- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Sunday, 22 December 2019 17:43
- Hits: 836
การศึกษาขั้นพื้นฐานโดยพื้นฐาน
ช่วง 16-18 ธันวาคม มีโอกาสร่วมไปทำข่าวการลงพื้นที่ในจังหวัดกระบี่เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษาของสภาการศึกษานำโดยท่านเลขาธิการฯ ดร.สุภัทร จำปาทอง โดยมี ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะไปด้วย
ถึงกระบี่ทั้งคณะก็เดินทางไปที่โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ท่านสมศักดิ์ กิตติธรกุลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่และยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย อีกทั้ง ยังเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปความเป็นมาของโรงเรียน
ท่านนายก อบจ.กระบี่เล่าว่า หลังมีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่กระจายอำนาจจัดการการศึกษาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.กระบี่ก็ตั้งตารอว่าจะมีการถ่ายโอนโรงเรียนมาเข้าสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเมื่อไหร่ เพราะท่านหมายมั่นปั้นมือว่าจะพัฒนาการสถานศึกษาในจังหวัดกระบี่ให้ดีมีมาตรฐาน เพื่อให้ลูกหลานเมืองกระบี่ได้เล่าเรียน
ท่านถึงกับตั้งปณิธานและเป็นนโยบายเลยว่า’เด็กกระบี่ต้องได้เรียนในจังหวัดกระบี่ ได้ทำงานในเมืองกระบี่ เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนากระบี่ให้เป็นเมืองน่าอยู่’
ขอเว้นจังหวะนิด ตอนที่ผมฟังท่านสมศักดิ์พูดผมสะดุดหูขึ้นมา แต่ไม่กล้าเรียนถาม เลยเก็บมาถาม ดร.ชัยพฤกษ์ซึ่งเป็นคนกระบี่หลังการกล่าวต้อนรับว่า ทำไมเด็กกระบี่ต้องไปเรียนที่อื่น ท่านบอกว่าสมัยก่อนกระบี่ไม่มีโรงเรียนดีๆเด็กๆ จะต้องไปเรียนที่อื่น หลายคนไปเรียนที่หาดใหญ่หรือไม่ก็ไปเรียนที่ปีนัง
กลับมาเรื่องความเป็นมาของ รร.อบจ.กระบี่ต่อ ท่านสมศักดิ์ เล่าว่า หลังจากรออยู่นาน ท่านกับทีมงาน อบจ.ก็ตัดสินใจก่อตั้งโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ขึ้นมา โดยในปี 2554 ท่านก็เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ด้านการบริหาร ด้านการการปกครอง มาร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ขึ้นและประกาศจัดตั้งโรงเรียนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554
เปิดมา 7-8 ปี นักเรียน อบจ.กระบี่ มีลลงานเป็นเกียรติประวัติส่วนตนและของโรงเรียนทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติมากมาย แต่ที่ผมสนใจคือการวางรากฐานการศึกษาให้กับเด็กกระบี่ของท่านนายกฯสมศักดิ์
นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ท่านนายกฯอบจ.กระบี่เที่ยวคว้าตัวคนเก่งด้านการบริหารการศึกษามาช่วยกันผสานความร่วมมือกับหลากหลายสถาบัน ทั้งมหิดล ราชภัฏ วลัยลงกรณ์ สงขลานครินทร์และอีกหลายสถาบันที่ท่านนายกฯบอกมาแต่ผมจำไม่ได้
แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายปีการศึกษาละ 12,000 บาท แต่เมื่อหักกลบลบกันแล้วก็คุ้มค่า เพราะว่าเด็ก อบจ.กระบี่มีโอกาสเรียนเสริมเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเสียค่าเรียนพิเศษเหมือนเด็กกรุงเทพที่ต้องจ่ายกันปีละเป็นหมื่น เพราะท่านนายกฯหาทางออกด้วยการตั้งมูลนิธิที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้ปกครองขึ้นมารองรับ ทำให้เด็ก อบจ.กระบี่ได้เดินทางไปเข้าแล็บวิทยาศาสตร์และภาษาถึงสิงคโปร์โดยไม่ต้องควักค่าใช้จ่าย
ผมเก็บประเด็นของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่มาเขียนเพื่อจะบอกว่า ในกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยนั้น หากผู้รับผิดชอบเข้าใจในบริบทของตนเอง ดูแลเอาใจใส่ด้วยความตั้งใจ โอกาสที่เด็กไทยจะได้รับการพัฒนาก็จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะการโรงเรียนที่อยู่ในการบริหารจัดการขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากกว่าในระบบราชการ
ผมไม่ได้เรียนถาม ดร.สุภัทร และ ดร.ชัยพฤกษ์ ว่าในการเยี่ยมชมและรับฟังข้อมูลการบริหารจัดการการศึกษาของ อบจ.กระบี่ครั้งนี้ท่านได้อะไรกลับไปบ้าง แต่มั่นใจว่า นักการศึกษาระดับสุดยอดทั้ง 2 ท่านนี้จะต้องเก็บสิ่งดีๆ กับไปได้แน่
******************************************
กด L Ike - แบ่งปัน เพจเวลา Corehoon-Powerเพื่อติดตามเคล็ดลับข่าวสารเทรนด์และ บทวิเคราะห์ดีๆอัพเดตทุกวันคัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
คลิกบริจาคเว็บสนับสนุน