- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Tuesday, 12 May 2020 15:14
- Hits: 676
เอสเอ็มอีในเอเชียก้าวไกลได้ด้วยเทคโนโลยี
โดย มาเรีย ดีซาห์นัน
รองประธาน ออราเคิล ดิจิทัล
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่ระบบอัจฉริยะของประเทศในแถบเอเชีย ทำให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (SME) ในภูมิภาคต่างให้ความสำคัญอย่างมากกับการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบดิจิทัลในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและลดต้นทุนการผลิตผ่านการใช้ระบบอัจฉริยะในหลากหลายรูปแบบ
เอสเอ็มอีเจอโจทย์ยากขึ้นจากสถานการณ์นี้ แต่ใครที่พร้อม หันมาใช้อะไรที่มันดิจิทัลแล้ว ก็จะลุยต่อไปได้
จากความท้าทายเพิ่มขึ้นในปัจจุบันนั้น อาจทำให้เหล่าเอสเอ็มอีเจอโจทย์ที่ยากขึ้น ขึ้นอยู่กับว่าใครที่จะพร้อมจะหันมาใช้ระบบดิจิทัลและปรับเปลี่ยนไปใช้กับธุรกิจของตนเองได้ ในบรรดาผู้ทำธุรกิจระบบดิจิทัลต่างพบว่า การมีตัวช่วยที่ดีนั้นจะนำไปสู่การเพื่อสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจ และรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในขณะนี้
เอสเอ็มอีหลายแห่งยังคงขาดแคลนทรัพยากร หรือการตระหนักถึงภาพรวมของสิ่งเหล่านี้ ในความเป็นจริงนั้น การศึกษากลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดย่อมในเอเชียแปซิฟิก ชี้ให้เห็นว่า บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำระบบดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบมาปรับใช้ และการติดตั้งเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดในองค์กรนั้นอาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง
ความพิเศษของระบบคลาวด์
การเก็บข้อมูลเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ แต่การที่เอสเอ็มอีเปลี่ยนระบบคลาวด์นั้น จะทำให้สามารถเข้าถึงระบบซอฟต์แวร์ และระบบพื้นฐานด้านไอทีขั้นสูงได้เพิ่มมากขึ้น เพียงแค่ลงทะเบียนใช้งาน อีกทั้งยังสามารถขยายขีดความสามารถการดำเนินงานได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนซื้อเทคโนโลยีที่มีราคาแพง และค่าบำรุงรักษาสูง ระบบคลาวด์จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพแพลตฟอร์มการทำงาน ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กที่ต้องทำงานอย่างฉับไวมีศักยภาพในการทำงานเทียบเคียงคู่แข่งที่เป็นบริษัทใหญ่ ช่วยประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการทำงานที่ต้องอาศัยคนทำ ซึ่งเสี่ยงต่อการผิดพลาด ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการเอสเอมอีขนาดกลางและขนาดย่อม จะสามารถทุ่มเททำงานเพื่อปรับปรุงบริการและสร้างผลกำไรของบริษัทได้อย่างเต็มที่
เทคโนโลยีคลาวด์รุ่นใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย โดยมีการติดตั้งปัญญาประดิษฐ์มาในแอปพลิเคชั่นให้ทำงานร่วมกับระบบเดิมที่ผู้ใช้เข้าใจ และเชื่อมั่นในประสิทธิภาพอยู่แล้ว โครงสร้างพื้นฐานของคลาวด์ยังใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ และระบบอัตโนมัติให้สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง รักษาความปลอดภัย และซ่อมแซมตัวเองได้ กล่าวคือเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติทั้งหมดนั่นเอง สิ่งนี้นำมาซึ่งประสิทธิภาพ การปรับเปลี่ยนขนาดการทำงาน ความน่าเชื่อถือ ความเร็วในการทำงาน และระบบความมั่นคงปลอดภัยแบบบิลด์อินที่ดียิ่งขึ้น เพื่อการรับมือกับภัยคุกคามและการสนับสนุนการบริหารจัดการข้อมูลที่ยังไม่เคยพบมาก่อน
ไม่ลอง ก็ไม่รู้
แน่นอนว่าในเอเชียแปซิฟิก มีธุรกิจจำนวนมากต้องดำเนินอย่างฉับไว ต่างใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์มาแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น Vitarich ผู้ผลิตอาหารสัตว์ในฟิลิปปินส์ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์เพื่อทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทมีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดายและปลอดภัยจากทุกที่ ทำให้บริษัทสามารถตัดการพึ่งพาบริษัทที่ปรึกษาภายนอกได้ บริษัทยังได้ฝึกฝนทักษะของทีมนักพัฒนาโปรแกรมของบริษัทเพื่อให้พวกเขาสามารถทำรายงานข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ฝ่ายบริหารมีข้อมูลในการดำเนินงานด้านอาหารสัตว์และปศุสัตว์อย่างครอบคลุมท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่ยากลำบากและการผันผวนของราคาสัตว์ปีก นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติโดยพนักงานสามารถทำงานผ่านระบบคลาวด์ของออราเคิลได้จากที่บ้าน
ผู้ช่วยคนสำคัญ
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งใหม่สำหรับบรรดาเอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดย่อม และยังมีความท้าทายอื่นๆ อาทิ การขาดเงินทุนและต้นทุนการดำเนินงาน แม้ระบบคลาวด์จะเป็นคำตอบที่ดีเยี่ยม แต่ก็ยังคงมีคำถามถึงการใช้งานจริงอีกมากมาย แล้วคำตอบคืออะไร?
• ธุรกิจควรเริ่มต้นด้วยขนาดเล็กและพิจารณาอย่างรอบคอบในเรื่องต่างๆ นั่นคือ แอปพลิเคชั่นหรือระบบฐานข้อมูลแบบใดที่จะให้ประโยชน์มากที่สุดเมื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์หรือเมื่อถูกแทนที่หรือสนับสนุนด้วยระบบคลาวด์ และ ฮาร์ดแวร์พื้นฐานใดบ้างที่สามารถย้ายไปใช้งานในระบบคลาวด์ได้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนมากนัก แทนที่จะทำการย้ายข้อมูล หรือระบบที่ถูกใช้อยู่ทั้งหมดสู่ระบบคลาวด์ ให้ทดลองปรับเปลี่ยนทีละอย่างไปขั้นทีละขั้นตอน รวมถึงการเตรียมพร้อมในการใช้บริการเพื่อเพิ่มมูลค่า ตัวอย่างเช่น การย้ายแอปพลิเคชั่นสู่ระบบคลาวด์จะมอบโอกาสให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ได้ หรือเพิ่มความสามารถด้านดิจิทัลในการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคล การเงิน หรือฝ่ายขายและการตลาด
• การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบคลาวด์สามารถทำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยการใช้ชุดทดลองจากผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น ออราเคิล ซึ่งจะช่วยให้แผนกเทคโนโลยี และผู้ใช้งานภายในบริษัทสามารถฝึกฝนประสบการณ์ และมีความมั่นใจในการทำงานกับระบบคลาวด์
• เมื่อเริ่มใช้ระบบคลาวด์เชิงพาณิชย์ ให้พิจารณาถึงการกำหนดราคาค่าใช้จ่าย เมื่อทดลองใช้บริการจ่ายแบบ Pay-as-You-Go คุณจะสามารถเริ่มต้นใช้งานได้โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดทางการค้า และสามารถเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการชำระแบบรายเดือนพร้อมส่วนลดได้เมื่อคุณกำหนดความจำเป็นของบริการคลาวด์ที่เหมาะสมกับขนาดของบริษัทของคุณได้แล้ว
• การย้ายข้อมูลต่างๆ และฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปสู่ระบบคลาวด์อาจเป็นเรื่องที่ยาก สำหรับเอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดย่อย บริษัทควรพิจารณาร่วมงานกับผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มั่นใจได้ และมีระบบรองรับขั้นสูง ที่ทำให้คุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่าการติดตั้งระบบใช้งานด้วยตนเอง การร่วมงานกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่มีความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน ไม่เพียงช่วยให้เหล่าเอสเอ็มอีสามารถใช้งานระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่านั้น ยังช่วยออกแบบ สร้างกลยุทธ์ด้านดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้มากกว่า
มุ่งไปสู่จุดสูงสุด ด้วยนวัตกรรม
ถึงแม้ว่าการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลเป็นครั้งแรกจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความคึกคักในวงการเทคโนโลยีของภูมิภาคนี้นั้นทำให้มีความเป็นไปได้มากมายในการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาปรับใช้ และมอบโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนเอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดย่อมจะทำให้บริษัทเหล่านี้กลายเป็นกลไกสำคัญในการเติบโตอย่างเข้มแข็งของภูมิภาค และเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเอเชียแปซิฟิกต่อไป
AO5194
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web