- Details
- Category: ศิลปวัฒนธรรม
- Published: Monday, 03 August 2015 09:21
- Hits: 8494
พร้อมใจทั่วประเทศ-ซ้อมปั่นเพื่อแม่ บิ๊กตู่วอน อย่าขี่แซง ขบวนนำ
คึกคักทั่วประเทศซ้อมใหญ่กิจกรรม'ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่'นายกฯ พอใจสำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการควบคุมขบวนและการช่วยเหลือกรณีประสบอุบัติเหตุ ห่วงวันจริงขอความร่วมมือประชาชนอย่าปั่นแทรกหรือแซงขบวน อันตรายอาจทำให้ล้มทั้งขบวนได้ ให้ปั่นตามกัน ใครไม่ไหวออกไปจอดรอข้างทางก่อนแล้วค่อยมาต่อท้ายขบวนช่วงขากลับ ด้านโฆษก ตร.เผยเตรียมลดกำลังเจ้าหน้าที่อารักขา ภายหลังสมเด็จพระบรมฯ ทรง มีพระราชประสงค์ให้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างรีแล็กซ์ ไม่เข้มงวด เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่าได้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิด ทรงห่วงใยประชาชน ให้คำนึงถึงสุขภาพความพร้อมของร่างกายและความปลอดภัย ปั่นได้เท่าที่ปั่น ขอให้การปั่นในวันจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสภาพอากาศปลอดโปร่ง
นายกฯนำทีมซ้อมใหญ่ปั่นเพื่อแม่
วันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9014 ข่าวสดรายวัน
ซ้อมใหญ่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานซ้อมใหญ่ 'ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่น เพื่อแม่'จากจุดสตาร์ตพระลานพระราชวังดุสิตถึง ร.1 รอ. โดยมีประชาชนมาร่วมซ้อมหลายพันคน เมื่อวันที่ 2 ส.ค.
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนราชเลขา นุการในพระองค์ ซักซ้อมประเมินความพร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 'ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่' โดยนายกฯ รับฟังรายงานลำดับขั้นตอนพิธีการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสำรวจสถานที่ เส้นทางเสด็จ จุดกราบบังคมทูลรายงาน พลับพลา ที่ประทับ จุดวางซุ้มเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และบริเวณที่ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ รวมถึงฟังบรรยายสรุปการจัดขบวนจักรยานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในขบวนเอ และจุดวางจักรยานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในขบวนบี แผนรักษาความปลอดภัย การจัดทีมแพทย์และพยาบาลประจำขบวน โดยมีผู้เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง อาทิ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนผู้ว่าฯ กทม. อธิบดีกรมประชา สัมพันธ์ เพื่อนำข้อบกพร่องทั้งหมดมาประชุมหารือแก้ไขเพื่อให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดในวันจริง
จากนั้นเวลา 08.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ และผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ นำขบวนรัฐมนตรีสวมเสื้อสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำพระชนมวารของสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ปั่นจักรยานนำตัวแทนข้าราชการทุกภาคส่วน และประชาชน รวมจำนวน 3,000 คน แบ่งออกเป็นขบวนเอ 500 คน ขบวนบี 500 คน และขบวนซีซึ่งเป็นประชาชนประมาณ 2,000 คน ออกจากพระลานพระราชวัง ดุสิต ทั้งนี้ กำหนดให้ถึงจุดหมายก่อนเวลา 12.00 น. โดยใช้เส้นทางถนนศรีอยุธยา ผ่านถนนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าแยกสามเหลี่ยมดินแดง เข้าถนนวิภาวดีฯ กระทั่งถึงหน้ากรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) รวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและกำลังพลจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
นำปั่นจากลานพระรูปถึงร.1 รอ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนของนายกฯ ปั่นผ่านหน้าร.1 รอ. เพื่อดูเส้นทางการ ปั่นจักรยานในช่วงข้ามสะพานข้ามแยกสุทธิสาร และสะพานข้ามแยกลาดพร้าว ความสูงของทางขึ้นและทางลง จากนั้นเลี้ยววนกลับก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าวไปยัง ร.1 รอ. เพื่อซ้อมพิธีการและรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรม การเตรียมความพร้อมของพลับพลาที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
จากนั้นนายกฯและคณะรัฐมนตรีเดินทางโดยรถบัสจาก ร.1 รอ. ไปตรวจความพร้อมและรับฟังรายงานการบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดกิจกรรมที่กรมทหารราบ ที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) โดย ใช้เส้นทางผ่านถนนด้านในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสำรวจพื้นผิวถนนและแสงไฟส่องสว่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการซ้อมใหญ่เป็นไปด้วยดี มีการจัดแบ่งขบวนเสมือนวันจริง ขบวนเอนำโดยนายกฯ และรัฐมนตรี ผู้แทนราชเลขานุการในพระองค์ ขบวนบีมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และขบวนซี มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้ในแต่ละขบวนมีชุดเจ้าหน้าที่บริการและทีมแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยผู้ร่วมกิจกรรม
พระบรมฯทรงห่วงประชาชน
ม.ล.ปนัดดา รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลรายงานความพร้อมการ จัดกิจกรรม โดยพระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ให้คำนึงถึงสุขภาพความพร้อมของร่างกายและความปลอดภัย ปั่นได้เท่าที่ปั่น และด้วยการ จัดงานครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯ และท้องถิ่น จึงขอให้การปั่นในวันจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสภาพอากาศปลอดโปร่ง
เผยทีมแพทย์พร้อมดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมความพร้อมตลอดเส้นทางการปั่นจักรยาน มีบริการน้ำดื่มแจกจ่ายตลอดเส้นทาง และมีเต็นท์พยาบาลจาก ร.พ.สงฆ์ หน่วยตรวจโรคในกองพันสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 11 (สห.มทบ.11,) ร.พ. พระมงกุฎฯ ร.พ.ราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยกู้ชีพนเรนทรประสานการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีหน่วยแพทย์ทหารของ ร.พ.อานันทมหิดล หน่วยกู้ชีพป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยกู้ชีพร่วมกตัญญู
บิ๊กตู่พอใจการซ้อมผ่านด้วยดี
ต่อมาเวลา 10.15 น. ที่ ร.11 รอ. พล.อ. ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการ ซักซ้อมสำหรับกิจกรรมในวันปั่นจักรยานจริงวันที่ 16 ส.ค. โดยตรวจความเรียบร้อยตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิตไล่มาตามลำดับ ซึ่งตนซักซ้อมปั่นในเส้นทางช่วงแรก แต่สมาชิกผู้เข้าร่วมจำนวนมากต้องการขี่จักรยานต่อไปในช่วงที่ 2-3 จึงอนุมัติให้สามารถใช้เส้นทางกลับรถที่ลาดพร้าวเพื่อไปยัง ร.1 รอ.ได้ ซึ่งทุกคนคงพอใจ เพราะหากขี่จักรยานเต็มขบวนทั้งหมดก็อาจจะ มีปัญหาเรื่องการจราจร และทำให้ไม่สบายก่อนถึงวันที่ 16 ส.ค.ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การซักซ้อม ทุกอย่างทั้งการควบคุมขบวนและการช่วยเหลือกรณีประสบอุบัติเหตุถือว่าน่าพอใจ มีอุบัติเหตุรถเกี่ยวกันเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่เป็นกังวลคือการควบคุมขบวน การติดต่อสื่อสาร การพยาบาล รถนำขบวน การจัดรูปขบวนเพื่อเข้าพิธีการต่างๆ ซึ่งทั้งหมดกองงานในพระองค์จะร่วมกับคณะทำงานของกองทัพบก ตำรวจและทหาร ตรวจเส้นทางในขากลับของวันนี้อีกรอบจนกระทั่งไปสิ้นสุดที่สนามเสือป่า ข้อสำคัญคือขอความร่วมมือประชาชนอย่าปั่นแซงขบวนเพราะจะอันตราย อาจทำให้ล้มกันทั้งขบวนได้ หากใครเคยดูการแข่งจักรยานตูร์เดอฟรองซ์ที่ประเทศฝรั่งเศส เวลาล้มก็ล้มกันทั้งหมด จึงขอให้ปั่นร่วมกันเป็นขบวน การแซงขบวนจากด้านข้างจะทำให้รูปขบวนเสียหาย นอกจากนี้ผู้ที่ขี่ช้าและห้อยท้ายขบวนทำให้ขบวนยาวออกไป ต้องบอกว่าหากใครไม่ไหวให้จอดรอที่ข้างทางก่อนแล้วค่อยมา ต่อท้ายขบวนช่วงขากลับไปยังสนามเสือป่า
"วันนี้ ดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศ เมื่อวันก่อนผมได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ท่านทรงปลาบปลื้มที่เห็นคนไทยให้ความสนใจในการออกกำลังกายมากขึ้น พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผมได้กราบบังคมทูลว่า รัฐบาลได้เตือนผู้ขับขี่ ทั้งจักรยาน รถยนต์ ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และระมัดระวังตัวเองให้ได้ ซึ่งพระองค์ท่านพระราชทานความห่วงใยให้กับทุกคนที่จะร่วมขบวนในวันที่ 16 ส.ค. รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ขอปชช.เชื่อฟังฝ่ายจัดงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การแสดงความจงรักภักดีนอกจากการปั่นจักรยาน ในทุกจังหวัดแล้ว ประชาชนที่ไม่ได้ปั่นจักรยานให้ติดตามดูโทรทัศน์เพื่อส่งกำลังใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม ซึ่งคิดว่าส่วนใหญ่แต่ละครอบครัวก็มีคนมาเข้าร่วมในกิจกรรม ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สมัครเกือบ 3 แสนคน ในกรุงเทพฯ ประมาณ 4 หมื่นคน จะเห็นว่าจากการซ้อมวันนี้มีมาจำนวนมาก จึงขอให้เชื่อฟังการประชาสัมพันธ์จากฝ่าย จัดงานเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ เช่น เมื่อ ลงทะเบียนแล้วจะขับขี่อย่างไร ส่วนผู้ที่ ไม่ได้ลงทะเบียนแต่อยากมาเฝ้าฯ รับเสด็จ จะเตรียมพื้นที่ให้รอรับเสด็จตลอดเส้นทาง 7-8 จุด ขอให้ไปอยู่ในจุดดังกล่าว หลังกิจกรรมปั่นจักรยานเสร็จสิ้นเชิญร่วมชมกิจกรรมดนตรีที่สนามเสือป่า สำหรับแผนการรับมือสภาพอากาศ ถ้าในวันที่ 16 ส.ค.มีฝนตกเพียงเล็กน้อยยังปั่นต่อได้ ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นห่วงและให้ทหารอากาศและกรมอุตุนิยมวิทยาติดตามสภาพอากาศในวันจริง หากมีฝนตกหนักก็อาจต้องชะลอ พระองค์ท่านทรงตั้งพระทัยไว้แล้ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการปั่นระยะทาง 15 กิโลเมตรในวันนี้ ตนต้องออกแรงมากหน่อยในช่วงขึ้นสะพาน ซึ่งคิดว่าพอไหว แต่ในระยะยาวไม่รู้ อยู่ที่ใจ ตนพยายามเต็มที่เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และรู้ว่าสื่อมวลชนเป็นกำลังใจ อยากให้ประชาชนมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อย่าเพิ่งถือว่าวันนี้เป็นงานใหญ่โต เพราะงานใหญ่จริงๆ คือวันที่ 16 ส.ค. วันนี้เป็นแค่การซักซ้อม สุดท้ายขอฝากให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุจากการซ้อม ใครที่ไม่สบายก็ไปหาหมอ สำหรับตนวัดความดันก็สูงขึ้นมาหน่อย ถ้าความดันขึ้นนานแล้วไม่ลงตรงนี้น่ากลัว ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองด้วย
ตร.เตือนอันตรายแทรกขบวน
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. กล่าวว่า การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยได้ลดกำลังเจ้าหน้าที่จากเดิมให้เหลือที่ประมาณ 1,000-2,000 นาย โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระประสงค์ให้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างรีแล็กซ์ ไม่เข้มงวด เพื่อให้ประชาชนที่ร่วมกิจกรรมและร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จรู้สึกว่าได้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดพระองค์ท่าน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ชุดนอกเครื่องแบบอยู่ร่วมกับขบวนของประชาชนในทุกจุด โดยจะสนธิกำลังกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่มาตรการดูแลอื่นๆ จะมีทีมแพทย์และชุดฉุกเฉินประจำอยู่ทุก 500 เมตรตลอดเส้นทาง เพื่อดูแลปฐมพยาบาลและช่วยเหลือหากเกิดกรณีฉุกเฉินระหว่างปั่นจักรยาน อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมไว้ก่อนหน้านี้และคิดว่าจะมาแทรกระหว่างขบวน ขอว่าอย่าทำ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและส่งผลให้ขบวนล่าช้า โดยผู้ที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมก็สามารถติดตามได้ตามสื่อต่างๆ
บก.จร.เผยสภาพการจราจร
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผบก.จร. เปิดเผยถึงสภาพปัญหาการจราจรภายหลังการซักซ้อมว่า การจราจรช่วงการซักซ้อมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีปัญหาเกิดขึ้นบางจุดเท่านั้น คือการปล่อยรถช่วงถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า มีผู้ใช้เส้นทางต่อมาเรื่อยๆ ทำให้การระบายรถช่วงเข้าทางด่วนโทลล์เวย์บริเวณแยกดินแดงการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปล่อยรถที่เข้ามาใช้เส้นทางได้ค่อนข้างช้า เนื่องจากประชาชนเข้ามาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก จากเดิมจะซักซ้อมขบวนเอและขบวนบีร่วมขบวนไม่เกิน 800 คัน แต่ปรากฏว่ายอดที่เข้ามาร่วมขบวนทั้งหมดกว่า 3,000 คัน เมื่อขบวนปั่นจักรยานเข้าไปถึงที่ ร.1 พัน.1 รอ. แล้วก็มีประชาชนที่รออยู่ปลายทางอยากปั่นกลับมาที่จุดเริ่มต้นพระลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้าอีก ทั้งคนที่ไม่ได้ร่วมลงทะเบียนหรืออยู่ระหว่างทางเห็นขบวนผ่านมาก็เข้ามาร่วมปั่นจักรยานด้วย จึงต้องนำขบวนรถจักรยานของประชาชนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมปั่นกลับมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
รอง ผบก.จร.กล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่ขบวนปั่นไปถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์แล้ว ได้ตรวจสอบการจราจรบริเวณดังกล่าวไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะได้เปิดช่องทางเดินรถบริเวณหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะไว้ ทำให้การจราจรปลายทางเคลื่อนตัวไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าท้ายขบวนอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขากลับมาก็ยังมีประชาชนให้ความสนใจปั่นจักรยานอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมถึงประชาชนที่ออกมายืนดูบริเวณข้างทางขณะปั่นจักรยานผ่าน ไม่ว่าจะเป็นจุดที่ ม.เกษตร ศาสตร์ หรือจุดอื่นๆ มีประชาชนมารออยู่ค่อนข้างเยอะ เมื่อเห็นพื้นที่ว่างก็เข้ามาเติมทันที ทำให้เห็นว่าประชาชนต้องการเข้ามาร่วมมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะทำงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการจัดกิจกรรมดังกล่าว
ปทุมจัดปั่นผ่านวัดประวัติศาสตร์
ส่วนที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 14.00 น. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผวจ.ปทุมธานี นำข้าราชการพร้อมประชาชนซ้อมปั่นจักรยาน โดย จ.ปทุมธานี กำหนดเส้นทางจักรยานสายวัฒนธรรม มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ คือวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เคยเสด็จฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2517 ทั้งนี้ในวันที่ 16 ส.ค. ยังมีกิจกรรมปล่อยปลา 830,000 ตัว ที่วัดมะขาม อ.เมือง จ.ปทุมธานี ด้วย
อ่างทองหวังทำสถิติโลก
เวลาเดียวกัน ที่ จ.อ่างทอง นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.อ่างทอง ปั่นนำขบวนนักปั่นเฉลิมพระเกียรติซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ขบวน ขบวนแรกเป็นขบวนระยะไกลจากสนามหน้าศาลากลางไปยังวัดพินิจธรรมสาร อ.ป่าโมก ระยะทาง 25.6 ก.ม. และขบวนที่ 2 เป็นขบวนระยะใกล้จากสนามหน้าศาลากลางไปยังวัดนกราชปักษี อ.เมือง ระยะทาง 11 ก.ม. ก่อนที่ทั้ง 2 ขบวนจะปั่นจักรยานไปรวมกันที่ บ.ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) เพื่อบันทึกสถิติโลก ทั้งนี้ตลอดเส้นทางมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยอำนวยความสะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการซ้อมปั่นจักรยานในครั้งนี้ มีจักรยานหลายประเภทเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งเสือหมอบ เสือภูเขา จักรยานแม่บ้าน จักรยานเด็ก โดยที่ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมากคือจักรยานล้อโตโบราณของ "น้องบอส" ด.ช.จีรศักดิ์ ตันเจริญ วัย 13 ปี และจักรยานขนาดเล็กลายสไปเดอร์แมนสีแดงของ "น้องนิว"ด.ช.สรวิชญ์ สวัสดิ์ศรี วัย 5 ปี รวมถึงรถจักรยานของพ.ต.ต.หมัดอุเส็น เหมาะสนิ ร้อยเวร สภ.แสวงหา ที่มีเด็กนั่งอยู่ในที่นั่งเด็กข้างหลัง เป็นลูกชายวัย 3 ขวบ ชื่อด.ช.พิพัฒน์ เพ็งหนองหิน หรือน้องซากัส โดยพ.ต.ต.หมัดอุเส็นเผยว่า ลูกชายชอบนั่งจักรยานมาก ตนเห็นว่าเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมากจึงพามาด้วย
อยุธยาใช้เส้นทางมรดกโลก
เวลา 15.00 น. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นำทีมนักปั่นจักรยานกว่า 500 คน ซักซ้อมเส้นทางการปั่นจักรยานตามเส้นทางจริง โดยผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ เมืองมรดกโลก เริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัด ถนนสายเอเชีย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโรจนะ ตรงไปจนถึงศาลากลางจังหวัดหลังเก่า เลี้ยวซ้ายถนนศรีสรรเพชญ์ เลี้ยวขวาถนนอู่ทอง ผ่านพระตำหนักสิริยาลัย ซึ่งเป็นจุดลงนามถวายพระพรจุดที่ 1 จากนั้นต่อไปยังเจดีย์ศรีสุริโยทัย จุดลงนามถวายพระพรจุดที่ 2 พระราชวังโบราณ พลับพลาตรีมุข จุดลงนามถวายพระพรจุดที่ 3 เลี้ยวขวาวัดราชประดิษฐาน เข้าสู่ถนนชีกุน เลี้ยวซ้ายปั๊ม ปตท. เข้าถนนโรจนะ ข้ามสะพานปรีดีธำรง ลอดใต้สะพานเข้าสู่ถนนเลียบทางรถไฟ เลี้ยวขวาถนนบางปะอิน ผ่านวัดพนัญเชิงวรวิหาร และหมู่บ้านญี่ปุ่น เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2053 ตรงไปยังศาลากลางจังหวัด รวมระยะทาง 26.50 กิโลเมตร โดยได้ทดสอบการปิดการจราจรเพื่อเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกับเส้นทางก่อนจะปั่นจริง
มหาสารคามซ้อมปั่น 4 เส้นทาง
วันเดียวกัน บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม (หลังเก่า) นายชยาวุธ จันทร ผวจ.มหาสารคาม พร้อมประชาชนทุกภาคส่วนที่ได้ลงทะเบียนไว้จำนวน 1,772 คน ร่วมใจกันจัดกิจกรรมซ้อมใหญ่ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ตามเส้นทางสายมหาสารคาม-บรบือ โดยแบ่งเป็น 4 เส้นทาง เส้นทางแรกเป็นขบวนของกลุ่ม ผู้บริหาร นำโดยนายชยาวุธ ปั่นไปถึงสี่แยกแก่งเลิงจาน เลี้ยวขวาไปตามถนนบายพาสเลี่ยงเมือง เพื่อร่วมจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติที่วัดโพธิไชยาราม (วัดป่าแก่งเลิงจาน) ต.แก่งเลิงจาน อ.เมือง ระยะทางไปกลับ 16 ก.ม.
เส้นทางที่ 2 ปั่นตรงมุ่งหน้าเข้า อ.บรบือ กลับรถหน้าสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดมหาสารคาม ระยะทางไป-กลับ 20 ก.ม. เส้นทางที่ 3 ปั่นไปถึงจุดกลับรถบริเวณร้านอาหารครัวบ้านสวน สี่แยก อ.บรบือ รวมระยะทางไป-กลับ 43 ก.ม. และเส้นทางที่ 4 เป็นกลุ่มนักปั่นสมัครเล่น ส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิง เด็ก ผู้สูงอายุ ปั่นไปถึงจุดพักรถหน้าโชว์รูมอีซูซุ จากนั้นรอนักปั่นจากทั้ง 3 เส้นทาง เพื่อปั่นเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคามหลังเก่าพร้อมกัน
เลยปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ
เวลา 15.00 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย เป็นประธานพิธีฝึกซ้อมเพื่อความพร้อมเพรียง ซึ่งจ.เลย มีผู้ลงทะเบียนปั่นจักรยานเพื่อแม่จำนวน 1,865 คน กำหนดระยะทาง 30 ก.ม. จากหน้าศาลากลางไปตามถนนมลิวรรณ เลี้ยวไปถนนสายเลย-เชียงคาน ไปค่ายศรีสองรัก ถึงที่ตั้งพระพุทโธ มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ 84 ต้น จากนั้นเดินทางกลับ ถึงบ้านกำเนิดเพ็ชร ไปยังห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี ชมการแสดงนิทรรศการสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปลูกต้นไม้อีก 84 ต้น จากนั้นขบวนเดินทางกลับที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย
กาฬสินธุ์ 3.7 พันร่วมกิจกรรม
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ผวจ.กาฬสินธุ์ นำส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จำนวนกว่า 700 คน ร่วมกิจกรรมซ้อมใหญ่ โดยกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดให้ทุกจังหวัดจัด กิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ เฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 16 ส.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวันปั่นจริง จึงได้นำส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกิจกรรมซ้อมใหญ่ในวันนี้ เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมเฉลิม พระเกียรติฯ แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่และแม่ของแผ่นดิน เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ และ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย โดยเส้นทางการปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติของ จ.กาฬสินธุ์ ระยะทางประมาณ 7 ก.ม. เบื้องต้นมีผู้ร่วมลงทะเบียนแล้ว 3,709 คน คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมปั่นจักรยานและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก
ตรังกระทบผู้ใช้เส้นทางน้อยที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่.ตรัง บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ร่วมเป็นประธานซ้อมปั่นจักรยาน โดยมีนักปั่นจักรยานเข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 2,000 คน โดยแบ่งรูปแบบขบวนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกประกอบด้วย ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน ภาคเอกชน ฯลฯ จำนวน 200 คน กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มนักปั่นจักรยานทุกหมู่เหล่า และกลุ่มที่ 3 ผู้ใช้จักรยานทั่วไป ประชาชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน เด็กๆ คนพิการ ผู้สูงอายุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 16 ส.ค. ขบวนปั่นจะออกจากจุดสตาร์ต ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 เลี้ยวซ้ายถึงสี่แยกโกกุน เลี้ยวซ้ายถึงหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าศาลากลาง ตรงไปสามแยกโรงเรียนพรศิริกุล ตรงไปตามถนนรัษฎา(ตรัง-สตูล) ไปจนถึงสวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ระยะทาง 13 ก.ม. ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นปั่นเลี้ยวขวามาตามถนน ตรัง-ปะเหลียน ผ่านสี่แยกต้นสมอ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายคลองน้ำเจ็ด ถึงสี่แยกสาลิกาเลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิเศษกุล ผ่านโรงเรียนวัดควนวิเศษมูลนิธิ โรงเรียนสภาราชินี ถึงหอนาฬิกา ตรงไปเลี้ยวขวาสี่แยกโกกุน ตรงไปเลี้ยวขวาเข้าบริเวณลานพระบรมราชา นุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 รวมระยะทาง 26 ก.ม.
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยและการบริหารจัดการด้านการจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดตรังจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย ประจำจุดต่างๆ และจะปิดเส้นทางจราจรตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางสายดังกล่าว ขบวนยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ต่อจุดแยก เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้เส้นทาง เมื่อท้ายขบวนปั่นผ่านจุดแยกก็จะปล่อยให้ใช้เส้นทางตามปกติ และจะไม่ปิดล่วงหน้านานเพราะจักรยานไม่ได้มีความเร็ว ก่อนหัวขบวนปั่นถึงจุดแยกต่างๆ ประมาณ 20 เมตร จึงจะปิดการจราจรซึ่ง จะทำให้การจราจรไม่ติดมาก
นครศรีธรรมราชปั่นไกล 3 ช.ม.
ที่ถนนราชดำเนินหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดซ้อมใหญ่กิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการ นำขบวนออกจากถนนราชดำเนินผ่านหน้าวัดสวนป่าน ถนนท่าชี ผ่านหลังวัดพระมหาธาตุฯ เลี้ยวเข้าถนนราชดำเนินที่แยกประตูไชยสิทธิ์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลมหาราช เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหัวถนน แล้วตรงไปเลี้ยวซ้ายที่สามแยกนาหลวง เข้าสู่ถนนพัฒนาการคูขวาง ผ่านหน้าโรงแรมทวินโลตัส ผ่านสามแยกประตูลอด ผ่านสี่แยกพัฒนาการคูขวาง แวะพักจุดที่หนึ่งบริเวณหน้าร้านอาหารคันทรี่โฮม จากนั้นปั่นไปตามถนนอ้อมค่าย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ด้านทิศเหนือบริเวณบ้านท่าแพ ถึงจุดพักที่สองบริเวณอนุสาวรีย์วีรไทย(พ่อจ่าดำ) จากนั้นปั่นออกจากค่ายวชิราวุธด้านทิศใต้ เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ผ่านหน้าสนามกีฬาจังหวัด ผ่านสี่แยกท่าวัง ผ่านสี่แยกตลาดแขก สนามหน้าเมือง สี่แยกท่าม้า ไปสิ้นสุดที่ถนนราชดำเนินหน้าศาลากลางจังหวัด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ราชบุรีก็เตรียมร่วมสถิติโลก
ที่ จ.ราชบุรี นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผวจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ล่าสุด จ.ราชบุรีมีผู้สมัครร่วมกิจกรรมแล้วจำนวน 3,321 คน ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม 1,000 คนแรก จะได้รับเสื้อและเข็มพระราชทาน และน้ำดื่ม ส่วน ผู้สมัครร่วมกิจกรรมลำดับที่ 1,001-3,321 คน จังหวัดจะทำเสื้อมอบให้ ซึ่งในวันที่ 12 ส.ค.นี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะมีการสแกนบาร์โค้ดจักรยานที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อบันทึกลงกินเนสส์บุ๊ก ร่วมเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
ชัยนาทปลื้มสมัครที่1 ของประเทศ
วันเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท พร้อมด้วยข้าราชการ นักเรียนและประชาชนทุกภาคส่วนกว่า 1,000 คน ร่วมกันซ้อมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ โดยผวจ.ชัยนาท เผยว่า ขณะนี้มีชาวชัยนาทสมัคร เข้าร่วมกิจกรรมมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศคือ 8,631 คน และยังติดต่อเข้ามา อีกจำนวนมาก คาดว่าถึงวันที่ 16 ส.ค. ชัยนาทจะมีผู้มาร่วมงานมากกว่า 15,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมปั่นครั้งนี้เป็นไปอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางฝนตกโปรยปรายตลอดเส้นทางสร้างความสดชื่น และเมื่อไปถึงวัดปากคลองมะขามเฒ่า เจ้าอาวาสได้มอบพระผงหลวงปู่ศุขให้แก่ผู้ร่วมปั่นคนละ 1 องค์เพื่อความเป็นสิริมงคล
กทม.รับเข็มกลัดพระราชทาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในวันที่ 3 ส.ค. เวลา 14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบเข็มกลัดพระราชทานกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 100,000 ชิ้น จากผู้แทนกองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อมอบให้กับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต กทม. นำไปจัดพิธีรับมอบในวันที่ 14-15 ส.ค.นี้ ณ 50 สำนักงานเขต กทม.
สระบุรีแปรอักษร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.สระบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน ซ้อมใหญ่ปั่นจักรยาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการ พร้อมทั้งมีการแปรอักษร Bike For Mom ที่วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี