- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Sunday, 10 September 2017 10:12
- Hits: 4266
คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ นำเยาวชนและครอบครัวร่วมกิจกรรม'ท่องเที่ยวสุขสันต์ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ'เน้น สุข สนุก เรียนรู้ชัด นำไปปฏิบัติได้จริง
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ นำ 20 หน่วยงาน จัดกิจกรรมส่งเสริมโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ 64 กิจกรรม ในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 223 แห่ง มุ่งเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนสู่ยุค Thailand 4.0 ภายใต้แนวคิดการจัดกิจกรรมในรูปแบบ STEM Education ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ควบคู่ไปกับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 พร้อมนำเยาวชนร่วมกิจกรรม’ท่องเที่ยวสุขสันต์ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ’ ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
น.ส.สำเภาว์ งามเชย ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารสัมพันธ์และเครือข่าย สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ กล่าวว่า ภายใต้การทำงานของคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ในครั้งนี้ สำนักพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ได้จัดกิจกรรมไว้มากมาย และสำหรับกิจกรรม’ท่องเที่ยวสุขสันต์ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ’ ทางเราได้จัดเตรียมหลักสูตรการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้กระบวนการเรียนรู้เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง หลักการทรงงาน และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 14 หลักสูตร สำหรับโรงเรียน สถาบันการศึกษา และเด็กนักเรียนได้เลือกเรียนตามความต้องการ
ในวันเสาร์- อาทิตย์แรกของเดือน เราจะจัดตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นตลาดนัดองค์ความรู้ โดยทำการอบรมหลักสูตรวิชาของแผ่นดิน และหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการจากเกษตรกรเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้จากผู้รู้จริง ได้ปฏิบัติจริง พร้อมกับได้ชม ได้ชิม ได้ช้อป สินค้าเกษตรปลอดภัย
ส่วนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ที่สองและสามของเดือน จะเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ลูกจะได้มาลงมือทำกิจกรรมเรียนรู้การเกษตรง่ายๆ ที่มีไว้ให้เลือกมากมาย เช่น ทำนาโยนกล้า ทำนาดำ เกี่ยวข้าว ทำบ้านดินบ้านฟ่าง ทำน้ำคลอโรฟิลล์จากใบข้าว ทำสบู่ใยบวบ เพาะเห็ดฟาง สร้างสวนผักจากวัสดุเหลือใช้ ทำสมุนไพรไล่แมลง ทำสลัดผักพื้นบ้านเพื่อสุขภาพ ทำเกษตร 1 ตารางเมตร เป็นต้น และนอกจากนี้ ภายใน 1 วัน ทั้งครอบครัวจะได้ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง 1 ฐานการเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติหลักสูตรตามตารางที่แต่ละครอบครัวเลือกมา พร้อมกับได้ชมพิพิธภัณฑ์และภาพยนตร์ 3 มิติ อีกด้วย
ในแต่ละวันจะมีบรรดานักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมที่นี่ มากมาย อย่างเช่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสามโคก จ.ปทุมธานี จำนวนกว่า 1,000 คน มาร่วมกิจกรรมทางการเกษตร โดย ด.ญ.อภิญญา สุพินนา เล่าด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่หนูได้มาพิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ค่ะ มีความสุขและสนุกมาก เพราะมีกิจกรรมให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรกรรม หนูได้ปลูกต้นไม้ ได้เรียนรู้การปลูกพืชผักสวนครัว ได้ดูพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเกษตร คำสอนของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 การใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ และทำให้ได้รู้ว่าเกษตรกร เป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยและคนไทยมาก เพราะเป็นทั้งผู้ผลิตอาหารและเป็นผู้รักษาทรัพยากรธรรมชาติด้วยค่ะ”
สำหรับ น้องๆ เยาวชนจากโรงเรียนสามโคกอีก 3 คน ได้แก่ ด.ญ.ปริยากร แตงแจ้ง ด.ญ.รุ่งนภา เม้าเวียงแก และด.ญ.ธัญวรัตน์ สุขสำราญ ช่วยกันเล่าว่า “แม้จะเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้มาที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ แต่ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็ได้สอนเรื่องเกี่ยวกับการเกษตรมาบ้างค่ะ เรื่องการพึ่งพาตนเอง การปลูกผักสวนครัวไว้ทำเอง หรือการทำนา จึงทำให้พวกหนูมีพื้นฐานกันบ้างค่ะ พอได้มาร่วมกิจกรรมที่พี่ๆ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ จัดให้ไว้ก็ยิ่งสนุกค่ะ เพราะพี่ๆ ไม่ได้มาบรรยายอย่างเดียว แต่ให้พวกหนูได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้ปลูกต้นไม้จริง และได้ต้นไม้กลับบ้านจริงๆ ด้วยนะคะ หลายคนอาจจะไม่มีโอกาสได้ปลูกต้นไม้ หรือเรียนรู้การเกษตรอย่างแท้จริง แต่ถ้ามาที่นี่ก็ทำให้รู้อะไรมากมายเลยค่ะ”
“จากที่ได้มาสัมผัสเรื่องราวและเรียนรู้ในวันนี้ ทำให้พวกเรารู้ว่าการเป็นเกษตรกรไม่ยากอย่างที่คิด อาจเป็นอาชีพที่ดูเหนื่อย เพราะต้องเจอกับแดด ต้องคอยดูต้นไม้ พืชผัก สวน ไร่ นา ต้องรอคอยผลผลิต แต่ในความเป็นจริง ถ้ามุ่งมั่น ตั้งใจอย่างแท้จริง รวมถึงต้องรู้จักทดลอง คิดวิเคราะห์ อดทน และรอคอยได้ และหมั่นหาความรู้ ก็จะเป็นเกษตรกรที่มีความสุขได้นะคะ และที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ นี่ก็เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีมาก ที่ให้ได้มาฝึกอบรมในการเป็นเกษตรกรที่ดี พวกหนูคิดว่า ถ้าเราโตขึ้นและมีโอกาสได้เป็นเกษตรกร ก็จะมาเรียนรู้ที่นี่ เพื่อผลิตสินค้าทางการเกษตรดีๆ ปลอดสารเคมี ให้คนไทยได้บริโภคกัน แล้วจะสืบทอดการทำเกษตรที่เหมาะสมแก่ประเทศไทยค่ะ” น้องๆ ทั้ง 3 คนกล่าวทิ้งท้าย
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ได้น้อมนำคำพ่อสอน โดยจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรักเรา เรื่อง หลักการทรงงาน 23 ข้อ ‘มิวเซียมกษัตริย์เกษตร มาดู มาทำ มาน้อมนำ คำพ่อสอน’ ในกลุ่มพิพิธภัณฑ์ในอาคาร ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร พิพิธภัณฑ์วิถีน้ำ พิพิธภัณฑ์ดินดล พิพิธภัณฑ์เกษตรคือชีวิต พิพิธภัณฑ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง พิพิธภัณฑ์เกษตรตามรอยพ่อ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wisdomking.or.th หรือ โทร.02-529-2212, 02-2529-2213
สำหรับ ข้อมูลกิจกรรมของคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ www.okmd.or.th/MuseAndLearn2U หรือติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/MuseAndLearn2U สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี โทร. 02-105-6530
'รองประจิน'นำคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ พบนายกฯ สนับสนุนนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ มุ่งเตรียมพร้อมเยาวชนมุ่งสู่ยุค Thailand 4.0 20 หน่วยงาน จัดกว่า 60 กิจกรรมในรูปแบบ STEM Education ปูพรมทั่วประเทศ
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ นำคณะผู้บริหาร 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1. สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ 2. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ 3. กรมทรัพยากรน้ำ 4. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 5. สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว 6. อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 7. สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เข้าพบนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อจัดแสดง กิจกรรมส่งเสริมโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โดยคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ มุ่งเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนสู่ยุค Thailand 4.0 และหวังเชิญชวน ครู ผู้ปกครอง นำเยาวชนแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจาก20 หน่วยงาน ที่ร่วมจัด 64 กิจกรรมในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศกว่า 223 แห่ง
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับคุณภาพและมาตรฐานแหล่งเรียนรู้ของไทยให้สามารถบริการด้านองค์ความรู้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกเพศทุกวัยและทุกพื้นที่ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเองและพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน และส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จึงนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการฯ และหนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน โดยใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับเยาวชน
ในปีที่ผ่านมา คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ได้จัดกิจกรรมบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ทั้งโครงการปิดเทอมนี้...สนุกคิด...สนุกเรียนรู้...สู่อนาคต โครงการติดปีกความรู้สู่นอกห้องเรียน โครงการ Museum Thailand โครงการอำนวยความสะดวกในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ (Muss Pass) และโครงการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (Night at the Museum) โดยมีครู นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 474,317คน
ในปีนี้เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมและองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ของคณะกรรมการฯ อย่างต่อเนื่อง สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ สบร. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โดยคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ขึ้น โดยมีแนวคิดในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ STEM Education ที่บูรณาการความรู้ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ (Science) คณิตศาสตร์ (Mathematics) เทคโนโลยี (Technology) และวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ควบคู่ไปกับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนสู่ยุค Thailand 4.0 โดยมีหน่วยงานเข้าร่วม 20 หน่วยงาน จาก 25 หน่วยงาน ภายใต้คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ 64 กิจกรรม ในพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 223 แห่ง
นอกจากนี้ คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ได้จัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์การบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั้งในรูปแบบแผ่นพับและเอกสารรวบรวมกิจกรรมส่งเสริมโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้น และมุ่งหวังให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์อย่างคุ้มค่า เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามความพร้อมและความถนัด และคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งสถานศึกษา ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง ตลอดจนเยาวชนให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างเต็มที่ และจะเป็นการสร้างความร่วมมือเชิงรุกของหน่วยงานพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาแนวทางและต้นแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของเด็กและเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์บางส่วนที่ทางคณะกรรมการฯ ได้นำมาจัดแสดง ณ ทำเนียบรัฐบาล อาทิ
1) อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระทรวงศึกษาธิการ โดย ว่าที่ ร.ท. ชำนาญ เรียนเลิศอนันต์ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอนิทรรศการ รัชกาลที่ 4 กับดาราศาสตร์ เพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระอัจฉริยภาพพระอัจฉริยภาพด้านดาราศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
2) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ นำเสนอกิจกรรมจับตาฉากสุดท้ายของยานแคสสินี : วีรบุรุษแห่งดาวเสาร์ กิจกรรมสร้างความตื่นตัวทางดาราศาสตร์ในสังคมไทย ผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับ ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนชัดเจน มีความโดดเด่นที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล
3) พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ กองทัพอากาศ โดย นาวาอากาศเอก ไพฑูรย์ ไล้เลิศ ผู้อำนวยการกองประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร นำเสนอกิจกรรมการสาธิตเครื่องบินบังคับวิทยุ ที่เน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการบินเบื้องต้น และสร้างแรงบันดาลใจด้านการบินให้กับเยาวชน ด้วยการให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ทางกลศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การบิน
4) กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นิวัติ มณีขัติย์ รองอธิการบดีกรมทรัพยากรธรณี นำเสนอกิจกรรมบิงโก จีโอพาร์ค เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยเน้นให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาผ่านเกมบิงโก
5) กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย สมนึก สุขช่วย รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นำเสนอกิจกรรมชุดความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เน้นการปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในความสำคัญ และรู้จักการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
6) สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนางจารุรัฐ จงพุฒิศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ ในรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้พระอัจฉริยภาพด้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผ่านการลงมือปฏิบัติเกี่ยวกับนวัตกรรมเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง
7) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี โดย ดร.อธิปัตย์ บำรุง กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบูรณการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ นำเสนอกิจกรรม BOT CAMP กิจกรรมการเตรียมความพร้อมและสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนสู่โลกอนาคตแห่งการเรียนรู้ และการก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ผ่านเส้นทางของพัฒนาการความรู้ด้าน Robotics และ Automation ซึ่งจะสามารถต่อยอดและพัฒนาไปสู่การเป็นบุคลากรที่มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมที่สร้างมูลค่า ทางเศรษฐกิจ
สำหรับ ข้อมูลกิจกรรมสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ www.okmd.or.th/MuseAndLearn2U หรือติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/MuseAndLearn2U
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี โทร. 02-105-6530