- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Saturday, 04 April 2015 20:05
- Hits: 4468
ระทึกวัดป่าตาบัว บุกชิงหมี จนท. 400 นายปิดล้อม ยก 6 กรง-ข้ามกำแพง สมภารฮึด-ยื้อข้ามวัน พาพระ-เณรขวางรถ!
ป่าไม้-ตำรวจ-ทหารและฝ่ายปกครองสนธิกำลัง 400 นาย ปฏิบัติการชิงหมีควาย 6 ตัว พ้นจากวัดป่าหลวงตามหาบัว จ.กาญจนบุรี หลัง เจ้าอาวาสพร้อมพระ-เณรและลูกศิษย์กว่า 50 คน นั่งขวางทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ขับรถย้ายสัตว์ออกไป เหตุการณ์ยืดเยื้อข้ามวัน-ข้ามคืน เจรจาก็ไม่เป็นผล สุดท้ายอธิบดีกรมอุทยานฯใช้ไม้เด็ดใช้เครนยกกรงหมีข้ามกำแพงวัดนำไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง ลั่นดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสและผู้ขัดขวาง
ยึดหมี- พระวิสุทธิสารเถร เจ้าอาวาส วัดป่าหลวงตามหาบัว จ.กาญจนบุรี พร้อมลูกศิษย์เกือบร้อยคน นั่งขวางไม่ให้กรมอุทยานฯ เข้าไปยึดหมีควาย 6 ตัวจากวัด จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธียกกรงข้ามกำแพงออกไป เมื่อวันที่ 3 เม.ย. |
วันที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8893 ข่าวสดรายวัน
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายสิกขพงษ์ กระแจะจันทน์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย สพ.ญ.ศิรินทิพย์ เข็มทอง สัตวแพทย์ประจำสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมทีมงานสัตวแพทย์ และพ.ต.ท.วัตรไชย รอดไหม รอง ผกก.สส.สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 (ไทรโยค) เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง พร้อมกำลัง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค.289/2558 ลงวันที่ 2 เม.ย.2558 เดินไปที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อยึดหมีควายจำนวน 6 ตัว ที่ถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่ โดยเริ่มปฏิบัติการเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เดิมทีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบไมโครชิพเสือของกลางทั้งหมดที่มีอยู่ จำนวน 146 ตัว เพื่อนำไมโครชิพไปเปรียบเทียบกับไม่โครชิพของเสือจำนวน 3 ตัว ที่มีข่าวว่าถูกขโมยออกไปจากวัดเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งวันที่ 1 เม.ย. ได้เข้ามาขอตรวจสอบไมโครชิพของเสืออีกครั้งหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางกลับเจ้าหน้าที่พบกรงเหล็กขนาดใหญ่ จึงเข้าไปตรวจสอบว่าภายในกรงมีอะไร ก็พบหมีควายหรือหมีดำ สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 อยู่จำนวน 6 ตัว เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปขอหมายค้นจากศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อเข้ามาตรวจสอบ และจากการนำบัญชีสัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานฯเคยฝากให้วัดเลี้ยงดู ก็พบว่าหมีทั้งหมดไม่มีอยู่ในบัญชีของกลาง อีกทั้งทางวัดไม่มีเอกสารการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงต้องตรวจยึดพร้อมนำหมีทั้ง 6 ตัว ไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์วุ่นวายและชุลมุนเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด หลังคณะเจ้าหน้าที่วางยาหมีควายทั้ง 6 ตัวแล้วนำเข้ากรงขึ้นรถบรรทุกของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์บางละมุงเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งต้องขนย้ายหมีทั้งหมดออกมานอกเขตวัดก่อนเวลา 18.00 น. ตามหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรีกำหนดเวลาเอาไว้ แต่เมื่อมาถึงประตูทางออกในเวลาประมาณ 17.00 น. ปรากฏว่า พระวิสุทธิสารเถร หรือ หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส พร้อมพระสงฆ์ สามเณรกว่า 100 รูป รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเสือทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาปิดล้อมขบวนรถของคณะเจ้าหน้าที่เอาไว้
ทั้งนี้ พระวิสุทธิสารเถรได้นั่งและยืนขวางรถบรรทุกหมีเอาไว้ พร้อมตะโกนประกาศขอยอมตายพร้อมกับหมีทั้ง 6 ตัว ขณะที่คนอื่นๆต่างร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ส่วนพนักงานผู้ชายจำนวนหนึ่งก็มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรงพร้อมขัดขวางการปฏิบัติ หน้าที่ ทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย และเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทางเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายเหตุผลแต่ก็ไม่มีใครสนใจ
จนผ่านไปกว่า 30 นาที นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง จึงอ่านหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ให้ทุกคนรับฟัง แต่ทางฝ่ายของวัดก็ยังไม่ยินยอม นอกจากนี้ ชาย 2 คน เกิดกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดหมายศาล แต่ ทั้งสองก็ไม่สนใจ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยคดำเนินคดี
ต่อมาเวลาประมาณ 17.45 น. พระวิสุทธิ สารเถรจึงนำพระสงฆ์พร้อมสามเณร มานั่งเรียงแถวขวางรถบรรทุกหมีทั้ง 6 ตัวเอาได้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นด้านหน้าเอาไว้ พร้อมทั้งย้ายโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กันมาตั้งขวางเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะที่คณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯก็ต้องดูแลสุขภาพของหมีทั้ง 6 ตัว ที่อยู่ในกรงบนรถบรรทุกอย่างตั้งใจ เพราะอากาศในช่วงดังกล่าวค่อนข้างร้อนอบอ้าว จึงเกรงว่าหมีอาจจะเกิดอาการหงุดหงิดและส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะหมีควายเพศผู้อายุประมาณ 7-8 ปี มีน้ำหนักถึง 450 กิโลกรัม
ต่อมานายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รอง ผวจ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยนายณรงค์ ไพศาลทักษิณ ปลัด จ.กาญจนบุรี นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอไทรโยค พ.ต.อ. บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปที่วัด เพื่อประชุมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยมี พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ เป็นตัวแทนเข้าประชุมหารือ ใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง จึงไปนิมนต์พระ วิสุทธิสารเถรที่นั่งขวางรถมาร่วมด้วย แต่ถูกปฎิเสธ จึงหารือกันอีกกว่า 1 ชั่วโมง
นายบุญญะพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากประชุมครั้งแรกก็ได้ไปนิมนต์เจ้าอาวาสมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก แต่ทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านสัตวแพทย์หญิง สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า หลังจากมีการขัดขวางไม่ให้ขนย้ายหมีออกมา สิ่งที่คณะสัตวแพทย์เป็นห่วงที่สุดคือสุขภาพของหมีทุกตัวที่อยู่ในกรง ซึ่งก่อนที่จะนำหมีเข้ากรงคณะสัตวแพทย์ได้วางยาสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง และหากมีการนำหมีกลับไปไว้ที่วัด ก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะหากนำหมีกลับไปลงที่กรงในช่วงเวลากลางคืน จะเกิดอันตรายต่อคนและสัตว์ เพราะหมีเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย อาจจะทำร้ายคนได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน และหากให้ยาสลบอีกครั้งหนึ่งก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะมันเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ เราจะไม่มีการให้ยาสลบเป็นครั้งที่สองติดต่อกันเช่นนี้ และมีทางเดียวที่จะให้หมีปลอดภัยคือจะต้องรีบขนย้ายหมีทั้งหมดไปที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี ให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ต้องรีบนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน หรือเขาประทับช้างที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว
ด้านนายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ กล่าวว่า หลังจากมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น อีกทั้งทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอมให้นำหมีออกไปจากวัด และหลังจากมีการหารือกับรอง ผวจ.กาญจนบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความว่าให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ขณะเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมง ทางวัดก็ยังคงนั่งขวางรถบรรทุกหมีอยู่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะได้เฝ้าดูสถานการณ์ไปจนกว่าจะถึงเช้า และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงเวลา 23.30 น.บรรยากาศยังคงตึงเครียดอยู่ ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทราบแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 เม.ย. นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช มอบหมายให้นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ผอ.สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 7 แห่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ นปพ.จังหวัดกาญจนบุรี หน่วยปราบจลาจล สภ.เมืองกาญจนบุรี กว่า 400 นาย เดินทางมาเจรจาหาทางออกกับพระวิสุทธิสารเถรที่นั่งปิดประตูทางเข้าออกวัด พร้อมกับพระลูกวัดและสามเณรกว่า 50 รูป
เมื่อคณะของนายธัญญาเดินทางมาถึงก็ได้เข้าไปกราบนมัสการเจ้าอาวาส และได้แนะนำตัว พร้อมกับเจรจาขอร้องให้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ขนย้ายหมีทั้ง 6 ตัวออกไป แต่พระวิสุทธิสารเถรปฏิเสธและไม่ยินยอมให้นำหมีทั้ง 6 ตัวออกไปจากวัดเด็ดขาด และจะไม่เจรจา ยกเว้นเจ้าหน้าที่ จะนำหมีกลับไปไว้ภายในกรงที่เดิม ซึ่งบรรยากาศการเจรจาค่อนข้างตึงเครียด โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที นายธัญญาพร้อมคณะที่เข้าร่วมเจรจาจึงกราบนมัสการลา เพื่อไปประชุมวางแผนกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ของวัดไม่อนุญาตให้ใช้ห้องประชุม คณะทั้งหมดจึงไปใช้บริเวณโรงอาหารติดกับห้องจำหน่ายตั๋วเข้าชมเสือเป็นสถานที่ประชุมชั่วคราว โดยให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ยืนคล้องแขนกันเป็นวงกลมปิดล้อมเอาไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากนั้นนายธัญญา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าทำตามแผนที่วางเอาไว้ โดยแบ่งกำลังออกเป็นหลายชุด ชุดแรกไปตั้งแถวป้องกันที่บริเวณหน้าประตูทางเข้า ส่วนหลังประตูตั้งแถวหน้ากระดานสองชั้น โดยให้เจ้าหน้าที่ขับรถบรรทุกหมีจำนวน 6 ตัวถอยหลังออกไปให้ห่างจากประตู จากนั้นคนขับได้ขับรถเลี้ยวไปจอดที่กำแพงวัดฝั่งซ้ายมือที่อยู่ห่างจากประตูวัดประมาณ 200 เมตร เมื่อไปถึงก็ได้ใช้เครนยกกรงหมีข้ามกำแพงวัดที่สูงประมาณ 4 เมตร โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อจอดรอรับหมีอยู่ฝั่งตรงข้าม
ขณะนั้น ทางวัดเองยังไม่ทราบว่า คณะเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างไร เพียงแต่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า หากเจ้าหน้าที่ทำลายกำแพงวัดก็ขอให้ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับประกาศให้พระสงฆ์และสามเณร นำจีวรพระชุบกับน้ำให้เปียกเพื่อป้องกันแก๊สน้ำตา แต่เมื่อมาทราบภายหลังว่าคณะ เจ้าหน้าที่ได้วางแผนยกกรงหมีควายทั้ง 6 กรง ข้ามกำแพงใส่รถบรรทุก 6 ล้อที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้ทั้งพระลูกวัดและสามเณร พร้อมทั้งพนักงานและเจ้าหน้าที่ของวัด ต่างวิ่งกรูกันไปเพื่อขัดขวาง ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ก็ได้พยายามป้องกันเอาไว้อย่างทุลักทุเล แต่ก็มีเล็ดลอดออกไปได้ และเมื่อไปถึงทุกคนต่างก็ได้แต่มองโดยไม่สามารถเข้าไปขัดขวางเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากกำแพงวัดมีความสูงประมาณ 4-5 เมตรขวางเอาไว้ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ใช้เวลาถ่ายเทกรงหมีประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้สร้างความชุลมุนวุ่นวายเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแม้แต่เพียงรายเดียว
นายธัญญา เปิดเผยภายหลังว่าตนได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้มาดำเนินการนำหมีควายของกลางออกไปจากวัดให้ได้ โดยได้รับมอบหมายให้มาเจรจากับเจ้าอาวาส แต่จากการเจรจาก็ไม่ เป็นผล เพราะเจ้าอาวาสยืนยันอย่างเดียวว่าไม่ยอม พร้อมทั้งอ้างว่าได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสอย่างถูกกฎหมาย และขณะนี้ที่วัดมีการบวชพระเพื่อเฉลิมพระเกียรติอยู่ ซึ่งตนมองว่าจากเหตุผลดังกล่าวมันเป็นคนละประเด็นกัน ซึ่งตนได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสอย่างละมุนละม่อม แต่เจ้าอาวาสก็ไม่ยอม รับฟัง และตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตาม ที่มีการวางแผนไว้ ซึ่งการขนถ่ายย้ายหมี ข้ามกำแพงครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังนำหมีทั้ง 6 ตัวไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า บางละมุง หลังจากนี้ก็จะดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อไป
ส่วนการที่ พระวิสุทธิสารเถรแถลงต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าว่า หากกรมอุทยานฯ ต้องการนำเสือไปเลี้ยงเอง จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเสือตัวละ 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในส่วนนี้ทางกรมอุทยานฯทราบว่าทางวัดมีรายได้จากเสือในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก กรมอุทยานฯ จึงไม่มีความกังวล ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายได้ของวัด เชื่อว่าสื่อมวลชนก็รู้ดี เพราะฉะนั้นจึงไม่กลัวว่า ทางวัดจะเรียกร้องในจุดนี้ แต่เราควรที่จะต้องทำให้มันถูกกฎหมายจะดีกว่า ส่วนการขนย้ายเสือคาดว่าคงเป็นเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถกำหนดชัดเจนว่าวันไหน ต้องให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ประมวลภาพให้ชัดเจนเสียก่อน ยอมรับว่าในวันนั้นอาจจะมีมวลชนเข้ามาร่วมกับทางวัดจึงจำเป็นจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบเหมือนที่ขนย้ายหมีในวันนี้
ส่วนพระวิสุทธิสารเถร แถลงต่อสื่อมวล ชนในช่วงเช้าว่า ตอนนี้ทางท่านรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำหมายค้นเข้ามาตรวจหมีที่อยู่ภายในวัด อาตมาจึงขอปฏิเสธหมายศาลไปก่อน หลังจากเสร็จภารกิจที่วัดแล้วอาตมาก็จะไปมอบตัว รับรองว่าอาตมาไม่หนีแน่นอนและไม่ต้องมาอุ้มหรืออะไรทั้งสิ้น แต่จนถึงตอนนี้ อาตมายังไม่รู้เลยว่าอาตมาโดนคดีอะไร