- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Tuesday, 23 August 2016 09:31
- Hits: 3077
ทรูเสริมทัพคอนเทนต์ต่อยอดธุรกิจ อู้ฟู่รับค่าลิขสิทธิ์'โปเกมอน'เพิ่มลูกค้ามือถือ20%
'กลุ่มทรู' เดินหน้าดึงคอนเทนต์ใหม่เสริมทัพ โฟกัส 'กีฬา-บันเทิง-การ์ตูน' ปั๊มรายได้ดาต้า และเพิ่มฐานลูกค้า ยิ้มร่ากระแสเกมดัง 'โปเกมอนโก' ฮอตรับทรัพย์ค่าลิขสิทธิ์ เตรียมคลอด 'โลคัลเวอร์ชั่น' ไตรมาส 4 ตั้งเป้าโกยฐานลูกค้าเพิ่ม 20%
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมเน้นเรื่องอัตราค่าบริการ ประสิทธิภาพ และความครอบคลุมของโครงข่าย แต่ปัจจุบันต่างพยายามหาดิจิทัลคอนเทนต์ต่าง ๆ มาต่อยอดบริการ และมีบทบาทในการสร้างการเติบโตในการใช้ดาต้ารวมถึงกลุ่มทรูเองที่มีการนำคอนเทนต์สร้างรายได้ต่อเนื่อง
'พรีเมียร์ลีก-โปเกมอน'บูม
โดยบริษัทได้สิทธิ์ในการเผยแพร่ฟุตบอลอิงลิชพรีเมียร์ลีกจึงช่วยเพิ่มรายได้ในการใช้ดาต้าได้พอสมควรรวมเข้ากับกระแสความแรงของเกมโปเกมอนโกเนื่องจากบริษัทได้สิทธิ์ในฐานะมาสเตอร์ไลเซนซีโปเกมอนตั้งแต่ปี2557ประกอบด้วยการนำชื่อ และตัวละครมาสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรม และคิดค่าลิขสิทธิ์ เมื่อเกมโปเกมอนโกเข้ามา และมียอดผู้เล่นในไทยหลักล้านรายจึงมีบริษัทสนใจติดต่อนำแคแร็กเตอร์ไปใช้มากขึ้น รวมถึงสำนักงานกรุงเทพมหานครเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมให้สวนลุมพินีที่เมื่อก่อนเป็นศูนย์ออกกำลังกาย เป็นศูนย์กิจกรรมทางครอบครัว
'เพราะเป็นเกมเล่นง่าย ทุกเพศทุกวัย และเป็นแพลตฟอร์มในการสื่อสารได้ ส่งเสริมให้มีการใช้เวลาในครอบครัวมากขึ้น เช่น เดินสวนลุมเก็บโปเกมอนด้วยกัน ซึ่งทรูจะใช้ไลน์ออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ที่มีผู้ติดตาม 29 ล้านไอดี ช่องทีเอ็นเอ็น และทรูฟอร์ยู เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นอย่างไรให้ปลอดภัย เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุขกับเกม'
รับทรัพย์ค่าลิขสิทธิ์อื้อ
'โปเกมอนโก' ปัจจุบันให้บริการในระยะแรก หรือโกลบอลเวอร์ชั่นอ้างอิงแผนที่จากกูเกิลแม็ป และสถานที่ในเกมจากข้อมูลของเกม 'อินเกรส' ที่เนียนติกให้บริการมาแล้ว 3 ปี แต่หลังจากโครงสร้างพื้นฐาน และเกมเริ่มเสถียร จะเป็นเฟสสองที่มีความเป็นโลคัลเวอร์ชั่น เช่น เพิ่มสถานที่น่าสนใจในแต่ละประเทศ และทำเกมเป็นภาษาท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ง่ายขึ้น เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องการเพิ่มสถานที่ท่องเที่ยวเข้าไปในเกม เป็นต้น
'ร้านค้าหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถที่จะเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามาเล่นเกมโปเกมอนโกกับร้านค้าได้ แต่หากมีการใช้แคแร็กเตอร์ และโลโก้ในเชิงพาณิชย์ ต้องมาติดต่อมาที่เราก่อน ซึ่งก็มีแบรนด์ต่าง ๆ ติดต่อมาเป็นจำนวนมาก'
นายพีรธนกล่าวว่า ตลาดโมบายเกมในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะโครงสร้างพื้นฐานเรื่องโครงข่าย และเครื่องที่มีราคาถูกลง และเพื่อให้ผู้เล่นเกมโปเกมอนโกเล่นได้สนุกขึ้น บริษัทจึงมีแพ็กเกจ 99 บาท ใช้อินเทอร์เน็ตได้ 5 GB นาน 7 วันออกมา
เร่งเกมดูดลูกค้า 4G โต 20%
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กำลังหารือกับบริษัทโปเกมอนในญี่ปุ่นเกี่ยวกับการพัฒนาเกมเฟส 2 ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่น Local คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส 4 แต่ยังต้องรอดูเงื่อนไขทางการตลาดว่าจะนำเสนอแคมเปญต่อยอดธุรกิจได้แค่ไหน และจะมีการออกแพ็กเกจโปเกมอนที่หลากหลายขึ้น และให้สิทธิ์ลูกค้าทรูมูฟ เอช มีไอเท็มพิเศษกว่า รวมถึงพัฒนาสินค้าวางจำหน่ายในทรูช้อป
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาคอนเทนต์กีฬา และความบันเทิงอื่น ๆ เข้ามาเสริม คาดว่าด้วยความแรงของคอนเทนต์ที่มีจะทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 20% โดย ณ ไตรมาส 2 มีลูกค้า 4G 5 ล้านราย คาดว่าในสิ้นปีจะเกิน 10 ล้านราย
บูมตลาดแคแร็กเตอร์
ด้านนายธานินทร์ ติรณสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ บริษัทเดียวกัน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทถึงจุดคุ้มทุนในการซื้อลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และจากนี้จึงจะเป็นการต่อยอดสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่ม ซึ่งกระแสเกมโปเกมอนโกที่มาแรงมากเป็นบวกกับบริษัทแน่นอน และเชื่อว่าจะนาน เพราะโปเกมอนมีคาแร็กเตอร์มากถึง 150 ตัว สำหรับแผนการทำตลาดได้เตรียมทำกิจกรรมต่อเนื่อง
ส่วนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นกำลังหารือเรื่องลิขสิทธิ์และวิธีการใช้แต่จุดที่บริษัทญี่ปุ่นให้ความสำคัญและระวังมากที่สุดคือเรื่องภาพลักษณ์จะยังคงความเป็นธรรมชาติของโปเกมอนหรือไม่
'เรากำลังเจราจากับอีกหลายบริษัทเพื่อหาแคแร็กเตอร์ใหม่ๆเพิ่มคาดว่าในปลายปีจะมีอีก1-2ตัว คนไทยชอบแคแร็กเตอร์น่ารัก ๆ แนวญี่ปุ่น ถ้าเคยเป็นการ์ตูนฮิตยุค 1980-1990 ก็จะได้กลุ่มพ่อแม่ สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ถ้าพ่อแม่ลูกคุยกันรู้เรื่องก็สร้างกิจกรรมได้'
นายธานินทร์กล่าวต่อว่า มูลค่าตลาดแคแร็กเตอร์ไทยยังไม่ได้มีการสำรวจชัดเจน แต่เฉพาะค่าไลเซนส์น่าจะ 1,500-2,000 ล้านบาท แต่ถ้ารวมมูลค่าสินค้าลิขสิทธิ์น่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า ไปถึง 12,000-13,000 ล้านบาท
Bobby 3320