- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Tuesday, 24 August 2021 22:59
- Hits: 1957
เดินหน้า ‘มข.เพื่อสังคม’ อย่างต่อเนื่อง
ผุด ‘มาตรการ-นวัตกรรม-งานวิจัย’ ร่วมสู้ภัยโควิด-19
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ไปทั่วโลก ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมถึง สุขภาพ และการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากมายบนโลกใบนี้ จนถึงวันนี้ มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 200 ล้านคน และเสียชีวิตประมาณ 5 ล้านราย เฉพาะประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 1 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 1 หมื่นรายแล้ว โดย “เดลต้า” ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาดและคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก
มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ในฐานะที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยด้านการวิจัย มีคณะแพทยศาสตร์และที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุขอีกหลายคณะ รวมถึงโรงเรียนแพทย์ มีนโยบายที่จะช่วยเหลือนักศึกษา บุคลากร และสังคมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. กล่าวว่า กว่า 2 ปีของการแพร่ระบาดของโควิด-19 มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้พัฒนานวัตกรรมหลากหลายเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ คณะแพทยศาสตร์ ทีมสำนักหอสมุด KKU maker สำนักงานเทคโนโลยีดิจิทัล คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์สถาบันนาโนฯ โรงงานต้นแบบแบตเตอรี่ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นและเครือข่าย ที่ได้ร่วมกันประดิษฐ์และจัดทำ “นวัตกรรมสู่สังคม” เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลศรีนครินทร์และโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขที่ขาดแคลน จำนวนกว่า 28 รายการ อาทิ ระบบ Thermo Scan เพื่อตรวจคัดกรองอุณหภูมิผู้ใช้บริการ, ระบบ VDO สื่อสารสองทาง สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ติดเชื้อ COVID-19, หุ่นยนต์สื่อสารสองทิศทางและระบบลำเลียงอาหารและยา, SWAP box จากแผ่นอะคริลิกป้องกันการไอหรือจามขณะเก็บสิ่งส่งตรวจ, Aerosol box จากแผ่นอะคริลิก ป้องกันการไอหรือจามขณะสอดท่อหายใจ, Wireless/extended stethoscope ลดการสัมผัสผู้ป่วยด้วยหูฟัง
รวมทั้ง ห้องตรวจไม่ต้องใช้หมอ (คนไข้ใน), ตู้อบฆ่าเชื้อด้วย UVC สำหรับ reuse ชุด PPE เพื่อส่งให้บุคลากรทางการแพทย์, ตู้อบฆ่าเชื้อ ด้วย ozone สำหรับ reuse หน้ากาก N95, ตู้อบฆ่าเชื้อ ด้วย ozone สำหรับ reuse ชุด PPE เพื่อส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์, การควบคุมการให้น้ำเกลือแบบรีโมทคอนโทรล (PAPR ประดิษฐ์) ให้กับโรงพยาบาลศรีนครินทร์, Negative Pressure จัดทำโดย ทีมนักวิจัยจากคณะวิศวกรรมฯ, PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) และแบตเตอรี่สำรอง, ถังขยะไร้สัมผัสสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัย เพื่อใช้ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น, หุ่นยนต์ลำเลียงของในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ covid, Portable HEPA (High Efficiency Particulate Air) ให้กับโรงพยาบาลศรีนครินทร์, PPE (Personal Protective Equipment) ให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์, Positve Pressure Mask ให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ Mobile UVC สำหรับฆ่าเชื้อ และ TOT Positve Pressure สำหรับกั้นเก็บตัวอย่างเชื้อ
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อมีเพิ่มมากขึ้น เกิดภาวะเตียงเต็มในโรงพยาบาลต่างๆ มข.จึงได้จัดทำระบบการจัดการผู้ป่วยกักตัวอยู่ที่บ้าน “Home Isolation มข.” เพื่อปูทางให้โรงพยาบาลทั่วประเทศนำไปใช้ดูแลผู้ป่วยอาการไม่มากซึ่งกักตัวที่บ้าน โดยสามารถดูแลตัวเองและติดต่อกับหมอที่โรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ระบบ “Home Isolation Management System” เป็นไปตามมาตรฐาน Telemedicine ที่แพทยสภาได้ประกาศไว้ มีองค์ประกอบ 2 ประการ คือ 1.ผู้ใช้งาน หรือผู้ป่วยจะต้องยืนยันตัวตน และ 2.ต้องมีบันทึกข้อมูลที่ผู้ป่วยบันทึกเข้ามาในระบบและการสื่อสารระหว่างทำการรักษา ไว้ในระบบ database เพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด ใช้ระบบ Home Isolation มข. เพื่อเตรียมพร้อมรับคนไข้ที่อาจมาจากพื้นที่สีแดงหรือสีแดงเข้ม เข้าไปสู่ระบบการดูแลแบบแยกตัวที่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียง ที่นำระบบดังกล่าวไปใช้ เช่น รพ.สุทธาเวช จ.มหาสารคาม รพ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ รพสต.จ.ร้อยเอ็ด รพ.หลังสวน จ.ชุมพร และรพ.ที่จ.ระนอง กำลังจะเริ่มใช้งาน
อธิการบดี มข. กล่าวด้วยว่า สำหรับนวัตกรรมสำหรับการดูแลผู้ป่วยอย่าง “ระบบการดูแลและติดตามอาการผู้ป่วยโควิด-19 แบบแยกตัว” จัดทำขึ้นเพื่อใช้บริหารจัดการกลุ่มผู้ป่วยแบบแยกตัว ทั้งแบบ Home Isolation และการดูแลตนเองในระบบชุมชน (Community Isolation) ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณสุขได้รวดเร็วขึ้น และติดตามดูแลอาการผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด สะดวกต่อตัวผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ โดยจุดเด่นของระบบ คือ 1.ผู้ป่วยไม่ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ในโทรศัพท์ ยกเว้นกรณีไม่มีแอพพลิชั่นไลน์ 2.บัญชีผู้ใช้ไลน์หนึ่งๆ ใช้กับผู้ป่วยได้หลายคน 3.บันทึกข้อมูลระบบได้รวดเร็ว โดยให้กรอกเฉพาะข้อมูลสัญญาณชีพ และอาการ เนื่องจากระบบเชื่อมบัญชีไลน์กับฐานข้อมูลผู้ป่วยแล้ว และ 4.เป็นไปตามมาตรฐานการแพทย์ทางไกล (Tele-medicine) สากล โดยเริ่มใช้งานแล้วที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งช่วยให้ระบบการดูแลผู้ป่วยแบบแยกตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสีย สร้างความมั่นใจ และอุ่นใจให้กับผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวที่บ้าน โดย มข.พัฒนาระบบนี้ตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่ดี เพื่อนำไปปฏิบัติได้จริงในภาคสนามและตั้งใจเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลต่างๆ ที่กำลังมองหาระบบไอทีในการช่วยเหลือประชาชน ได้ใช้ระบบนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และพร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา ทั้งด้านไอที และการบริหารจัดการผู้ป่วย เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า มาตรการการช่วยเหลือ นวัตกรรมและงานวิจัยต่างๆ ที่ มข.ได้พัฒนาขึ้น รวมไปถึง ระบบ Home Isolation มข. เป็นไปตามนโยบายด้าน CSV ที่มุ่งเน้นการบริการวิชาการสู่สังคม การอุทิศเพื่อชุมชนและสังคม เป็นการยกระดับจิตสำนึกในการรับใช้สังคม โดยใช้องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการรับใช้สังคมอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยินดีให้โรงพยาบาลต่างๆ นำไปใช้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดที่กล่าวมา มข.ได้ดำเนินการมานับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 นับเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของสถาบันอุดมศึกษา ในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำ เป็นเสาหลัก และเป็นที่พึ่งพิงให้กับสังคม ในยามที่ประเทศชาติบ้านเมืองเกิดวิกฤต!!
A8786
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ