- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Thursday, 18 September 2014 14:43
- Hits: 8481
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8695 ข่าวสดรายวัน
บิ๊กตู่ ฮึ่มปิดรร. แก้นร.ตีกัน พา 6 อุเทนทำแผน หวิดประชาทัณฑ์
ทำแผนฆ่า - ตำรวจสน.เตาปูนนำตัว 2 น.ศ. ม.ราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย ทำแผนฯจ่อยิง 2 น.ศ. สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันจนเสียชีวิต เหตุเกิดฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. |
นายกฯบิ๊กตู่ ฮึ่มแก้ปัญหานักเรียนนักเลง ลั่นเด็กโรง เรียนไหนตีกัน จะสั่งปิดสถาบันทันทีสั่งคุมพวกรุ่นพี่ชอบคืนสู่เหย้า ชี้เป็นต้นเหตุปัญหา ขณะที่บช.น.แถลงจับ 6 ช่างก่อสร้าง อุเทนถวาย ก่อเหตุยิงนักศึกษาราชมงคลกรุงเทพ และช่างกลปทุมวัน รวม 3 ศพ อ้างต้องการแก้แค้นให้เพื่อนสาวที่ถูกยิงดับหน้ามาบุญครอง เผยออกล่าโดยไม่รู้ใครเป็นใคร ขอเป็นสถาบันคู่อริเป็นใช้ได้ ตร.คุมตัวทำแผน 2 เหตุ หวิดถูกประชาทัณฑ์ พ่อเหยื่อลั่นเดินหน้าฟ้องคดีแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุด
วันที่ 17 ก.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลของผู้บริหารระดับสูง โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังประมาณ 600 คน
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน โดยไม่กลัวต่อกฎอัยการศึกกันสักคนเรื่องนี้ยอมรับว่าตนเป็นห่วงเหมือนกัน "ผมประกาศไปเลยแล้วกันว่าต่อไปนี้ตีกันโรงเรียนไหน ก็ปิดโรงเรียนนั้น ปิดแผนกนั้น ปิดคณะนั้น ฝ่ายไหนคณะไหนตีก่อน ก็สั่งปิดก่อนชั่วคราว จนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จ สิ่งสำคัญต้องไปหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้พวกแกนนำพวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชอบคืนสู่เหย้า พอสักที เลิกกัน ให้อภัยกัน ไม่อย่างนั้นต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด โรงเรียนต้องถูกปิด วันนี้ถึงแม้จะประกาศมาตรการไปก็ไม่เกิดผลหรอก ถ้าไม่เอาจริงเอาจัง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ปัญหาเรื่องเด็กวัยรุ่นไม่มีงานทำ พวกเด็กแว้น เด็กติดยาเสพติด ขอทาน ค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องนี้ต้องแก้ไข
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีมีแนวคิดสั่งปิดโรงเรียนที่มีนักเรียนตีกันเป็นการชั่วคราวว่า กำลังพิจารณาว่าปิดคณะก่อน เป็นการเตือนก่อน ไปปิดเลยจะโหดร้ายไป ถ้าไม่ทำอย่างนี้ไม่งั้นไม่เลิก เราต้องทำให้เลิกให้ได้
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.สยศ.ตร. รรท.ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รองผบก.สส. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผบก.น.6 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส. พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส. พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก แถลงข่าวจับกุมนักศึกษาไล่ยิงนักศึกษาต่างสถาบันเสียชีวิตผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ นายกบินทร์ หรือเอฟ หรือบินทร์ จิโรจน์มนตรี อายุ 20 ปี มือปืน นายปัญหา หรือโต้ง เขมวัชรเลิศ อายุ 20 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ นายอรรถพล หรือต้น ยี่แม่นยิง อายุ 20 ปี คนชี้เป้า นายจิรายุทธ หรือไอซ์ สุวรรณโชติ อายุ 20 ปี คนชี้เป้า นายจิตรดิลก หรือเน็ต อุ้มชู อายุ 21 ปี หน้าที่ดูเหยื่อว่าเสียชีวิตหรือไม่ และนายณัฐกร หรือณัฐ กรรมแต่ง อายุ 23 ปี คนวางแผนและจัดหาอาวุธปืน
โดยผู้ต้องหาที่ 1-5 เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขต อุเทนถวาย ชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมก่อสร้างโยธา และผู้ต้องหาที่ 6 เป็นรุ่นพี่คณะเดียวกันเรียนอยู่ชั้นปี 4 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1637-1642 ลงวันที่ 16 ก.ย. ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่มีใบอนุญาตพกพา พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 ลูกกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 10 นัด กล่องใส่กระสุนปืนขนาด.32 ประทัดยักษ์ รถจยย.ฮอนด้า คลิก สีดำ-แดง ทะเบียน ฬสม 483 กรุงเทพมหานคร เสื้อแจ๊กเกต 2 ตัว และหมวกกันน็อกสีดำ 2 ใบ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 07.45 น. ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิงนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ช่างกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 6 นัด จนเสียชีวิต เหตุเกิดซอยรามคำแหง 107 ขณะผู้ตายจะไปเรียนหนังสือและไปลงเรือที่วัดศรีบุญ เรือง ท้องที่สน.หัวหมาก
โดยผู้ต้องหาใช้จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ดักรอเหยื่อก่อนลงมือ โดยเข้าใจผิดคิดว่า ผู้ตายเรียนอยู่เทคโนโลยีปทุมวัน
ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. เวลา 17.30 น. ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืน.38 และรถจยย.ฮอนด้า คลิก ของกลางที่ยึดได้ ก่อเหตุ ขี่ประกบยิงนายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี และนายชิษณุพงษ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี น.ศ.ชั้นปี 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ขณะขี่รถจยย.เสียชีวิตทั้งคู่ เหตุเกิดถนนเทอดดำริ ตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ท้องที่สน.เตาปูน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด รับสารภาพว่า ก่อเหตุทั้ง 2 คดี มูลเหตุจูงใจเป็น กระทำการเพื่อล้างแค้น ให้กับเพื่อนนักศึกษาสถาบันเดียวกันที่ถูกยิงเสียชีวิต กรณีเมื่อวันที่ 26 ส.ค. เวลา 21.30 น. น.ส.กันต์กนิษฐ์ พรหมแก้ว อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนขี่รถจยย. ใช้ปืนกราดยิงบาดเจ็บนำส่งร.พ.แล้วเสียชีวิต และมีเพื่อนชายร่วมสถาบันบาดเจ็บ 1 ราย ขณะเกิดเหตุยืนหลบฝนรอรถเมล์ พร้อมกับเพื่อนร่วมสถาบันเกือบ 40 คน ที่ป้ายรถโดยสารหน้าโอสถศาลา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตรงข้ามห้างมาบุญ ครอง ถ.พญาไท
โดยผู้ต้องหาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันสนิทกับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยโกนหัวไว้อาลัยให้เพื่อนและหลังจากกลับจากงานเผาศพที่จ.ชัยนาท ก็ร่วมกันวางแผนแก้แค้นให้กับเพื่อน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ นายปัญญา เคยถูกดำเนินคดีข้อหา พยายามฆ่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.55 ท้องที่สน.โคกคราม และนายจิรายุทธ เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหา พกพาอาวุธปืน เมื่อวันที่ 6 มี.ค.57 ท้องที่สน.พญาไท
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปืนขนาด.38 ที่ใช้ก่อเหตุ นักศึกษาในกลุ่มรวมเงินซื้อเพื่อเอาไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้ความร่วมมือยอมรับความผิดทั้งหมด พร้อมทั้งพาตำรวจไปเอาของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ตนอยากให้เรื่องดังกล่าวยุติ ต่อไปถ้าฝ่ายใดถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอให้ตำรวจเป็นผู้ลงมือจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีและกฎหมายเป็นผู้ตัดสิน ขอให้ยุติอย่าไปคิดกระทำกันเอง
เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคุมตัวนายกบินทร์หรือเอฟ และพวก ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุยิงนายพัชร นักศึกษาปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ช่างกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนทั้งหมด 10 จุดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีประชาชน รวมทั้งญาติผู้ตายและเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเทคโน โลยีราชมงคลกรุงเทพ จำนวนมาก รอดูการทำแผนครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมกำลังตำรวจชุดจู่โจม คอยระวังและกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจุดเกิดเหตุ ป้องกันการรุมประชาทัณฑ์
นายกำพล กัมพลาศิริ บิดาของนายพัชร ซึ่งมาดูการทำแผน เปิดเผยว่าตนเองเสียใจและโกรธแค้นมาก ถ้าเป็นไปได้อยากทำร้ายผู้ต้องหาตอนนี้เลย เพื่อชดใช้ให้ลูกชายเพียงคนเดียว ตนไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการยิงผิดตัว และขอให้การเสียชีวิตของลูกตนเองเป็นกรณีเริ่มต้นการแก้ปัญหานักเรียนตีกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งวอนให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานของตัวเองให้ดี สอดส่องดูแล ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยและตนเองจะปรึกษาทนาย ความเพื่อจะเรียกร้องทางแพ่ง เอาผิดกับทาง ผู้ปกครองของผู้ต้องหาเป็นกรณีตัวอย่าง
ต่อมาเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ต.สุรเดช ฉัตรไทย สว.สส.สน.เตาปูน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เตาปูน และเจ้าหน้าที่ทหาร ป.พัน.1 รอ. รวมกว่า 100 นาย นำตัวนาย กบินทร์ และนายปัญญา ที่ก่อเหตุยิงนายพลวัต และนายชิษณุพงษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิตบริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ เมื่อช่วงเย็นของ 12 ก.ย.ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้เวลากว่า 30 นาที ทั้งนี้มีเพื่อนผู้ตายซึ่งเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันมารอดูการทำแผนกว่า 10 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันให้ออกจากพื้นเพื่อความปลอดภัย
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 สันติบาล สืบสวน บก.น.6 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด พล.ม.2 รอ. เข้าตรวจค้นอาวุธภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขต อุเทนถวาย ถ.พญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
พ.ต.อ.จารุตกล่าวว่า การตรวจค้นภายในอุเทนถวายพบสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก อาทิ อาวุธมีด อุปกรณ์การเล่นการพนันไฮโล ไพ่ อุปกรณ์เสพยาเสพติด (กัญชา) เบียร์ อาวุธมีด จึงควบคุมตัวนักศึกษา 4 ราย ไปยัง สน.ปทุมวัน เพื่อถ่ายรูปทำประวัติไว้ พร้อมทั้งเชิญผู้ปกครองและอาจารย์ฝ่ายปกครองเข้ารับทราบถึงพฤติกรรมของตัวนักศึกษาก่อนจะปล่อยตัวไป
พ.ต.อ.จารุตกล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขต อุเทนถวายและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เข้าตรวจค้นไปแล้วเมื่อ ปี 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากการตรวจค้นนั้นเรื่องการทะเลาะวิวาทของทั้ง 2 สถาบันนี้ได้เบาบางลงไป ต่อมาเมื่อมีการชุมนุมทางการเมืองนั้นซึ่งทางนักศึกษาของทั้งสองสถาบันนั้นได้เข้าร่วมการชุมนุมและอาสาเป็นการ์ดและเกิดการเขม่นกันจนถึงปัจจุบัน