- Details
- Category: ศาสนา
- Published: Thursday, 11 September 2014 21:58
- Hits: 5015
วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8688 ข่าวสดรายวัน
เลิกแล้ว-ละสังขาร ตร.บุกกุฏิ หิ้วหลวงปู่ส่งรพ.พบอ่อนเพลียหนัก-ต้องพักผ่อน รื้อโลงไปเก็บโรงพัก-หวั่นทำอีก น้องชายชี้สาเหตุ-อาพาธโรครุม
หิ้วปีก - เจ้าหน้าที่ตำรวจหิ้วปีกหลวงปู่พิมพ์ ออกจากกุฏิวัดเวฬุวัน อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ นำส่งโรงพยาบาล หลังเกลี้ยกล่อมให้ยกเลิกพิธีนอนโลงละสังขารตามที่ประกาศไว้ ซึ่งเป็นการกระทำอัตวินิบาตกรรมเป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. |
ตร.บุกกุฏิหลวงปู่พิมพ์ กล่อมจนเลิกละสังขารแล้ว พร้อมหิ้วปีกส่งโรงพยาบาล น้องชายที่เป็นพระเผยหลวงปู่อาพาธหลายโรค ทั้งเกาต์ และกรดไหลย้อน แถมรักษาไม่หายขาด ต้องทนทรมาน คิดว่าร่างกายจะหมดอายุขัย จึงขอสวดภาวนา ละสังขาร ด้านตร.ขนโลงไม้กลับไปเก็บที่สถานีตำรวจ หวั่นนำไปก่อเหตุซ้ำอีก เตรียมส่งจิตเวชเข้าพูดคุยทำความเข้าใจ พศ.เผยรับรายงานแล้ว ด้านเจ้าคณะจังหวัดระบุจะ ตักเตือน แต่ไม่รุนแรงและไม่ใช่เรื่องอวดอุตริ
จากกรณีพระครูเวฬุวันจันทรังษี หรือหลวงปู่พิมพ์ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน หมู่ 4 บ้านท่าเริงรมย์ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อายุ 65 ปี ประกาศเจริญภาวนาเพื่อละสังขาร ด้วยการนอนในโลงที่เจาะรูไว้ ภายในกุฏิตั้งแต่ เวลา 21.00 น. วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสั่งห้ามใครเข้าไปรบกวนและเปิดฝาโลงอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะถึง 16.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ขณะที่หลายฝ่ายจับตาดู และวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่วัดเวฬุวัน บรรยากาศโดยรอบ มีศิษยานุศิษย์ อุบาสก อุบาสิกา กว่า 800 คน จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ปักหลักค้างคืนตั้งเต็นท์พักแรมตามที่ว่างใต้ต้นไม้จนแน่นพื้นที่ ตั้งแต่ปากทางเข้าวัดไปจนถึงลานโล่งใกล้ศาลาวัด ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร เพื่อเฝ้ารอการเปิดโลงตามกำหนด
เมื่อเวลา 10.00 น. พระครูปริยัติเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดป่าเรไร ในฐานะเจ้าคณะอำเภอคอนสาร พร้อม พ.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ สุขอิ่ม ผกก.สภ.คอนสาร นายสุนันท์ ศรีสุข เจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนา จ.ชัยภูมิ นายอำนวย ทุ่งราช เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมประจำ อ.คอนสาร และ น.ส.ปณิชา ประดิษฐ์แท่น ปลัด อบต.ทุ่งพระ เดินทางมาที่วัดเพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากมี ผู้ร้องเรียนว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม ผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ และเป็นสภาพการถูกบังคับให้ถึงแก่ความตายหรือไม่ อีกทั้งยังมีข้อกังวลว่าอาจมีประชาชนส่วนหนึ่งเตรียมเล่นพนันว่าหลวงปู่พิมพ์จะมรณภาพตามกำหนดจริงหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างแรง และผิดกฎหมายด้วย โดยมี พระมหาบัว ปิยวัณโณ รองเจ้าอาวาสวัดเวฬุวันในฐานะน้องชายหลวงปู่พิมพ์ เป็นผู้พาขึ้นไปตรวจสอบบริเวณกุฏิด้านบน โดยห้ามสื่อมวลชน และผู้ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปด้วย ซึ่งใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 15 นาที
จากนั้น พ.ต.อ.พงศ์ศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบหลวงปู่พิมพ์นอนอยู่ในโลงจริง คล้ายลักษณะคนนอนหลับทั่วไป ยังไม่แน่ชัดว่ามรณภาพแล้วหรือไม่ เนื่องจากตกลงกับ เจ้าภาพว่าจะไม่ล่วงเกิน จึงได้แต่เดินดูรอบกุฏิเท่านั้น ส่วนโลงที่หลวงปู่พิมพ์ใช้เป็นที่เจริญภาวนานั้นเป็นโลงไม้ มีลักษณะผนังสูงกว่าโลงทั่วไป และมีช่องระบายอากาศโดยรอบ ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าฝาโลงมีการตอกตะปูหรือปิดตายแต่อย่างใด เป็นเพียงเลื่อนปิดไว้เท่านั้น หลวงปู่สามารถเลื่อนออกเพื่อลุกไปไหนมาไหนได้ปกติ จึงไม่เข้าข่ายการถูกบังคับให้ตาย
นายสุนันท์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ยังไม่พบการอวดอภินิหารผิดธรรมชาติใดๆ ทางสำนักพุทธฯ และเจ้าคณะอำเภอ คงไม่สั่ง การสอบสวนความผิดวินัยสงฆ์ แต่จะเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นความศรัทธาของหลวงปู่พิมพ์ที่จะเจริญภาวนาด้วยตนเอง ที่ผ่านมาก็มีพระป่าหลายรูปที่ทำลักษณะดังกล่าวแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น
พระมหาบัวเผยว่า สิ่งที่หลวงปู่พิมพ์ทำ ไม่ใช่การละสังขารหรือตั้งใจตายอย่างที่เป็นข่าว เป็นการเจริญภาวนาจิตเข้าสู่ความว่าง หรือฌาน 4 ตามแนวทางหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระเกจิชื่อดัง ซึ่งท่านเคยปฏิบัติเช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 2540 ด้วยการนอนในโลงถึง 7 วัน 7 คืน ไม่ฉันอาหารและน้ำดื่ม ปฏิบัติอยู่ในถ้ำ โดยที่ร่างกายไม่ได้เจ็บป่วยแต่อย่างใด
พระมหาบัวกล่าวว่า สำหรับหลวงปู่พิมพ์มีอาการโรคเก๊า และกรดไหลย้อนรุนแรง จนต้องเดินสายหาหมอที่โรงพยาบาลทั้งที่เพชรบูรณ์ ขอนแก่น นครปฐม ก็ไม่มียารักษาได้ ซึ่งท่านเชื่อว่าร่างกายจะหมดอายุไขใน วันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของท่าน จึงตั้งใจเจริญภาวนาต่ออีก 3 วัน โดยมีอาตมาเป็นผู้ดำเนินการปิดฝาโลงให้ตามที่ท่านร้องขอ ซึ่งไม่ได้ตอกตะปูแต่อย่างใด หากท่านประสงค์จะลุกออกมาก็เป็นเรื่องของท่าน
"ท่านบอกว่า ถ้าครั้งนี้ตายก็ให้ตายไป แต่ถ้าไม่ตายก็ให้หายดี ถ้าไม่ดีก็จะตายไป ส่วนคนที่กล่าวหาว่าท่านจะฆ่าตัวตายนั้น อยากให้มาเห็นด้วยตัวเอง คนจะฆ่าตัวตายไม่มาบอกใครหรอก แล้วตัวอาตมาเอง พร้อมทั้งญาติโยม ก็ไม่มีใครอยากเห็นท่านตายด้วย" พระมหาบัวกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พระมหาบัวกล่าวอยู่นั้น จู่ๆ ก็สะอื้นร้องไห้ขึ้นมาอย่างคร่ำครวญ ก่อนกล่าวว่า "ตั้งแต่อาตมาบวชมา ไม่เคยห่างจากหลวงปู่เลย ท่านขออโหสิกับอาตมา ว่าที่ผ่านมาหากมีเรื่องขัดแย้งต่อกัน ขอให้แล้วกันไป และให้อาตมาเป็นผู้ปิดฝาโลง อาตมารู้สึกว่าไม่มีน้องคนไหนอยากฆ่าพี่"
พระราชภาวนาวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพิ่งทราบจากสื่อมวลชน ถ้าตามหลักของพุทธศาสนาแล้ว การที่ไม่รู้ ไม่เป็น แล้วพูดออกไป เข้าข่ายอาบัติร้ายแรง ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระ แต่ถ้ารู้สิ่งที่มันเป็นจริงแล้วพูดออกไป เป็นความผิดเล็กน้อย แก้อาบัติเบาๆ ไม่ร้ายแรง แต่ถ้าท่านละสังขารจริงๆ ก็คงทำตามที่ท่านสั่งเสียไว้ พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ เรื่องที่ยังไม่เกิดอย่าเพิ่งไปพูดก่อน ถ้าพูดก่อนถือว่าผิดหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ กล่าวว่า กรณีนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามตลอดในฐานะเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง ไม่อยากให้ท่านละสังขารอย่างนี้ ถึงแม้จะเป็นความเชื่อของอีกกลุ่มหนึ่ง คงปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ไม่ได้ ต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นจึงให้ตำรวจท้องที่ ร่วมกับอำเภอ สำนักงานพระพุทธศาสนา เข้าไปตรวจสอบ
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.พินิต พร้อมด้วยพระราชภาวนาวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.คอนสาร คณะแพทย์โรงพยาบาลคอนสาร เดินทางไปยังวัดอีกครั้ง เพื่อขอพบกับหลวงปู่พิมพ์ เพื่อขอให้เลิกจากการละสังขารแบบนี้ โดยบรรยากาศเริ่มตึงเครียด เมื่อบรรดาลูกศิษย์ไม่ยอมให้เข้าไปยังกุฏิ หลวงปู่สั่งไว้ไม่ให้ใครเข้าไปจะทำให้เสียสมาธิ จนเจ้าหน้าที่ต้องอธิบายเหตุผล อ้างว่ามาทำตามหน้าที่และในฐานะชาวพุทธ ไม่อยากเห็นพระดีๆ ตายไปต่อหน้าต่อตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้พล.ต.ต. พินิตยังแจ้งให้ทราบถึงระเบียบข้อกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปล่อยให้มีการตายเกิดขึ้นในท้องที่ที่เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ดูแลอยู่ได้ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงการประกาศกฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ
ในที่สุดกลุ่มลูกศิษย์ก็ยอมให้เข้าพบหลวงปู่พิมพ์ได้ โดยหลวงปู่พิมพ์ยอมลุกขึ้นจากโลง ออกมานั่งคุยกับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และผบก.จว.ชัยภูมิ ด้วยท่าทางสงบ โดยใช้เวลาพูดจาเกลี้ยกล่อมประมาณชั่วโมง กว่าๆ หลวงปู่พิมพ์จึงยอมรับฟัง และเลิกการละสังการ ยอมเข้ารับการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ จากนั้นผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อโลงมาเก็บ
พล.ต.ต.พินิตกล่าวว่า ตั้งใจมาทำตามหน้าที่ยังไงต้องช่วยหลวงปู่ให้ได้ ถ้าไม่ยอม ก็จะอุ้มออกมาจากโลงให้ได้ โชคดีที่มีเจ้าพระคุณพระราชภาวนาวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัด เดินทางมาช่วยอีกแรง รวมทั้งคณะแพทย์สอบถามถึงอาการอาพาธ ท่านก็ยอมรับว่าทรมานมาก อยากละสังขาร พอคณะแพทย์ช่วยกันทำความเข้าใจ ทำให้เรื่องง่ายขึ้น หลวงปู่ยอมเลิก ยอมเข้ารับการรักษาอาการป่วย
พล.ต.ต.พินิตกล่าวว่า ตนในฐานะเจ้าพนักงานย่อมต้องดูแลความสงบเรียบร้อย จากการขึ้นไปที่กุฏิพบว่าท่านไม่ได้นอนอยู่ในโลง โดยกำลังนั่งพักอยู่ในบริเวณกุฏิ จึงเข้าไปพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ โดยท่านแจ้งว่ารู้สึกเหนื่อยเพลีย และเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ละสังขารไปแล้ว แต่มีนิมิตว่าญาติโยมไม่พร้อมจะให้ท่านจากไป ยังอยากให้ท่านอยู่เป็นศรัทธาของญาติโยมต่อไป ตนจึงได้ขอให้ท่านไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยประสานกับทางโรงพยาบาลคอนสารให้มารับตัวท่าน ส่วนประเด็นความผิดต่างๆ ของผู้เกี่ยวข้องว่ามีการสมรู้ร่วมคิดที่จะให้เกิดการเสียชีวิตหรือไม่อย่างไรนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวนเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สุภาพ สำราญวงษ์ ผอ.โรงพยาบาลคอนสาร เป็นผู้ประคองร่างหลวงปู่พิมพ์ลงมาจากกุฏิเพื่อขึ้นรถพยาบาลมารักษา ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ วัดความดัน รวมถึงปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว โดยมีญาติโยมเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด
นพ.สุภาพกล่าวว่า จากการตรวจร่างกายหลวงปู่พิมพ์เบื้องต้นพบว่า สัญญาณชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ ความรู้สึกตัวดี ยกแขนยกขาได้ แต่มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ พร้อมถวายอาหารและยา ซึ่งพบว่าหลวงปู่ฉันอาหารได้พอสมควร อาการทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโลงไม้ที่หลวงปู่พิมพ์ใช้เจริญภาวนา เคลื่อนย้ายออกจากกุฏิ ไปไว้ที่สภ.คอนสาร ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้ทางวัดดำเนินกิจกรรมลักษณะดังกล่าว ที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายอีก
ขณะที่บรรยากาศภายในวัด มีประชาชนบางส่วนทยอยกลับ หลังทราบว่าหลวงปู่พิมพ์ยุติการละสังขาร แต่มีบรรดาลูกศิษย์ และอุบาสก อุบาสิกาประมาณ 400 คน ยังคง ปักหลักพักค้างที่วัด โดยร่วมพิธีสวดมนต์กับ พระสงฆ์ตามปกติ
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 11 ก.ย. แพทย์จิตเวชประจำจังหวัดจะเดินทางเข้าตรวจอาการและพูดคุยกับหลวงปู่พิมพ์ด้วย เพื่อดูว่ามีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนัก งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ถึงกรณีหลวงพ่อพิมพ์ประกาศละสังขารด้วยการนอนในโลงศพ ว่า เจ้าหน้าที่ของสำนัก งานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.)ชัยภูมิ เข้าไปสังเกตการณ์การละสังขารของหลวงพ่อพิมพ์อย่างใกล้ชิด โดยทางเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ แจ้งกับตนว่า หลวงพ่อพิมพ์ อาพาธหลายโรค อาจจะทำให้ตัดสินใจพูดอะไรออกไปด้วยการขาดความยั้งคิด จึงให้ออกมาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้อาการอาพาธดีขึ้นก่อน และเมื่ออาการดีขึ้นทางเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ จะมีการพิจารณาอีกครั้ง โดยอาจจะมีการว่ากล่าวตักเตือน เพื่อปรามหลวงพ่อพิมพ์ ไม่ให้แสดงวาจาหรือมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก แต่คงไม่ใช่เรื่องอวดอุตริ