- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Sunday, 22 March 2015 12:44
- Hits: 5579
ฟังพระมหาไพรวัลย์-ทอล์กฝ่าวิกฤต ปิดท้ายงานใหญ่-วันนี้ สบายใจไหว้พระ 77 จว.
วันสุดท้ายงานใหญ่'สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด'ญาติโยมฟังพระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ วัดสร้อยทองขึ้นเทศน์แอนด์ ทอล์ก 'หลักธรรมนำชีวิตฝ่าวิกฤตปี 2558' ด้านทุกบูธจัดเต็มปิดงาน และกิจกรรมเลือกซื้อสินค้าโอท็อปและร่วมสนุกรับสูจิบัตรสะสมสติ๊กเกอร์แผ่นทอง 6 จุดในงาน แลกรับของที่ระลึกวัตถุมงคล ทั้งผู้เข้าชมงานทุกคนจะได้รับบทสวดมนต์ประจำวันเกิด และร่วมเวิร์กช็อปธรรมะ พร้อมสักการบูชาพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จาก 77 จังหวัด รวมถึงองค์จำลองพระพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อพระใส พระพุทธโสธร และพระเชียงแสน เก็บภาพเป็นที่ระลึกส่งท้าย
ฟังทอล์ก - ประชาชนจำนวนมากไปร่วมงาน "สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด" และฟังเทศน์ แอนด์ ทอล์ก โดยพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) ที่ "ข่าวสด" จัดขึ้นที่เดอะ มอลล์ บางกะปิ กทม. |
'วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8880 ข่าวสดรายวัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่ชั้น 4 เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงาน "สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด" จัดโดยน.ส.พ.ข่าวสด ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, บริษัท คิง เพาเวอร์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) และองค์กรพันธมิตร ระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ว่ามีประชาชนพุทธศาสนิกชนให้ความสนใจเดินทาง มาสักการบูชาพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จาก 77 จังหวัดกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณส่วนจัดแสดงพระพุทธรูปองค์จำลอง 4 องค์ ที่อัญเชิญมาจาก 4 ภาค ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ จ.นครศรี ธรรมราช, หลวงพ่อพระใส จ.หนองคาย, พระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และพระเชียงแสน จากล้านนา มีประชาชนทุกเพศทุกวัยต่อคิวเข้าสักการบูชาและถ่ายรูปไว้เป็น ที่ระลึกอย่างเนืองแน่น
ส่วนบริเวณด้านหน้าทางเข้า ประชาชนให้ความสนใจนิทรรศการแสดงรูปและประวัติอย่างละเอียดของพระพุทธรูปที่สวยงามและมีชื่อเสียงของทั้ง 77 จังหวัด และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับภาพจำลองบรรยากาศวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรม ราช วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยประชาชนส่วนใหญ่กล่าวว่าต้องการไหว้ พระเพื่อขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณบูธของวัดต่างๆ ด้วยว่า ที่บูธของวัดบ้านไร่ ประชาชนหลั่งไหลมาเขียนบัตรขอพรจากหลวงพ่อคูณ โดยเขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ โดยบัตร 1 ใบขอพรได้ 3 ประการ ซึ่งบัตรทุกใบจะนำไปให้หลวงพ่อคูณแผ่เมตตาจิตเพื่อขอให้คำขอพรสมดังปรารถนาต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีซุ้มทำนายดวงชะตาโดยโหรชื่อดัง 6 ท่าน ได้แก่ อ.บุศรินทร์ ปัทมาคม อ.สรกฤต สหชนกกฤตนนท์ อ.อนงค์นาถ คูดิษฐาเลิศ อ.เอื้ออุษา สาธุรังสรรค์ อ.นงลักษณ์ ศุภผล และ อ.พิศิษฐ์ จิรวาณิชไพศาล ให้บริการทำนายดวงชะตาราศีในรูปแบบต่างๆ ทั้งการดูลายมือ ดูไพ่ยิปซี ดูดวงใบไม้ และดูดวงตามตำราโหราศาสตร์ไทย มีผู้สนใจลงชื่อเข้าตรวจดวงชะตากันอย่างคับคั่ง เช่นเดียวกับการร่วมสนุกโดยรับสูจิบัตรสำหรับใช้สะสมสติ๊กเกอร์แผ่นทองตามจุดต่างๆ 6 จุดภายในงานเพื่อนำไปรับของที่ระลึก โดยในวันนี้เป็นวัตถุมงคล หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม และในวันที่ 22 มี.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน แจกพระขุนแผนพลายแก้ว
ขณะที่บูธของจังหวัดชัยนาท อัญเชิญพระพุทธรูปชื่อดังของจังหวัดหลายองค์มาให้ประชาชนได้ชมอย่างใกล้ชิด อาทิ พระพุทธรูปหลวงปู่ศุข หลวงพ่อเชื้อ หลวงพ่อโต หลวงพ่อเพชร หลวงพ่อพร้า หลวงพ่อธรรมจักร พระสีวลี เป็นต้น
นายณรงค์ เอี่ยมรอด นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ภายในบูธยังนำตำรายาสมุนไพรหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งจารึกใบลานมาจัดแสดง เป็นตำรายาภาษาไทยโบราณและภาษาขอมโบราณ ทั้งยังมียาสมุนไพรแก้อัมพฤกษ์ อัมพาต และยาสมุนไพรหลวงปู่ศุขมาแจกให้ผู้มีจิตศรัทธาที่บริจาคเงินให้กับวัดเพื่อนำไปเป็นทุนแปลตำรายาสมุนไพรต่อไป
ส่วนบริเวณบูธของพุทธอุทยานมหาราช (หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่) วัดวชิรธรรมาราม พระอารามหลวง ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดให้สั่งจองเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นอภิเมตตามหาโพธิสัตว์ ซึ่ง เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาในการออกแบบ
น.ส.บุญญาวัลย์ สิงห์ใจดี ฝ่ายประชา สัมพันธ์โครงการพุทธอุทยานมหาราชกล่าวว่า เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นอภิเมตตามหาโพธิสัตว์เป็นนวัตกรรมทางความคิดวิจิตรใหม่แห่งศิลปะร่วมสมัย จัดสร้างโดยนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ อุ๊ กรุงสยาม ประธานโครงการ เป็นเหรียญสามมิติ ใช้เทคนิคการหล่อลอยตัวและการปั๊ม 3 ชิ้นส่วน คือ องค์พระ แผ่นหลัง และฐานบัว เชื่อมติดด้วยงานช่างทองและขัดแต่ง ยกเว้นพิมพ์จิ๋ว เนื่องจากมีขนาดเล็ก จะใช้เทคนิคงานหล่อประกอบสองชิ้นส่วน ซึ่งทุกเหรียญจะมีโค้ดและหมายเลขพร้อมใบทะเบียนกำกับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมบนเวทีเมื่อเวลา 13.00 น. มีการเสวนาหัวข้อ "เจาะเทรนด์หินสีมงคล เลือกอย่างไรให้ได้ของดี" โดยมณิขจิต นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณี กล่าวว่าคนไทยมีความเชื่อเรื่องการแต่งกายและการใช้เครื่องประดับที่เป็นสิริมงคลต่อตัวเอง ดูได้จากการแต่งกายตามสีประจำวัน หรือการเลือกของประดับที่มีสีตรงกับวันเกิดของตัวเอง ส่วนการใส่เครื่องประดับหินสีมงคลก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับตัวเอง
"การใส่ลูกปัดหินสีเมื่อสวมใส่แล้วจะสัมผัสผิว เป็นการถ่ายพลังงานระหว่างหินและร่างกาย หินทุกตัวมีความเชื่อต่างๆ มากมาย แต่มีความหมายโดยรวมเหมือนกันทั้งหมดคือมีความเป็นสิริมงคลและดี หินทุกตัวจะมีความเย็นอยู่ในตัวเอง เมื่ออากาศเย็นหินก็จะมีความเย็นด้วย ความเย็นจากหินเมื่อสัมผัสกับร่างกายแล้วจะช่วยให้มีจิตใจ ชุ่มชื้นและหายจากอารมณ์หงุดหงิด ทั้งนี้ การจะได้หินสีมงคลของดีจะต้องเลือกที่มีสีและมีความสดใสสวยงาม จะต้องดูด้วยว่าเนื้อหินนั้นดีมีตำหนิมีแตกร้าวหรือไม่ สีมีความเป็นธรรมชาติหรือไม่ หินเป็นของแท้หรือไม่ ซึ่งในตลาดหินสีทุกวันนี้มีอยู่ 3 แบบคือ ของปลอม ของแท้ และของแท้ที่ปรับปรุงคุณภาพ แต่ละแบบมีคุณค่าและคุณภาพแตกต่างกันไป" มณิขจิตกล่าว
ต่อมาเวลา 14.30 น. มีเสวนา "เทคนิคดูหลวงปู่ทวด" โดยนายสกลชัย ตั้งธนาเจริญวงศ์ หรือ ฉ่อย ท่าพระจันทร์ เซียนพระชื่อดัง กล่าวว่าเทคนิคการดูหลวงปู่ทวดจะต้องอาศัยความชำนาญและเชี่ยวชาญ จะต้องมีประสบการณ์ดูบ่อยๆ พระทุกองค์นั้นดิ้นได้ คือเหมือนกันทุกองค์ไม่ได้ จะต้องจดจำทรง เนื้อ และผิวพรรณพระต่างๆ คุณลักษณะที่ดีของหลวงปู่ทวดคือพุทธคุณ ซึ่งพระทุกชนิดที่เล่นกันนั้นจะมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และมีประสบการณ์มากมาย ทำให้มีคนสนใจมากขึ้น เช่น รถชนรถคว่ำแต่ไม่ตายและรอดชีวิต ห้อยพระอะไร รวมทั้งความศักดิ์สิทธิ์ของพระที่จะต้องมีพุทธคุณพระเป็นหลัก สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อยากจะเล่นพระควรจะหาคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้เพื่อศึกษา พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนการเช่าพระควรเช่าในแหล่งที่เชื่อถือและรับประกันได้ว่าเป็นของแท้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 17.00 น. มีกิจกรรมเทศน์ แอนด์ ทอล์ก ตอน "อานาปานสติแบบง่าย สไตล์คนเมือง" โดยพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โดย พระพยอมได้นำผลมะยมแดง พร้อมกับหนังสือธรรมะมาแจกให้ประชาชนด้วย
พระพยอม กล่าวว่า อานาปานสติ คือการเอาสติผูกจิตติดอยู่กับลมหายใจเข้าออก เพราะตามปกติคนเรามักจะหายใจเปล่าๆ หายใจไปวันๆ โดยไม่รู้ว่าความสำคัญของชีวิตอยู่ที่ลมหายใจ ถ้าหายใจเข้าไม่ออก หายใจออกไม่เข้า สิ่งที่ให้ความสำคัญทั้งทรัพย์สินเงินทองตำแหน่งอำนาจจะจบลงตรงลมหายใจที่มันไม่เข้าไม่ออก เวลาเรามีกิเลส กิเลสจะทำให้ใจและระบบการหายใจสั้นถี่ เช่น เราตกใจกลัวกำลังประหม่า จะมีอาการหายใจสั้นถี่ แต่ถ้าจะดมดอกไม้เราจะดมลึกสดชื่น ไม่มีใครดมดอกไม้ด้วยลมหายใจที่สั้นถี่ อาการจะเทียบได้ว่าเวลาสบายมีความสุขลมหายใจเราจะยาวเหมือนตอนดมดอกไม้ แค่นี้ก็จะทำให้คนสนใจและอยากจะกำหนดลมหายใจเข้าออกในวิถีชีวิตประจำวัน เพื่อฟอกเอาความวุ่นวายที่ต้องหายใจ สั้นถี่มาเป็นหายใจยาว หายใจสุดๆ และลึก
พระพยอม กล่าวว่า ทำไมพระพุทธเจ้านอนเพียง 4 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่น สอนธรรมะ พระพุทธกิจทั้งวัน ไม่ง่วงนอนหรืออ่อนเพลีย เพราะพระองค์ทรงหลับลึกหลับสนิทด้วยอานาปานสติ คนเดี๋ยวนี้จะหลับมักจะชอบดูละครดูข่าวที่รุนแรงแล้วอินไปตามละครและข่าว บางคนอยากจะเอาเท้าถีบจอสั่นระรัวด้วยความเกลียดชังเคียดแค้น เมื่อตื่นขึ้นมาต่อให้หลับมา 8 ชั่วโมงยังมีอาการหาว ง่วงนอน อยากจะฝากให้ประชาชนทุกคนได้ตั้งสติ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน ขอให้ต้องมีสติอยู่ คนบางคนเหตุการณ์บรรยากาศอยู่ดีๆ ตัวเองไม่มีสติ สติแตก ก็สามารถทำให้บรรยากาศที่ดีๆ ล่มสลาย บ้านเรือนของคนที่มีเศรษฐกิจและฐานะดีแต่มีลูกเสียสติคนเดียวก็วุ่นทั้งครอบครัว และหากหัวหน้าครอบครัว เสียสติไปดื่มน้ำเมาผลาญสติ ไปทำอะไรๆ จนทำให้สติแตกกระเจิง ครอบครัวนั้นจะหมดความสุข
พระพยอม กล่าวด้วยว่า อยากจะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีสติที่ดีเหมือนกับตอนที่ไปปาฐกถาที่จ.ขอนแก่น ตอนนั้นไม่ว่าใครๆ ก็คงหัวใจตกลงไปอยู่ที่แม่เท้า ถ้าหากนายกฯ สั่งทหารทุบนักศึกษา 5 คนที่ไปยกนิ้วประท้วงก็คงแย่ แต่นายกฯ ได้ทำบรรยากาศให้ดีมากจนได้แต้มผู้นำเยอะ ตรงที่พูดว่าจับกระตั้วแทงเสือมาต้อนรับแล้วรึ นี่เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หักหอกเป็นดอกไม้ บรรยากาศจากเลวร้ายเป็นชื่นมื่น ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีขึ้น หายใจยาว ซึ่งตอนแรกคงหายใจสั้นถี่
"ขอให้นายกฯ มีสติแบบนี้บ่อยๆ อย่าให้เหมือนคราวที่ถามว่า ผลงานไม่ค่อยดีรึ และบอกอยากชกหน้านักข่าว ถ้าเป็นอาตมาคงไม่พูดอย่างนี้ จะพูดว่า ถามจี้ใจถามให้เจ็บใจแบบนี้ ชกหน้านายกฯ อย่างเราไปเลยดีกว่า ท่านจะต้องเป็นฝ่ายให้เขาชก ไม่ใช่จะเป็นฝ่ายชกเขา" พระพยอมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 18.30 น. มีกิจกรรมเวิร์กช็อป "ธรรมปฏิบัติสำหรับมือใหม่" โดยพิทยากร ลีลาภัทร์ นักเขียนและบล็อกเกอร์ธรรมะชื่อดัง กล่าวว่า กุญแจของการปฏิบัติธรรมเริ่มมาจากสติ ศีล สมาธิ ปัญญา และทาน การให้ทานคือการให้รู้จักสละออก ไม่ใช่การให้ทานเพื่อหวังผลและสิ่งตอบแทน เราจะต้องฝึกให้ทานเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนอื่น เป็นการช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน เรื่องธรรมะนั้น เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่เป็นเรื่องธรรมดาก็เป็นธรรมะอยู่แล้ว ไม่ว่าเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ชีวิต ความเป็นอยู่ เทคโนโลยี เป็นเรื่องธรรมดาหมด คือมีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ
"ถ้าคนมีอายุมองย้อนกลับไปเรื่องเศรษฐกิจที่แย่ทุกวันนี้ เราเคยผ่านมาแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งที่แย่ที่สุด แย่กว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว สิ่งที่เจอผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หน้าที่เราตอนนี้ไม่ใช่ซ้ำเติมตัวเองคิดลบและบั่นทอนกำลังใจ หน้าที่คือการมีสติ ทำเหตุเฉพาะหน้าของเรา มีงานอะไรก็ทำให้ดีที่สุด และระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย แต่ไม่ใช่ ขี้เหนียวเกินไป สุรุ่ยสุร่ายจนเกินไป จะต้องเดินทางสายกลาง จำเป็นใช้ก็ใช้ ไม่จำเป็นใช้ก็ยังไม่ต้องใช้ อย่าวิ่งตามกิเลสตัวเองและตามกระแสคนอื่น อีกทั้งสิ่งที่ในหลวงสอนคือเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งก็คือเรื่องทางสายกลางนั่นเอง" นายพิทยากรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกิจกรรมเทศน์ แอนด์ ทอล์ก ในงาน "สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด" วันที่ 22 มี.ค. จะเป็นการเทศนาของพระมหาไพรวัลย์ วรวัณโณ วัดสร้อยทอง ตอน "หลักธรรมนำชีวิตฝ่าวิกฤตปี 2558" นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเลือกซื้อสินค้าโอท็อปและร่วมสนุกโดยการรับสูจิบัตรสำหรับใช้สะสมสติ๊กเกอร์แผ่นทองตามจุดต่างๆ 6 จุดภายในงาน สะสมครบแลกรับของที่ระลึกวัตถุมงคล ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงานทุกคนจะได้รับบทสวดมนต์ประจำวันเกิดด้วย
วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21:13 น. ข่าวสดออนไลน์
สุดคึกคักงาน'สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด'ประชาชนแห่ฟังพระพยอมเทศน์ แอนด์ ทอล์ก
สุดคึกคักงาน สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด ประชาชนแห่ฟังพระพยอมเทศน์ แอนด์ ทอล์ก อานาปานสติแบบง่าย สไตล์คนเมือง เตือนตั้งสติไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน สติแตกจะทำให้บรรยากาศที่ดีๆ ล่มสลาย ฝากนายกฯ ด้วยให้มีสติบ่อยๆ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่ชั้น 4 เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงาน สบายใจไหว้พระ 77 จังหวัด จัดโดยน.ส.พ.ข่าวสด ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, บริษัท คิงเพาเวอร์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) และองค์กรพันธมิตร ระหว่างวันที่ 20-22 มี.ค. ว่ามีประชาชนพุทธศาสนิกชนให้ความสนใจเดินทางมาสักการบูชาพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จาก 77 จังหวัดกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณส่วนจัดแสดงพระพุทธรูปองค์จำลอง 4 องค์ ที่อัญเชิญมาจาก 4 ภาค ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ จ.นครศรีธรรมราช, หลวงพ่อพระใส จ.หนองคาย, พระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และพระเชียงแสน จากล้านนา มีประชาชนทุกเพศทุกวัยต่อคิวเข้าสักการบูชาและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอย่างเนืองแน่น
ส่วนบริเวณด้านหน้าทางเข้า ประชาชนให้ความสนใจนิทรรศการแสดงรูปและประวัติอย่างละเอียดของพระพุทธรูปที่สวยงามและมีชื่อเสียงของทั้ง 77 จังหวัด และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับภาพจำลองบรรยากาศวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยประชาชนส่วนใหญ่กล่าวว่าต้องการไหว้พระเพื่อขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.00 น. มีกิจกรรมเทศน์ แอนด์ ทอล์ก ตอน อานาปานสติแบบง่าย สไตล์คนเมือง โดยพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โดยพระพยอมได้นำผลมะยมแดง พร้อมกับหนังสือธรรมะมาแจกให้ประชาชนด้วย
พระพยอมกล่าวว่า อานาปานสติ คือการเอาสติผูกจิตติดอยู่กับลมหายใจเข้าออก เพราะตามปกติคนเรามักจะหายใจเปล่าๆ หายใจไปวันๆ โดยไม่รู้ว่าความสำคัญของชีวิตอยู่ที่ลมหายใจ ถ้าหายใจเข้าไม่ออก หายใจออกไม่เข้า สิ่งที่ให้ความสำคัญทั้งทรัพย์สินเงินทองตำแหน่งอำนาจจะจบลงตรงลมหายใจที่มันไม่เข้าไม่ออก เวลาเรามีกิเลส กิเลสจะทำให้ใจและระบบการหายใจสั้นถี่ เช่น เราตกใจกลัวกำลังประหม่า จะมีอาการหายใจสั้นถี่ แต่ถ้าจะดมดอกไม้เราจะดมลึกสดชื่น ไม่มีใครดมดอกไม้ด้วยลมหายใจที่สั้นถี่ อาการจะเทียบได้ว่าเวลาสบายมีความสุขหายใจเราจะยาวเหมือนตอนดมดอกไม้ แค่นี้ก็จะทำให้คนสนใจและอยากจะกำหนดลมหายใจเข้าออกในวิถีชีวิตประจำวัน เพื่อฟอกเอาความวุ่นวายที่ต้องหายใจสั้นถี่มาเป็นหายใจยาว หายใจสุดๆ และลึก
พระพยอม กล่าวว่า ทำไมพระพุทธเจ้านอนเพียง 4 ชั่วโมง ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่น สอนธรรมะ พระพุทธกิจทั้งวัน ไม่ง่วงนอนหรืออ่อนเพลีย เพราะพระองค์ทรงหลับลึกหลับสนิทด้วยอานาปานสติ คนเดี๋ยวนี้จะหลับมักจะชอบดูละครดูข่าวที่รุนแรงแล้วอินไปตามละครและข่าว บางคนอยากจะเอาเท้าถีบจอสั่นระรัวด้วยความเกลียดชังเคียดแค้น เมื่อตื่นขึ้นมาต่อให้หลับมา 8 ชั่วโมงยังมีอาการหาว ง่วงนอน อยากจะฝากให้ประชาชนทุกคนได้ตั้งสติ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน ขอให้ต้องมีสติอยู่ คนบางคนเหตุการณ์บรรยากาศอยู่ดีๆ ตัวเองไม่มีสติ สติแตก ก็สามารถทำให้บรรยากาศที่ดีๆ ล่มสลาย บ้านเรือนของคนที่มีเศรษฐกิจและฐานะดีแต่มีลูกเสียสติคนเดียวก็วุ่นทั้งครอบครัว และหากหัวหน้าครอบครัวเสียสติไปดื่มน้ำเมาผลาญสติ ไปทำอะไรๆ จนทำให้สติแตกกระเจิง ครอบครัวนั้นจะหมดความสุข
พระพยอม กล่าวด้วยว่า อยากจะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีสติที่ดีเหมือนกับตอนที่ไปปาฐกถาที่จ.ขอนแก่น ตอนนั้นไม่ว่าใครๆ ก็คงหัวใจตกลงไปอยู่ที่แม่เท้า ถ้าหากนายกฯ สั่งทหารทุบนักศึกษา 5 คนที่ไปยกนิ้วประท้วงก็คงแย่ แต่นายกฯ ได้ทำบรรยากาศให้ดีมากจนได้แต้มผู้นำเยอะ ตรงที่พูดว่าจับกระตั้วแทงเสือมาต้อนรับแล้วรึ นี่เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หักหอกเป็นดอกไม้ บรรยากาศจากเลวร้ายเป็นชื่นมื่น ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีขึ้น หายใจยาว ซึ่งตอนแรกคงหายใจสั้นถี่
ขอให้นายกฯ มีสติแบบนี้บ่อยๆ อย่าให้เหมือนคราวที่ถามว่า ผลงานไม่ค่อยดีรึ และบอกอยากชกหน้านักข่าว ถ้าเป็นอาตมาคงไม่พูดอย่างนี้ จะพูดว่า ถามจี้ใจถามให้เจ็บใจแบบนี้ ชกหน้านายกฯ อย่างเราไปเลยดีกว่า ท่านจะต้องเป็นฝ่ายให้เขาชก ไม่ใช่จะเป็นฝ่ายชกเขา พระพยอมกล่าว