วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8631 ข่าวสดรายวัน


ฝรั่งซึ้งตามหา ผัวเมียไทย ช่วยรอดสึนามิ ดีใจเจอตัวแล้ว

ซึ้งใจ - นางยุพิน เส็งเมือง แม่ค้าร้านชำ จ.ภูเก็ต ที่ 2 พี่น้องชาวอังกฤษโพสต์เฟซบุ๊ก ตามหา เนื่องจากเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตใน เหตุการณ์สึนามิถล่มภูเก็ตเมื่อปี"47 เปิดใจ ตื้นตันที่ทั้ง 2 คนยังจำได้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.

      เปิดเรื่องราวสุดประทับใจ "เบน-เอมิลี่ วิลกราส" สองพี่น้องชาวอังกฤษ ใช้โซเชี่ยลมีเดียแชร์ข้ามโลกประกาศตามหาตัวผัวเมียชาวไทย ซึ่งเคยมีน้ำใจยื่นมือช่วยเหลือหลังประสบภัยคลื่นยักษ์ "สึนามิ" ซัดหาดป่าตอง-ภูเก็ต เมื่อสิบปีที่แล้ว เผยทุกวันนี้สองพี่น้องโตเป็นหนุ่มสาว จึงอยากบินมาขอบคุณผู้มีพระคุณ ล่าสุด "ข่าวสด" ตรวจสอบข้อมูล-รายละเอียดจนเจอสอง ผัวเมีย ด้านพี่น้องวิลกราสจะบินถึงเมืองไทยวันที่ 20 ก.ค. เตรียมนัดพบกันที่ภูเก็ต
     จากกรณีนายเบน วิลกราส และน.ส.เอมิลี่ วิลกราส 2 พี่น้องชาวอังกฤษ โพสต์ข้อมูลผ่านโซเชี่ยลมีเดีย รวมถึงเฟซบุ๊ก ประกาศข้ามโลก ตามหาตัวนางยุพิน และนายพิเชฐ 2 สามีภรรยาชาวไทย เพราะอยากขอบคุณที่เคย ช่วยชีวิตพวกตนไว้ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน ขณะประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่ภูเก็ต เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2004 หรือพ.ศ.2547 ทั้งนี้ ข้อความที่พี่น้องวิลกราสประกาศ พร้อมกับโพสต์โชว์ภาพนางยุพินกับนายพิเชฐ มีดังนี้
      "ขอความช่วยเหลือด้วย : ช่วยเราตามหาคุณยุพินและคุณพิเชฐด้วยค่ะ พวกเราชื่อ เอมิลี่ และเบน วิลกราส เมื่อสิบปีที่แล้วคือ วันที่ 26 ธันวาคม 2004 ชีวิตของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเมื่อเราต้องประสบกับสึนามิที่ภูเก็ต ในขณะที่เรากำลังพยายามหาทางหนีขึ้นที่สูงก็มีคนไทยสองคนช่วยเหลือและให้ที่พักพิงแก่เราและยังช่วยดูแลเราสองคนในขณะที่พ่อของเราออกตามหาแม่ที่พลัดหลงกันในตอนนั้นซึ่งเป็นที่น่าเสียใจว่าเราพบศพของแม่ในวันนั้น
       "ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต คนไทยคู่นี้ที่ชื่อคุณยุพินและคุณพิเชฐ ได้คอยให้ความช่วยเหลือแก่เราและเรากำลังตามหาพวกเขาอยู่ในตอนนี้ ทั้งคู่ให้ที่พักแก่เราจนกระทั่งเราออกจากภูเก็ตได้ในวันรุ่งขึ้น และเพราะสนามบินภูเก็ตปิดในเวลานั้น ทั้งคู่อุตส่าห์ขับรถพาเราไปส่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ห่างจากภูเก็ตกว่า 870 ก.ม. เพื่อให้เราขึ้นเครื่องบินกลับอังกฤษ เราจะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือความมีน้ำใจรวมทั้งความเมตตาที่ทั้งสองคนมีต่อเราในช่วงเวลายากลำบากที่เราต้องการมากที่สุด และไม่มีคำไหนที่จะขอบคุณคนทั้งสองได้อย่างเพียงพอสำหรับสิ่งที่ทั้งสองทำให้กับเรา
      "เราไม่เจอคุณยุพินและคุณพิเชฐอีกเลยตั้งแต่วันนั้น ทั้งนี้เราจะไปภูเก็ตอาทิตย์หน้า (20 กรกฎาคม 2557) และเราอยากจะพบ ทั้งคู่อย่างมาก เราจึงพยายามตามหาพวกเขาเพื่อกล่าวขอบคุณคนทั้งคู่อีกครั้งสำหรับ ทุกอย่างที่เขาทำให้ครอบครัวของเรา ช่วยเราหน่อยได้ไหมคะ คุณรู้จักคุณยุพินและ คุณพิเชฐไหมคะ ทราบหรือไม่ว่าพวกเขา อยู่ที่ไหน หากมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้กรุณาติดต่อเราที่ [email protected] ทวิตเตอร์ #findupinandpitchat หรือเฟซบุ๊ก Ben Willgrass"
      ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประกาศขอความช่วยเหลือตามหาตัวผู้มีพระคุณชาวไทยของสองพี่น้องตระกูลวิลกราส ได้รับการแชร์ส่งต่อข้ามโลก จากอังกฤษมาถึงเมืองไทย ขณะที่นักท่องอินเตอร์เน็ตชาวไทยที่ทราบข่าวก็ช่วยกันแชร์ข้อความตามหาอย่างแพร่หลาย ต่อมาตรวจสอบพบว่า นางยุพินที่นายเบล และน.ส.เอมิลี่ วิลกราส อ้างถึงคือนางยุพิน เส็งเมือง บ้านเดิมเป็นคนนครสวรรค์ แต่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่กับสามี คือ นายพิเชฐ บัวเนียม ที่จ.ภูเก็ต ประมาณ 20 ปี ล่าสุด ทั้งคู่ยุติความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา โดยนายพิเชฐไปอยู่พัทลุง ส่วนนางยุพินอยู่ที่ภูเก็ตและผู้สื่อข่าวตามหาตัวจนพบ
      นางยุพิน ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ว่าวันเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ตนเปิดร้านขายของชำและร้านอาหารตามสั่งอยู่บริเวณหน้าหาดไตรตรัง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กระทั่งมาพบกับครอบครัวชาวอังกฤษที่กำลังตามหาผู้เป็นแม่ ซึ่งหายสาบสูญไปพร้อมๆ กับคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้าใส่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
       นางยุพิน กล่าวต่อว่า ครอบครัวชาวอังกฤษดังกล่าว เดินทางมาพักผ่อนที่ภูเก็ต 4 คน พ่อ แม่ และลูก 2 คน โดยคนเป็นพ่อออกเดินเท้าตามหาภรรยา หลังจากพลัดพรากกันเพราะเหตุคลื่นยักษ์ซัดถล่มหน้าหาดป่าตอง ขณะเดียวกันตนกับสามีเปิดร้านค้าอยู่ เมื่อชาวอังกฤษรายนี้มาขอความช่วยเหลือ จึงให้ที่พักและอาหาร ช่วงนั้นไฟดับ มืดไปหมดทั้งหน้าหาด คนเป็นพ่อขอร้องและฝากลูกทั้ง 2 คนไว้ให้ช่วยดูแล ก่อนออกไปตามหาภรรยาจนทราบข่าวร้ายพบเป็นศพติดอยู่ชั้นใต้ดินของห้างโอเชี่ยนช็อปปิ้งมอล หน้าหาดป่าตอง แต่ผู้เป็นพ่อไม่กล้าบอกลูกทั้ง 2 คนว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงเข้าไปปลอบใจและเรียกเด็กทั้ง 2 คนมาอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น 
       "จากนั้นช่วยเหลือดูแลครอบครัวนี้มาตลอด กระทั่งทำใจได้และขอให้ขับรถส่งขึ้นเครื่องบินที่กทม. เพราะที่ภูเก็ตมีปัญหาเรื่องสนามบินและเที่ยวบินบินขึ้นไม่ได้ รู้สึกดีใจที่ได้ทราบข่าวว่าเขาจะกลับมาหาในวันที่ 20 ก.ค. นี้เพื่อขอบคุณ เหตุที่ช่วยเพราะสงสารเห็นว่าเป็นผู้ประสบภัย ต้องช่วยเหลือให้ถึงที่สุด หากเป็นใครคงต้องทำเช่นเดียวกัน เหตุการณ์วันนั้นไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน" นางยุพินกล่าว
      ที่จ.พัทลุง นายพิเชฐ เปิดเผยวีรกรรมช่วยเหลือครอบครัวชาวอังกฤษ ผู้ประสบภัย สึนามิ เมื่อสิบปีก่อนว่า ช่วงนั้นตนกับนางยุพิน อาศัยอยู่ในกระท่อมบนภูเขา ซึ่งหลังเกิดเหตุสึนามิ เมื่อปี 2547 ได้พบครอบครัวนี้เดินทางขึ้นมาบนภูเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ ตนจึงชวนพักที่กระท่อม 1 วัน เพื่อรอตามหาภรรยา หลังจากนั้นครอบครัววิลกราสต้องการกลับประเทศอังกฤษ วันรุ่งขึ้นตนจึงขับรถไปส่งที่สนามบินในกรุงเทพฯ โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก
      นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า หลังเหตุการณ์วันนั้น ครอบครัววิลกราสติดต่อกลับมาหลายครั้งช่วงเวลา 1-2 ปี แต่หลังจากนั้นได้ขาดการติดต่อไป จนทราบข่าวการติดต่อของนายเบนและน.ส.เอมิลี่ จากเพื่อนที่รู้จักกัน ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจมากที่ครอบครัววิลกราสยังคิดถึง ไม่ลืม และอยากพบตนกับภรรยา โดยครอบครัววิลกราส มีกำหนดการมาภูเก็ต วันที่ 20 ก.ค.นี้ 
     "ตอนนี้ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 285 หมู่ 8 ต.ควรขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง และวันที่ 20 ก.ค.จะเดินทางกลับไปภูเก็ตเพื่อพบครอบครัววิลกราส โดยจะชวนครอบครัววิลกราสพักอาศัยด้วยกัน และพาเที่ยวภูเก็ตหากต้องการ เหตุการณ์ครั้งนั้นผมและภรรยาช่วยผู้ประสบภัยสึนามิอีกหลายราย ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย แต่หลังเหตุการณ์สงบมีเพียงครอบครัววิลกราสเพียงครอบครัวเดียวที่ติดต่อพูดคุยกัน แม้มีปัญหาในด้าน การสื่อสาร เนื่องจากพูดภาษาอังกฤษได้เพียง เล็กน้อย แต่ดีใจที่จะได้พบกันอีกครั้ง" นายพิเชฐกล่าว
    ค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ส่งอีเมล์และโทรศัพท์ประสานกับครอบครัววิลกราสเพื่อให้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อนายพิเชฐและนางยุพิน ขณะที่ทางครอบครัว วิลกราสกล่าวขอบคุณกองบรรณาธิการ น.ส.พ. ข่าวสด ที่ช่วยเป็นสื่อกลางติดตามหาตัวผู้มีพระคุณกระทั่งมีโอกาสพบกันอีกครั้ง
    ด้านพ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว. ท่องเที่ยวภูเก็ต เดินทางมาพบนางยุพิน ที่ร้านขายของชำบริเวณหาดไตรตรัง อ.กระทู้ ซึ่งเป็นร้านของนางยุพิน เพื่อเข้าเยี่ยมและเตรียมมอบเกียรติบัตร "คนดีของสังคม" ที่สร้างชื่อเสียงให้กับการท่องเที่ยวและจ.ภูเก็ต