WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1Dtk

'เล่านิทาน อ่านชีวิต'กับโครงการ ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ ๑๒ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช

      4 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้(ทีเคปาร์ค), นิตยสาร Mother&Care , มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือกันร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทานครั้งที่ 12  ด้วยคอนเซ็ปต์’เล่านิทาน อ่านชีวิต’ ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 กรุงเทพฯ

      โครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทานจัดขึ้นเป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความรักความผูกพันภายในครอบครัวจากการเล่านิทานอ่านหนังสือร่วมกัน นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านการเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติสดใสสมวัย อันเป็นการต่อยอดจากการที่พ่อแม่เล่านิทานอ่านหนังสือให้ลูกฟังที่บ้าน เด็กๆและคุณครูได้ร่วมกันเล่านิทานอ่านหนังสือที่โรงเรียน แล้วต่อยอดเป็นกระบวนการสร้างสังคมรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

     ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ที่ปรึกษาสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ กล่าวถึงภาพรวมและความสำเร็จของโครงการฯ ตลอด 11 ปี ที่ผ่านมาว่า โครงการนี้ก้าวสู่ปีที่ 12 แล้ว เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน สิ่งที่ทำให้โครงการสำเร็จคือ ทำให้การประกวดไม่ดูเหมือนการประกวด เด็กที่เข้ามาในโครงการจะเห็นได้ว่าเป็นเด็กที่มีคุณภาพมีความสามารถ เด็กรุ่นแรกๆที่เข้ามา ได้เป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นต่อๆไป ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่า ในเมื่อพี่ทำได้ ทำไมฉันจะทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นรุ่นน้องก็จะตามมาเข้าร่วมโครงการ และอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 12 เราได้เห็นเด็กตั้งแต่รุ่นแรกๆ ซึ่งตอนนี้เติบโตและบางคนก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ต้องบอกว่าโครงการนี้ไม่เคยทิ้งเด็ก เราติดตามพัฒนาการเขาตลอด เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าเขามีความกล้าแสดงออก มีทักษะการพูด มีทักษะที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจเขามากยิ่งขึ้น ตรงนี้คิดว่าเป็นทักษะที่สำคัญและทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต

       "สิ่งที่คาดหวังในการเข้าร่วมประกวดของเด็กๆในครั้งนี้ หวังว่านิทานจะเสริมในเรื่องทักษะชีวิตของเด็กๆมากยิ่งขึ้น อยากให้เด็กๆได้เลือกนิทานที่จะนำมาเล่าเอง วิธีการอ่านนิทานไม่ใช่อ่านแค่ประโยคเท่านั้น เด็กๆจะต้องเข้าใจเนื้อหาเข้าใจเนื้อความของแต่ละประโยคด้วย ซึ่งจะทำให้เด็กๆเรียนรู้ชีวิตของตัวเองและเรียนรู้ในส่วนของทักษะชีวิต ทักษะในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นทักษะเบื้องต้นในการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต"

      ด้าน คุณสุธาทิพ ธัชยพงษ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก กล่าวถึงภารกิจสำคัญของการสนับสนุนการเปิดโลกแห่งการอ่าน และสิ่งที่เด็กได้รับว่า

      "รู้สึกดีใจที่ได้เห็นผลพวงการที่พ่อแม่อ่านหนังสือกับลูก เด็กคุ้นกับหนังสือ จนสามารถต่อยอดมาสู่โครงการนี้ เด็กๆสามารถเล่านิทานบนเวทีให้ผู้ใหญ่ฟังได้ เด็กที่เข้าร่วมโครงการระยะหลังมีจำนวนไม่มากเหมือน 5-6 ปีแรก เพราะเราเน้นคุณภาพและความเข้าใจถึงเป้าหมายของโครงการ เราพบว่าเด็กมีคุณภาพมากขึ้น มีความตั้งใจ ครูและผู้ปกครองเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการมากขึ้น ทำให้ไม่มีการฝึกจนเด็กขาดความเป็นธรรมชาติ ไม่จำกัดท่าทางหรือชี้นำเด็ก แต่ปล่อยให้เด็กเล่าอย่างเป็นตัวของตัวเอง ทำให้เด็กๆที่เข้าร่วมโครงการในปีหลังๆเล่านิทานได้อย่างมีความน่ารักสดใสดูเป็นธรรมชาติและมีความสุขในการเล่ามากขึ้น อยากฝากถึงเด็กๆที่จะเข้าร่วมโครงการในปีนี้ อยากเห็นเด็กๆใช้ความเป็นธรรมชาติของตัวเอง ใช้หนังสือที่ตัวเองชื่นชอบนำมาเล่า และที่สำคัญเด็กๆควรหมั่นฝึกฝนอ่านหนังสือให้มากๆ เพราะยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเล่านิทานได้เก่งเท่านั้นค่ะ"

     ปิดท้ายด้วย คุณสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน บรรณาธิการบริหารนิตยสาร mother&care กล่าวถึงแนวคิดในการจัดโครงการปีนี้ว่า

      แนวคิดในปีนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า'เล่านิทาน อ่านชีวิต' ความหมายของ 'เล่านิทาน' แน่นอนเด็กมาโครงการนี้ต้องมาเล่านิทานค่ะ ส่วน “อ่านชีวิต” มันมีมิติหลายด้านกับคำว่าอ่านชีวิต เด็กที่ลุกขึ้นมาเป็นหนูน้อยนักเล่านิทาน เหมือนกับว่าเราสามารถจะอ่านชีวิตของหนูน้อยคนนี้ได้ว่าเขามีพื้นฐานมาอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้เขารัก การอ่าน เล่านิทานให้เขาฟังจนวันหนึ่งเขาสามารถลุกขึ้นมาเล่าเองได้ เราจะเห็นทักษะชีวิตของเขาด้วย ทั้งการกล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเอง มีท่าทาง มีความเป็นธรรมชาติ นั่นคือทักษะที่ส่งเสริมเขา หลังจากนี้ไปพอเป็นหนูน้อยนักเล่านิทานแล้ว เขาก็สามารถที่จะไปเล่าชีวิตของเขาส่งต่อให้กับกลุ่มคนรุ่นต่อๆไปได้ด้วย

      "โครงการนี้ยืนระยะมา 12 ปีแล้ว มีการเติบโตในเชิงคุณภาพเป็นลำดับ ในแต่ละปีเราจะมีการทำความเข้าใจกับพ่อแม่ผู้ปกครอง เราจะไม่เน้นปริมาณเด็กที่เข้าร่วมโครงการแต่เราจะเน้นคุณภาพ จะมีกระบวนการของการ คัดสรรที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาค เพื่อจะให้กระจายไปตามภูมิภาคให้ได้มากที่สุด สุดท้ายปลายทางเราเน้นคุณภาพค่ะ ในปีนี้เราก็จะสัญจรไปทั่วทุกภูมิภาคเหมือนเดิม"

     โครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ ๑๒ นี้ เป็นการประกวดเล่านิทานประเภทเดี่ยวแบ่งเป็น 2 ระดับอายุ คือระดับอายุ 4-6 ปี และระดับอายุ 6-9 ปี โดยจัดการประกวดรอบคัดเลือกในภาคกลางคือ กรุงเทพฯ และระดับภูมิภาคคือ ภาคเหนือ (เชียงใหม่), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อุบลราชธานี) และภาคใต้ (หาดใหญ่)  ส่วนรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ใครใกล้ที่ไหนสะดวกที่ไหนก็ไปเจอกันได้ที่นั่นนะคะ

    ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนเด็กๆที่รักการอ่านทั่วประเทศ มาร่วมประกวดแสดงความสามารถผ่านการเล่านิทานที่สดใสสมวัยเพื่อเฟ้นหายอดหนูน้อยนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ ‘ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา และเกียรติบัตร’

เปิดรับสมัครรอบคัดเลือกทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2560

ช่องทางการสมัคร

- กรอกใบสมัคร:ส่งแฟกซ์มาที่  02 241 3855   หรืออีเมล : [email protected]

  หรือทางไปรษณีย์ : นิตยสาร mother&care อาคาร GM Group เลขที่ 914 ถ.พระราม 5

  แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. 10300

- ดาวน์โหลดใบสมัครหรือสมัครออนไลน์ที่ www.motherandcare.in.th หรือ www.tkpark.or.th

- สมัครผ่านโรงเรียนหรือหน่วยงานที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสาร

- www.motherandcare.in.th หรือ facebook/motherandcare

- www.tkpark.or.th หรือ facebook/tkparkclub

- หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02 241 8000 ต่อ 212, 214, 215

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!