WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

4381 MU รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน.มหิดล รุกเพิ่มพื้นที่สีเขียว-สร้างพลังงานสะอาด

เชื่อมั่นบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ได้ภายในปี 2030

          นับวันโลกมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งส่งผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนองค์การสหประชาขาติ (WHO) ถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่กำหนดให้เป็น 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งการคืนความเขียวให้กับโลก คือ กุญแจสำคัญของการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และจะทำให้โลกสามารถบรรลุ “Net Zero Emission” หรือ เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต่อไป

          มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้นำภาคีเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาไทยสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก ได้ตั้งเป้าหมาย Net Zero Emission ไว้ว่าจะบรรลุให้ได้ภายในปี 2030 โดย รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการขับเคลื่อนในเชิงรุกริเริ่มโครงการปลูกต้นไม้เพื่อดูดกลับก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องและจริงจังจนสามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกในเบื้องต้นได้ประมาณร้อยละ 26

          จากนั้นมหาวิทยาลัยมหิดลได้มีการขยายผลเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ทำสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) นำร่อง บริเวณตรงข้ามแปลงผักปลอดสารพิษ และอาคารสิริวิทยา ซึ่งการปลูกต้นไม้ในแนวตั้งจะทำให้ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นจากการปลูกต้นไม้ในแนวราบ

          นอกจากนั้น บริเวณสนามหญ้าหน้าหอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จะได้รับการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็น Eco Park ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกของทุกปี เพื่อสร้างเป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น

          ซึ่งจุดเด่นของ Eco Park นี้จะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืนจากต้นไม้ที่ปลูกขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่จากการขุดล้อมต้นไม้ใหญ่มาปลูก โดยคาดว่าทั้ง Vertical Garden และ Eco Park จะสามารถช่วยดูดกลับก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณร้อยละ 33

          และในอนาคตจะเสริมด้วยการผลิตพลังงานสะอาดจากแสวอาทิตย์ โดยจะริเริ่มโครงการหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell Rooftop) ให้กับทุกส่วนงานในพื้นที่ศาลายา  และจะให้มีการวางแผงเซลล์พล้งงานแสงอาทิตย์บนผิวน้ำ (Solar Cell Floating) บริเวณลานเป็ด และแหล่งนันทนาการทางน้ำ โดยจะให้ภาคเอกชนได้เข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลจ่ายค่าไฟได้ถูกลง และคาดว่าจะทำให้สามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นได้อีกถึงร้อยละ 65

          “หากมหาวิทยาลัยมหิดลสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ได้ภายในปี 2030 นอกจากจะสามาถเป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ แล้ว ยังเป็นการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกให้แก่โลกของเราต่อไปอีกด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวทิ้งท้าย

 

ติดตามข่าวที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

 

A4381

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!