- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Friday, 06 September 2019 18:48
- Hits: 4548
ศธ.จับมือ กสศ. เปิดเครือข่ายตลาดวาดฝัน ชวนทุกภาคส่วนร่วมเติมเต็มช่วย นร.ยากจนพิเศษได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่า
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดโครงการ “ตลาดวาดฝัน ส่งต่อรอยยิ้ม สร้างโอกาส สร้างอาชีพ นักเรียนทุนเสมอภาค” เชิญชวนประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนร่วมสมทบเงินบริจาค ต่อยอดความช่วยเหลือที่ยั่งยืนกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยมี นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการ กพฐ. ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธาน กสศ. นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. ผู้อำนวยการ ครู นักเรียน และประชาชนที่สนใจเข้าร่วม พร้อมด้วยโรงเรียนต้นแบบกิจกรรมทักษะอาชีพที่นำผลิตภัณฑ์ฝีมือนักเรียนทุนเสมอภาคจากทั่วประเทศร่วมออกร้านตลาดวาดฝัน ณ โรงเรียนชุมชนวัดเสด็จ จังหวัดปทุมธานี
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว. ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการพร้อมเดินหน้านโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาโดยใช้กลไกกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. มาบูรณาการ การดำเนินงานร่วมกับหน่วยจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดการศึกษาระดับอนุบาล อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา รวมไปถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีตัวชี้วัดสำคัญที่จะร่วมกันก้าวไปให้ถึง คือ นักเรียนยากจนและยากจนพิเศษในทุกโรงเรียนจะต้องไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ได้ ซึ่งความสำเร็จนี้จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ที่ทั่วโลกได้ให้พันธสัญญาร่วมกันว่าภายในปี 2030 จะร่วมกันจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เด็กและเยาวชนทุกคนได้ครบ 100%
รมว.ศธ. ยังกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไขหรือทุนเสมอภาคได้ช่วยบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียนหนังสือให้แก่นักเรียนและครอบครัวที่ยากจนพิเศษ ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อเดือนต่ำกว่า 1,250 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ความยากจนของ สพฐ. กว่า 50% (3,000 บาทต่อคนต่อเดือน) โดยทุนเสมอภาคแบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วน ได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าครองชีพ และค่าจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต ซึ่งต่อยอดจากกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะเป็นความช่วยเหลือที่ไม่ได้มุ่งสงเคราะห์ แต่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนกลุ่มยากจนที่สุดได้แสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ และยังสร้างรายได้ให้แก่นักเรียนได้จริง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ทำให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางอย่างยั่งยืน
ขณะที่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือด้วยแนวทางสงเคราะห์แต่เพียงลำพังนั้น ยากที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน และไม่สามารถหยุดปัญหาความยากจนข้ามชั่วคนได้ ส่วนหนึ่งของกองทุนเสมอภาคของ กสศ. จึงมุ่งไปที่กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิตให้นักเรียนทุนเสมอภาคเหล่านี้สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลครอบครัวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยการสนับสนุนและบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของโรงเรียน คุณครู นักเรียน ขณะนี้มีโรงเรียนที่มีความพร้อมสามารถขยายผลกิจกรรมทักษะอาชีพนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายรูปแบบ สร้างรายได้ให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาค สมัครเข้าร่วมเป็นเครือข่าย ตลาดวาดฝันสร้างโอกาส สร้างอาชีพ เบื้องต้นแล้ว 107 โรงเรียนทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค นอกจากนี้ ความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และคุณครูทั่วประเทศทำให้ กสศ. สามารถสนับสนุนทุนเสมอภาคเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนที่สุดให้แก่โรงเรียนในสังกัด สพฐ. จำนวน 29,871 โรงเรียน ซึ่งในปีการศึกษา 2562 จะสามารถช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้ได้ถึง 723,604 คน อย่างไรก็ตามยังต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนมาร่วมเติมเต็มความช่วยเหลือให้เด็กกลุ่มนี้มากขึ้น
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชน รวมถึงภาคธุรกิจเอกชนร่วมกันบริจาคสมทบ หรือสนับสนุนในแง่องค์ความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อต่อยอดความช่วยเหลือที่ กสศ.ได้ดำเนินการไว้แล้ว ให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนแก่เด็ก ๆ มากยิ่งขึ้น โดยสามารถติดตามกิจกรรมของเครือข่ายตลาดวาดฝัน เพื่อร่วมสนับสนุนหรืออุดหนุนผลิตภัณฑ์จากกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพหรือโครงการอื่น ๆ ของนักเรียนทุนเสมอภาค ได้ที่ www.eef.or.th และภาคธุรกิจหรือประชาชนทั่วไป ที่ประสงค์ร่วมสมทบทุนบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ กลุ่มที่ยากจนที่สุดของประเทศ สามารถเข้าไปบริจาคและใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2 เท่าได้อัตโนมัติ ที่เว็บไซต์ https://donate.eef.or.th/main-donate หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โทร. 0 2079 5475
Click Donate Support Web