่อคูณเมื่อบริจาคร่างกายไปแล้วก็สามารถแก้คตินี้ได้ ต้องมีผู้ที่มีความเชื่อในระดับสูงพานำจนทำให้คนแห่แหนไปบริจาคในร่างกายเพื่อเป็นทานและได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ 

       การบริจาคร่างกายของหลวงพ่อคูณ เป็นการสร้างมหาทานอันยิ่งใหญ่ เป็นแบบอย่างและทางเลือกสำหรับผู้ปรารถนาบำเพ็ญทานให้ถึงที่สุด

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!