- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Thursday, 12 April 2018 12:29
- Hits: 2895
Thailand 4.0 ในยุค Data Center Gen4 เวอร์ทีฟ ย้ำความสำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์ ชี้เป็นฟันเฟืองหลักผลักดันนโยบายภาครัฐ และองค์กรเอกชนสู่ฝั่งฝัน
เวอร์ทีฟ (Vertiv?) ชื่อเดิมคือ อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ชี้ ทุกภาคส่วนของไทย ทั้งองค์กรภาครัฐและองค์กรธุรกิจเอกชน ต้องให้ความสำคัญเทคโนโยลีและการบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งหัวใจหลักของโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 รวมทั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor (EEC)) เพื่อแข่งขันกับนานาประเทศบนเวทีโลกได้
เทรนด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ในยุคนี้ จะทลายกำแพงเดิมๆ โดยจะอยู่เหนือข้อจำกัด และจะเชื่อมโยงอุปกรณ์หลักเข้ากับโครงข่ายรอบข้างได้อย่างชาญฉลาด ตลอดจนสามารถตอบโจทย์สำคัญของธุรกิจ เป็นยุคที่เรียกว่า Data Center Gen4 เป็นต้นแบบของเครือข่ายไอทีสำหรับอนาคต
ดาต้าเซ็นเตอร์ เจนฯ 4 เป็นสถาปัตยกรรมของระบบที่ก้าวล้ำ เป็นโมดุลที่มีสมรรถภาพในการทำงานแบบเรียลไทม์ หลากหลายรูปแบบ ประหยัดคุ้มทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพลังงานความร้อน รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าความหนาแน่นสูง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และยูนิตกระจายกำลังไฟฟ้าขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมีระบบเทคโนโลยีการตรวจสอบและการบริหารระบบขั้นสูง ที่ช่วยจัดสรรโหนดไอทีแบบกระจายที่มีอยู่นับร้อยหรือหลายพันชุดให้ทำงานอย่างผสมผสานกัน ลดอัตราการสะดุดของการทำงาน ลดต้นทุน เพิ่มอัตราการใช้งาน ลดความซับซ้อน และช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรต่างๆ ให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ ตอบโจทย์ขององค์กรและผู้ประกอบการที่มีการพึ่งพาเทคโนโลยีโครงข่ายรอบข้างมากขึ้น
พิเชฏฐ เกตุรวม ผู้จัดการภูมิภาคอินโดจีน เวอร์ทีฟ บริษัทชั้นนำระดับโลกในการออกแบบ ผลิต และให้บริการเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้งานในศูนย์ข้อมูล ของเครือข่ายเทเลคอม ภาคพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่า อินโดจีน เป็นภูมิภาคที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดในปัจจุบัน สืบเนื่องมาจากทุกประเทศมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลักดันการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีการผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ EEC เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันและดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
สำหรับ เวอร์ทีฟในเอเชีย บริษัทมีโครงการสร้างระบบโซลูชั่นส์ศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจรที่สำคัญๆ ทั้งในประเทศไทยและในอินโดจีน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันในภูมิภาค เพื่อยกระดับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเข้าสู่สังคมดิจิทัล (Digital transformation) เช่นกัน การเติบโตด้านดาต้าเซ็นเตอร์อยู่ในอัตราที่สูง ตอบรับกับการเติบโตของปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งจากการใช้งานของบุคคลและการเร่งเดินหน้านวัตกรรมขององค์กร หากองค์กรที่ปรับตัวไม่ทันจะเสียโอกาสทางธุรกิจอย่างคาดไม่ถึง
พิเชฏฐ ที่ดูแลรับผิดชอบตลาดอินโดจีน ซึ่งครอบคลุมประเทศไทย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว อธิบายถึงความได้เปรียบของ เวอร์ทีฟ เพราะความเป็น Global Based Company มีโปรเจคทั่วโลก สามารถดึงความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ได้รับ ทีมงานเวอร์ทีฟ สามารถวางกลยุทธ์ ออกแบบอุปกรณ์ ตลอดจนโมดุลของการบริหารจัดการแบบ tailor made และครบวงจร ปรับให้ตรงกับความต้องการ ตอบโจทย์ข้อจำกัด และการใช้งานของแต่ละโครงการ สำหรับประเทศนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุด
พิเชฏฐ อธิบายเสริมว่า “นอกจากนี้ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ได้ผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างมหาศาลของเครือข่ายโคโลเคชั่น Collocation เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ในเอเชียได้เคลื่อนย้ายข้อมูลและแอพพลิเคชั่นที่สำคัญไปอยู่ในระบบคลาวด์ อีกทั้งยังมีความตื่นตัวอย่างสูงในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ตอบรับกับการเรียกร้องของผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การบริการที่ราบรื่น ไม่ติดขัดและรวดเร็ว ผู้ประกอบการ จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างของดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่อยู่ตรงกลางกับโครงข่ายปลายทาง”
เครือข่ายโคโลเคชั่นและระบบคลาวด์ มีการเติบโตมาก จึงทำให้ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมๆ ต้องทบทวนและปรับระบบ ทั้งในส่วนอุปกรณ์และทรัพยากรที่สามารถคงความสำคัญต่อการดำเนินงานขององค์กรไว้ สำหรับองค์กรที่มีดาต้าเซ็นเตอร์หลายๆ แห่ง ยังคงเดินหน้าเพื่อจัดระบบและรวบรวมทรัพยากรด้านไอทีภายในของตนเข้าด้วยกัน หรืออาจปรับเปลี่ยนไปเก็บไว้ในระบบคลาวด์หรือโคโลเคชั่นแทน ขณะเดียวกันก็ลดขนาดและเพิ่มประโยชน์ของโครงสร้างเพื่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งระบบและอุปกรณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเล็กลง แต่เปี่ยมประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น มีความพร้อมใช้งานสูงรองรับกับลักษณะภารกิจที่สำคัญของข้อมูลที่องค์กรต้องการปกป้อง
จากรายงานของ IDC สถาบันวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐฯ ชี้ว่า ตลาดคลาวด์สาธารณะในเขตเอเชียแปซิฟิกยกเว้นประเทศญี่ปุ่น (APeJ) ปี 2018 จะโตขึ้น 35.66% เทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 15,080 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 470,000 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลักที่จะลงทุนในบริการ Public Cloud มากที่สุด คือภาคธนาคาร ภาคการให้บริการระดับมืออาชีพ ภาคเทเลคอม และภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งคาดการณ์ว่า ภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้จะยังคงลงทุนต่อเนื่องและครองความเป็นผู้นำด้านการใช้บริการ Public Cloud ไปจนถึงปี 2021
สำหรับ เวอร์ทีฟ เป็นบริษัทออกแบบ ผลิต และให้บริการเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้งานในศูนย์ข้อมูล เครือข่ายการสื่อสาร และโครงสร้างพื้นฐานทางพาณิชย์และอุตสาหกรรม รองรับตลาดโทรศัพท์มือถือและคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่กำลังเติบโตอย่างมาก มีผลิตภัณฑ์โซลูชั่นส์ด้านการจัดการพลังงาน ความร้อน และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีแบรนด์เรือธง ได้แก่ Chloride?, Liebert?, NetSure? และ Trellis? ยอดขายประจำปีงบประมาณ 2559 อยู่ที่ 4.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 138,600 ล้านบาท
เวอร์ทีฟ ยังเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านระบบโซลูชั่นส์เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงาน ความร้อน และการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งมีความชำนาญในการสร้างศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจร ดูแลบริหารจัดการการใช้พลังงาน ความร้อน และระบบตรวจสอบสำหรับการบริหารและการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม ในปี 2560 ที่ผ่านมา เวอร์ทีฟ ได้รับรางวัล Leadership จำนวน 2 หมวด จากฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน (Frost & Sullivan) คือ รางวัลในหมวดระบบโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจรและ ระบบบริหารไฟฟ้ากระแสตรง เป็นการตอกย้ำจุดเด่นทางธุรกิจของเวอร์ทีฟ ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีด้วยระบบการบริหารและการจัดการอย่างมีคุณภาพให้กับลูกค้าต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเวอร์ทีฟ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: www.VertivCo.com.
Thailand 4.0 in Data Center Gen4 era Vertiv sees data centers a key driver towards the public and private sectors' goals
Bangkok (April 2018) - Vertiv?, formerly Emerson Network Power, urges the public and private sectors to put emphasis on technology and data center management, viewing it as a key driver of Thailand 4.0 national strategy as well as the Eastern Economic Corridor (EEC).
The fourth generation of data centers shapes the future IT network, offering smart connection with other networks and smart answers to the business world. The Gen 4 Data Center holistically and harmoniously integrates multi-dimensional efficient real-time module, offering cost and energy efficiency with lithium-ion battery and advanced power distribution unit. Equipped with advanced surveillance and system administration, it allows hundreds or thousands of IT nodes to work seamlessly, reducing work disruption, offering network connection anywhere any time and hence enhancing organizational competitiveness.
Pichet Ketruam, Country Manager for the Indochina at Vertiv, noted that Indochina is the region that shows highest growth potential as all countries set clear policies to drive the economy. Thailand in particular launches Thailand 4.0 and EEC strategies to draw high-tech industries, to boost competitiveness and attract foreign investment.
Vertiv is a world-class company with extensive experience in the designing, producing and offering infrastructure for data centers in the telecom, commercial and industrial sectors. In Asia covering Thailand and Indochina, Vertiv offers integrated data center solutions to cope with the business world’s demand for greater competitiveness amid the digital transformation trend. Failing to adjust to the digital age, these organizations can be left out. Data centers thus show high growth potential in line with enormous expansion in data volume.
Pichet said that Vertiv’s competitive advantage lies in its global network as it handles projects across the world. With a pool of experts and experiences, Vertiv can shape strategies and design tailor-made solutions and critical infrastructure with management module, to satisfy specific demands for maximum efficiency.
Pichet explained further: “The digital transformation brings about exorbitant growth in collocations, as in the past few years, a large number of companies in Asia have moved their data to Cloud and constituted huge awareness in network connection in response to consumers’ demand for smooth and fast services.”
Amid significant growth of collocation and Cloud services, data center operators need to review and adjust existing infrastructures and resources to maintain their competitiveness. The organizations with several data centers are proceeding with IT resource integration or using Cloud or Collocation services, while downsizing the systems for faster and more efficient operations. They are served with modern and state-of-the-art equipment which is smaller in size but presents greater efficiency and data safety.
A report by International Data Corporation (IDC), a US-based market research company, forecasts 35.66% growth in Public Cloud services in Asia Pacific ex-Japan from the previous year, with the value to hit US$ 15,080 million or approximately Bt 470,000 million. The banking, professional services, telecom and manufacturing industries will pour the highest investment in Public Cloud services. These industries are expected to maintain the investment momentum and their leadership in Public Cloud services until 2021.
Vertiv is a global leader in designing, building and servicing critical infrastructure that enables vital applications for data centers, communication networks and commercial and industrial facilities. Vertiv supports today’s growing mobile and cloud computing markets with a portfolio of power, thermal and infrastructure management solutions including the Chloride?, Liebert?, NetSure? and Trellis?. In 2016, its annualized revenue was valued at US$4.4 billion or about Bt138.6 billion. Being a leading integrated solutions enabler, Vertiv in 2017 won two prestigious recognitions from Frost & Sullivan: the Asia-Pacific Data Center Integrated Power Infrastructure Growth Excellence Leadership Award and the Asia-Pacific DC Power Systems Competitive Strategy Innovation and Leadership award.
Get more information on Vertiv at www.VertivCo.com.