- Details
- Category: อาชีวะ
- Published: Sunday, 29 May 2022 11:27
- Hits: 2322
สอศ.มอบโล่ศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อชุมชนแบบถาวร ศูนย์ Fix it ถาวรดีเด่น 25 แห่ง
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เป็นประธานมอบนโยบายแนวทางการติดตามประเมินผลการดำเนินงานศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน(Fix it Center) แบบถาวร ของปี พ.ศ.2564 และมอบโล่รางวัลให้แก่สถานศึกษาที่มีผลการประเมินการดำเนินงานกิจกรรมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน(Fix it Center)แบบถาวร ประจำปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา ณ ห้องปทุมรัตน์ วิทยาลัยการอาชีวศึกษา ปทุมธานี
ดร.สุเทพ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) จัดการประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อชุมชนแบบถาวร เพื่อเตรียมความพร้อมในการประเมินศูนย์ฯ ผลการดำเนินงาน ปี 2564 จำนวน 100 ศูนย์ และชี้แจงทำความเข้าใจรายละเอียดเกณฑ์การประเมินตามคู่มือ ซึ่งผลจากการประเมิน 3 ปีที่ผ่านมา ได้รับข้อมูลว่าศูนย์ฯ ได้ดำเนินการเป็นไปอย่างโปร่งใส และยุติธรรม มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนแบบถาวร สอศ. ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการให้บริการประชาชน และได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ช่างอาชีวะ(ช่างพันธุ์ R ช่างอาชีวะซ่อมทั่วไทย) ซึ่งเป็นเป็นอีกมิติหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีการเรียนรู้ และปรับตัวในด้านเทคโนโลยี สามารถเข้าถึงการให้บริการได้สะดวก รวดเร็ว รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินงานทุกขั้นตอนของศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนแบบถาวร สอศ. จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะผู้เรียนให้สอดคล้องกับทิศทางของโลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว จึงต้องปรับกลยุทธ์การจัดการศึกษา และฝึกทักษะ ให้เกิดความชำนาญเชี่ยวชาญในวิชาชีพ อีกทั้ง ยังสร้างจิตสำนึกในการเป็นจิตอาสา ในการให้บริการประชาชน และสังคม ของนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ในการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกอาชีพ และตอบสนองความต้องการกำลังคนของตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
โดยภายในงานได้จัดพิธีมอบโล่รางวัลให้แก่สถานศึกษาที่มีผลการประเมินการดำเนินงานกิจกรรมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนแบบถาวร ประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งมีสถานศึกษาผ่านการประเมิน จำนวน 25 สถานศึกษา แบ่งออกเป็น 5 ภาค ดังนี้
- ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร รางวัลชนะเลิศ(สถานศึกษาต้นแบบ) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (สถานศึกษาพัฒนาดีเด่น) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (สถานศึกษาพัฒนา) ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพนายายอาม รางวัลชมเชย ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรีและ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ
- ภาคเหนือ รางวัลชนะเลิศ(สถานศึกษาต้นแบบ) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (สถาศึกษาพัฒนาดีเด่นได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (สถานศึกษาพัฒนา)ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคน่าน รางวัลชมเชย ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพบ้านตากและวิทยาลัยการอาชีพ นวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รางวัลชนะเลิศ (สถานศึกษาต้นแบบ)ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (สถานศึกษาพัฒนาดีเด่น) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (สถานศึกษาพัฒนา) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ รางวัลชมเชย ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ และวิทยาลัยการอาชีพศรีบุญเรือง
- ภาคกลาง รางวัลชนะเลิศ(สถานศึกษาต้นแบบ) ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพบ้านลาด รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (สถานศึกษาพัฒนาดีเด่น) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (สถานศึกษาพัฒนา) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง รางวัลชมเชย ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรีและ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
- และภาคใต้ รางวัลชนะเลิศ(สถานศึกษาต้นแบบ) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 (สถานศึกษาพัฒนาดีเด่น) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 (สถานศึกษาพัฒนา) ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช รางวัลชมเชย ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช และวิทยาลัยเทคนิคตรัง