- Details
- Category: ศิลปวัฒนธรรม
- Published: Wednesday, 06 December 2023 13:49
- Hits: 18607
ไพฑูรย์-เจริญ -วิทัย พ่อดีเด่นประจําปี 2566 เปิดใจเคล็ดลับดูแลลูกให้เป็นคนดี-ประสบความสําเร็จ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ประกาศรายชื่อพ่อดีเด่นแห่งชาติ ประจําปี 2566 รวม 35 คน ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรม จริยธรรม ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ กําหนดจัดงาน “น้อมรําลึกพ่อหลวงไทย ร่วมใจเชิดชูวัฒนธรรม” โดยจัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่พ่อดีเด่น แห่งชาติ ที่อาคารรัฐสภา ในวัน 6 ธันวาคมนี้ เวลา 14.00-16.30 น. เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความ จงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ได้รับรางวัลพ่อดีเด่นประจําปี 2566 นาย ไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับ รางวัลพ่อดีเด่นในปี 2566 นี้ เพราะปีที่ผ่านๆ มา จะมี การมอบรางวัลให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศ ส่วนตน ไม่ได้มีบทบาททางการเมืองมานานแล้ว ตอนนี้มีลูกชาย ‘นายนราพัฒน์ แก้วทอง’ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการเสนอชิงตําแหน่งหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์คนใหม่ ที่จะมีการลงคะแนนเสียงในวันที่ 9 ธันวาคมนี้
ตนในฐานะพ่อมักจะสอนลูกชายให้มีจิตใจที่ เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นตามโอกาสและ ความเหมาะสม ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ต่างก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดี แม้ตนจะเป็นนักการเมืองแต่ก็แบ่งเวลาให้กับลูกๆ พร้อมให้การศึกษาที่ดีกับทุกคน เพราะส่วนตัวตนเกิดมาจากการเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือในโรงเรียนวัดมาตลอด แต่ก็ใช้ความมานะจนเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้น ตนจึงอยากมอบการศึกษาที่ดีให้กับลูกๆ ซึ่งวันนี้ทุกคนประสบความสําเร็จในชีวิต
“ส่วนการดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งสําคัญ ผมเป็นพ่อที่อีก 2 ปีก็อายุ 90 ปีแล้ว การจะอยู่กับลูกหลานได้นานๆ เราต้องดูแลตัวเองเริ่มจากการอาหารการกิน บริหารร่างกายทุกวันอย่างน้อย 30 นาที บริหารสุขภาพจิตให้ดี มองโลกในแง่ดีเสมอ และเจาะเลือดตรวจสุขภาพทุกๆ 3 เดือน เพ่ือดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง จะได้ไม่เป็นภาระกับ ลูกๆ ท่ีต่างก็มีหน้าท่ีการงานท่ีต้องทําและดูแลชีวิตส่วนตัวของเขาเช่นกัน”นายไพฑูรย์ กล่าว
ด้าน นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ คณะอนุกรรมาธิการ ด้าน คุณธรรมจริยธรรม ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมสมาพันธ์สถาน ประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ มีมติมอบรางวัล เชิดชูเกียรติพ่อดีเด่นแห่งชาติประจําปีพุทธศักราช 2566 ให้ตน และขอร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับ รางวัลพ่อดีเด่นแห่งชาติอีก 34 ท่านในโอกาสนี้ด้วย
“ในฐานะที่เคยดํารงตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภาระหว่างปี 2535-2539 ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่องค์กรหลักของ ชาติที่ผมมีความผูกพันนี้ได้มองเห็นคุณค่าและความตั้งใจในการเลี้ยงดูบุตรของผมให้เป็นคนดีของสังคม ทั้งนี้ผม ต้องขอกล่าวถึงบุคคล สําคัญ 3 ท่านที่มีส่วนเป็นอย่างยิ่งใน การดําเนินชีวิตของผมตลอดมาจนถึงวันนี้ สองท่าน แรกคือบิดามารดาที่ได้เลี้ยงดูผมมาอย่างอบอุ่นด้วยความรักและความเอาใจใส่ สนับสนุนให้ปฏิบัติตนอยู่ใน ความถูกต้องและดีงาม
มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและขยันขันแข็งในการประกอบสัมมาอาชีพ รวมถึงการ ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเรามีกําลังพอที่จะทําได้ ส่ิงเหล่าน้ีนับเป็นแบบอย่างสําคัญท่ีผมได้จดจํามาอบรมสั่งสอนลูกๆ ทั้ง 5 คน ตลอดมา อีกท่านหนึ่งท่ีมีบทบาทสําคัญเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน คือคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภรรยาของผมผู้ เป็นท้ังคู่ชีวิต และเป็นแม่ของลูกๆ ทั้ง 5 คน ที่คอยเป็นกําลังใจท่ีสําคัญให้ผมตลอดระยะเวลากว่า 51 ปีท่ีครองชีวิต คู่ร่วมเดินทางบนเส้นทางชีวิตกับผมมาโดยตลอด” นายเจริญ กล่าว
นายเจริญ กล่าวต่อว่า ตนและคุณหญิงได้ร่วมกันสร้างครอบครัวให้มั่นคง เลี้ยงดูลูกๆ ทุกคนอย่างดีที่สุด โดยยึดหลักการเดียวกันกับที่คุณพ่อคุณแม่ของทั้งตนและคุณหญิง ทั้งนี้ คุณหญิงเองก็เข้าใจบริบททางสังคมเป็น อย่างดี โดยเฉพาะการให้ความสําคัญด้านการศึกษา ทําให้ลูกๆ ทุกคนเติบโตขึ้นด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข มี ความอ่อนน้อมถ่อมตนและประสบความสําเร็จในหน้าที่การงานตามแนวทางของแต่ละคน ดังนั้น ตนขอกล่าวว่า “จะไม่มีทางได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เลย หากปราศจากซึ่งความร่วมแรงร่วมใจกันของบุคคลทุกท่านที่ผม กล่าวถึงนี้”
ขณะที่ นายวิทัย รัตนากร ผู้อํานวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทางคณะอนุกรรมาธิการ ด้านคุณธรรมจริยธรรมฯ ที่มอบรางวัลพ่อดีเด่นให้กับตน ซึ่งตนขอมอบรางวัลนี้ให้เป็น 'รางวัลของครอบครัว' เพราะหากไม่มีครอบครัวตนก็คงไม่ได้รับรางวัลนี้ สําหรับ เคล็ดลับการดูแลกันในครอบครัว ตนจะเน้นสอนลูกอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.สอนลูกให้เป็นคนดี ผ่านการสอนและการ กระทําให้เห็นเป็นตัวอย่างมาตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องให้กับลูก และ 2.สอนให้ใช้ชีวิต อย่างมีความสุข ตนมักจะสอนลูกว่า ไม่จําเป็นต้องชนะ หรือเก่งกว่าใคร เพียงแต่สอนให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมี ความสุข ได้ทําในสิ่งที่อยากทํา
โดยไม่มีแรงกดดันจากครอบครัว เรื่องความสุขเป็นนามธรรมที่ไม่มีมาตรวัดเช่นเดียวกับเรื่องการเป็นคนดี ดังนั้นต้องอาศัยการปลูกฝังท่ี ต้องใช้เวลา ต้องปลูกฝังต้ังแต่เด็ก ให้เขารู้จักและแยกแยะส่ิงที่ดีและไม่ดีให้ได้ สอนให้รู้จักหิริโอตัปปะ “มาตรวัดความดีและความสุข เป็นเรื่องที่เขียนออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการดํารงชีวิตของเรา โดยที่ ครอบครัวจะไม่สอนให้เขาต้องเป็นท่ีหน่ึง หรือเอาชนะให้ได้ แต่ขอให้เป็นคนดี เรียนหนังสือดี มีจิตสํานึกที่ดี”นายวิทัย กล่าว