- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Tuesday, 01 November 2022 16:22
- Hits: 1323
Sustainable Fashion จะครองใจนักช้อปได้อย่างไร? เมื่อ Fast Fashion ยังเป็นที่นิยมแม้จะส่งผลร้ายต่อโลก
เชื่อว่าหลายคนเลือกที่จะ “ช้อปปิ้ง” เพื่อเยียวยาจิตใจ ระบายความเครียด ทำให้รู้สึกถึงการปลดปล่อย บวกกับยุคดิจิทัลที่ทุกคนมีเทคโนโลยีอยู่ในมือ ก็ยิ่งทำให้การช้อปปิ้งง่ายดายแค่ปลายนิ้วก็สามารถจับจ่ายใช้สอยแบบออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ส่งผลให้ไทยติดอันดับ 1 เป็นประเทศที่มีการช้อปปิ้งออนไลน์มากที่สุดในโลก โดยไตรมาส 1/2022 มีอัตราการช้อปอยู่ที่ 66.5% และไอเท็มเด็ดที่ถูก CF มากที่สุด คือสินค้าแฟชั่นอย่างเครื่องแต่งกาย เติบโตถึง 206% (อ้างอิง : We Are Social และ Hootsuite)
การใช้เงินไปกับการซื้อเสื้อผ้ากลายเป็นงานอดิเรกที่บรรเทาความตึงเครียดได้ดี ขณะเดียวกัน การบริโภคเสื้อผ้าแฟชั่นตามกระแส มาเร็วไปเร็วอย่าง “Fast Fashion” เป็นการเพิ่มขยะและทำลายสิ่งแวดล้อมโลก แถมกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน ทำไมยังนิยมใน Fast Fashion ทั้งๆ ที่ส่งผลร้ายต่อโลก องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมอย่าง Greenpeace บอกว่าด้วยราคาที่ซื้อง่ายสบายกระเป๋า บวกกับพฤติกรรมของชาวโซเชียลในปัจจุบัน เน้นการซื้อเสื้อผ้าเพื่อถ่ายรูปลง Social Media ใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็ทิ้ง และหลายแบรนด์มีกลยุทธ์ Over Demand ชักจูงให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าใหม่ จนทำให้เกิดสภาวะ การบริโภคเกินความจำเป็น …แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร โดยที่ยังสนุกกับการแต่งตัวได้เหมือนเดิม…
Sustainable Fashion… ทางเลือกของนักช้อป
“Sustainable Fashion - แฟชั่นที่ยั่งยืน” เป็นกระแสที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการแฟชั่น เมื่อช่วงปี 2019 เพราะผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน และภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรง จึงมีการรณรงค์ให้เลิกใช้เสื้อผ้า Fast Fashion โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งทอและวัสดุของเครื่องแต่งกายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นด้วย
ด้านนักช้อป ที่อยากเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาลองสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถเริ่มได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้
● ซื้อเสื้อผ้าคุณภาพสูง ทนทาน เพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัตถุดิบและเส้นใยธรรมชาติ หรือ วัสดุจากการรีไซเคิล และต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
● ดูแลรักษาอย่างดีใช้ได้นานขึ้น การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีก็ช่วยโลกได้ เช่น ผ้าบางประเภทควรซักด้วยมือ ผ้าบางประเภทควรซักด้วยน้ำเย็น หรือการควบคุมระดับความร้อนในการรีด รวมถึงการเก็บเสื้อผ้าให้ถูกวิธี
● การใช้ซ้ำ มิกซ์แอนด์แมทซ์กับเสื้อผ้าที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
● ซื้อเสื้อผ้ามือสองลดการซื้อใหม่ หากจำเป็นต้องใช้ครั้งเดียว แต่ควรเช็คสภาพและทำความสะอาดอย่างดีเพื่อสุขอนามัยที่ดี
แบรนด์แฟชั่นระดับโลก กับแนวคิด “Sustainability”
แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ปรับโมเดลธุรกิจ ประกาศจุดยืนด้าน Sustainable Fashion เช่น การใช้คาร์บอนเทียมในกระบวนการผลิต Zero Waste หรือ Upcycled ใช้วัสดุเหลือใช้มาแปรรูปให้เกิดประโยชน์โดยดีไซน์เป็นสินค้าชิ้นใหม่ และ Movement สำคัญไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือการที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง Chanel, Prada, Miu Miu, Gucci, Bottega Veneta, Versace, Alexander McQueen, Balenciaga, Burberry, Stella McCartney หยุดใช้ขนเฟอร์หรือหนังสัตว์และหันไปใช้ขนและหนังเทียมแทน รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้ามากมายต่างผลิตแฟชั่นรักษ์โลก เช่น Stella McCartney, Chloe, Marine serre, Mulberry, A|X Armani Exchange, Zara, Plant Faced Clothing, Ninety Percent เป็นต้น ที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าแบรนด์ไม่ได้เมินเฉยต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้การลดปัญหา Fast Fashion จำเป็นต้องอาศัยพลังจากทุกฝ่าย ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคในการร่วมกันบรรเทาสิ่งแวดล้อมโลก
อนาคตวงการธุรกิจแฟชั่น และดีไซน์เนอร์ไทย
ตลาดแฟชั่นไทยกำลังไปได้สวย จากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าอย่าง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในกลุ่มอาเซียน ทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ไตรมาส 1/2022 ทำเงินมหาศาล โดยมี มูลค่าการส่งออก 1,784.2 ล้านดอลลาร์ (ขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.7% เทียบกับไตรมาส 1/2021) มูลค่าการนำเข้า 1,373.9 ล้านดอลลาร์ (อ้างอิง : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) ส่งผลให้เกิดดุลการค้าเกินดุล คิดเป็นมูลค่า 410.3 ล้านดอลลาร์ นับเป็นโอกาสทองของธุรกิจแฟชั่น และดีไซน์เนอร์ไทย ในการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมดังกล่าว
รู้อย่างนี้แล้ว! สาวกแฟชั่นทั้งหลายที่มีความฝันอยากทำงานในสายอาชีพนี้ ต้องรีบสร้างทักษะและประสบการณ์ สำหรับการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจแฟชั่น และดีไซน์เนอร์ที่โดดเด่นเหนือใคร เพราะนอกจากความชื่นชอบในด้านแฟชั่น ทักษะการจัดการธุรกิจและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ถือเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ ซึ่งที่ DPU มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ วิชาเอกการออกแบบและธุรกิจแฟชั่น เป็นหลักสูตรที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่การออกแบบแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นทักษะในด้านธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก อีกทั้งยังผลักดันในด้าน Sustainability ส่งเสริมแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังเข้าร่วมโครงการ Creative Young Designer อนุรักษ์ผ้าไทย ยกระดับผ้าขาวม้าสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนอีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสายอาชีพธุรกิจแฟชั่นสามารถสมัครเรียนได้ที่ https://bit.ly/3q1PZ84 รายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3KGY6jQ
A11046