- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Sunday, 18 November 2018 13:07
- Hits: 2114
ลดปัญหา Gen Z ติดเกม ด้วยคุณธรรม 5.0
เด็กในเจเนอเรชัน Z เติบโตมาท่ามกลางเทคโนโลยีและการใช้โซเชียลมีเดียในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ โดยปัจจุบันเด็กไทยใช้เวลากับอินเทอร์เน็ต 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 3 ชั่วโมง และหากเสพสื่อออกไลน์โดยขาดคำแนะนำจากผู้ปกครองอาจทำให้เยาวชนหลงไปในทางที่ผิดได้ นอกจากนี้การเล่นเกมต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง เห็นได้จากข่าวเด็กติดเกมออนไลน์อย่างหนักจนถึงขั้นต้องเข้ารักษาดวงตาที่โรงพยาบาล
แล้วจะมีวิธีไหนที่จะลดการติดเกมหรือการเสพสื่อออนไลน์ของเด็กๆ ลงได้ หนึ่งในวิธีที่ได้ผลคือการมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำในเวลาว่างแทนการเล่นเกม โดยเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมโดยที่ผู้ปกครองสามารถทำร่วมกันได้
ตัวอย่างของกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ คือ กิจกรรม “คุณธรรม 5.0” ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจสงสัยว่าคุณธรรมจะช่วงลดปัญหาการติดเกมได้อย่างไร คุณธรรม 5.0 เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์” (THAILAND SUPER CAMP) ที่เป็นความตั้งใจของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิธรรมดี ร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคประชาสังคม อาทิ มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ในการสร้างมายด์เซ็ทคุณธรรมเด็กไทย 5.0 ด้านความพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา รับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยดึงเยาวชนออกจากหน้าจอ ด้วยกิจกรรมที่ผสานเทคนิคการเรียนรู้สมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความสนุกและสร้างสรรค์ พร้อมสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้พร้อมก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างมีคุณภาพ
กิจกรรมคุณธรรม 5.0 ภายในค่ายไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์ ประกอบด้วยฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น การสร้างเมืองคุณธรรม หากนำมาเป็นกิจกรรมในครอบครัว ผู้ปกครองสามารถให้ลูกหลานลองสร้างเมืองคุณธรรม โดยสร้างความสนุกและความท้าทายจากการจำกัดอุปกรณ์ในการสร้าง เช่น กระดาษสี กาว กรรไกร และสีไม้ ซึ่งน้องๆ สามารถสร้างเมืองได้ตามจินตนาการว่าอยากให้เมืองที่มีคุณธรรมในฝัน ประกอบด้วยอะไรบ้าง หลังจากน้องๆ ทำการตกแต่งสร้างเมืองเสร็จแล้ว ควรให้น้องๆ ได้อธิบายว่าทำไมถึงสร้างเมืองคุณธรรมเป็นรูปแบบนี้ มีอะไรซ่อนอยู่ในเมืองบ้าง สิ่งนี้เองจะเป็นการปลูกฝังด้านคุณธรรมไปพร้อมกับความสนุกอีกด้วย
เด็กหญิงปลิดา ปาร์ลม หรือน้องแองจี้ จากโรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์ บอกว่า “หนูสนุกมากที่ได้สร้างเมืองในฝันตามจินตนาการร่วมกับเพื่อนๆ เมืองของกลุ่มหนูเน้นความพอเพียง มีบ่อเลี้ยงปลาอยู่ด้านหน้าค่ะ เพราะความพอเพียงคือการใช้อย่างพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ซึ่งหากทุกคนในเมืองสามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ทุกคนในเมืองก็จะมีความสุขค่ะ”
กิจกรรมประดิษฐ์นาฬิกา In Time น้องๆ จะได้ประดิษฐ์นาฬิกาของตัวเอง และเป็นคนกำหนดว่าช่วงเวลาไหนจะทำอะไร โดยสามารถเลือกวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ เป็นการสร้างวินัยในวันหยุด ทุก 2 ชั่วโมงจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่น้องเป็นผู้เลือกที่จะทำ และจะมีเพียง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นที่น้องๆ จะได้เล่นมือถือ นอกนั้นจะเป็นกิจกรรมที่แฝงไปด้วยคุณธรรม 5.0 อาทิ การช่วยงานบ้าน ทำการบ้าน อ่านหนังสือที่ชอบ หรืองานด้านจิตอาสาต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างวินัยในตนเอง เคารพการตัดสินใจของตนเอง พร้อมทั้งสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ตนเองชอบให้เกิดขึ้นตามเวลาที่กำหนด
เด็กชายศุภกร จินดาทองสกุล หรือน้องเต็มเต็ม จากโรงเรียนสาธิตจุฬา (ฝ่ายประถม) เล่าว่า “ผมชอบทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งบางครั้งทำให้งานไม่เสร็จสักอย่าง หลังจากที่ได้ประดิษฐ์นาฬิกาเป็นของตัวเองแล้ว ผมได้แบ่งช่วงเวลาต่างๆ โดยตั้งใจว่า ตอนเช้าจะช่วยงานบ้าน ช่วยคุณพ่อล้างรถ ต่อด้วยทำการบ้านอ่านหนังสือ ช่วยบ่ายผมจะต้องเรียนพิเศษ โดยเหลือเวลาช่วงเย็นนิดหน่อยในการเล่นเกม ซึ่งผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะเล่นเกมให้น้อยลง ตั้งใจสร้างวินัยให้ตัวเองโดยใช้นาฬิกานี้เป็นตัวกำหนด ผมจะทำตามสัญญาลูกผู้ชายครับ”
ส่วนเด็กหญิงมันตา บุญจันทึก หรือน้องแบม จากโรงเรียนเทพประทานพร เล่าถึงกิจกรรมต่อไป คือ กิจกรรมลูกโป่งสุจริต ว่า “หนูได้รับโจทย์ให้เดาะลูกโป่งให้สูงกว่าศีรษะ ห้ามส่งเสียง ห้ามชนเพื่อนข้างๆ และห้ามให้ลูกโป่งชนกัน หากคนไหนทำผิดกติกาต้องนั่งลงทันที โดยกิจกรรมจะแบ่งเป็นรอบๆ รอบละ 5 นาที ซึ่งรอบที่ 2 จะเพิ่มความยาก โดยทุกคนจะต้องเดาะลูกโป่งด้วยมือข้างเดียว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเหลือผู้ชนะที่มีความซื่อสัตย์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“หนูคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในการเดาะลูกโป่งไม่ให้ชนกับเพื่อนและต้องเดาะสูงเหนือหัวตลอดเวลา ซึ่งหลังจากที่หนูเดาะลูกโป่งไปชนกับเพื่อนหนูก็นั่งลงตามกติกาทันทีโดยไม่ต้องมีใครมาบอก เพราะหนูต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง และไม่อยากให้เพื่อนๆ ว่าเราได้ว่าเป็นคนขี้โกง และหากหนูทำผิดกติกาแต่ไม่นั่งลงหนูจะรู้สึกละอายใจตัวเองค่ะ” น้องยูกิ กล่าว
นอกจากนี้ น้องๆ ทุกคนในค่าย’ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ แคมป์’จะได้รับ’ปฏิทินความดี 21 วัน’ซึ่งทุกคนจะต้องตั้งคำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงตนเอง 3 ข้อ โดยที่ผู้ปกครองจะเป็นผู้ช่วยคอยกระตุ้นและให้สัญลักษณ์ดาวบนวันในปฏิทินหลังจากน้องๆ ได้ทำตามสัญญา เมื่อน้องๆ ทำได้ครบ 21 วัน สิ่งที่ทำจะกลายเป็นนิสัยใหม่ติดตัวไปตลอดชีวิต
ทั้งนี้ กิจกรรมคุณธรรม 5.0 มีอยู่ในสมุดคู่มือ ‘ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ บุ๊กง (Thailand Super Book) ซึ่งผู้ปกครองที่สนใจนำกิจกรรมคุณธรรม 5.0 ไปเล่นกับลูกๆ ที่บ้านเพื่อลดการติดเกม สามารถติดต่อขอรับสมุดกิจกรรมนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่มูลนิธิธรรมดี โทร. 02-6102376 หรือทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/thailandsupercamp2018
Click Donate Support Web