- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 21 November 2017 18:11
- Hits: 2417
ตลาดบ้าน-คอนโดฯ ส่อแววคึกคัก ดอกเบี้ยต่ำกระตุ้นแรงซื้อ ราคาปรับตัวขึ้นเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty)เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เปิดตัวรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ (DDproperty Property Index) เป็นครั้งแรก รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคไทยแลนด์ 4.0 กับการนำเสนอข้อมูลและบทวิเคราะห์ที่สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านในฝันของตน ซึ่งเป็นหนึ่งในการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต รายงานฉบับดังกล่าว เป็นการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data จากฐานข้อมูลของเว็บไซต์ DDproperty.com นำมากลั่นกรองเป็นบทสรุปที่เข้าใจ มีการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านราคาและอุปทานในรอบไตรมาส แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจ แนวโน้มตลาด และทิศทางจากผู้ประกอบการ โดยในเฟสแรกนี้ จะเป็นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งมุ่งไปที่พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ เป็นหลัก
ตามรายงานของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ ระบุว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 อยู่ที่ระดับ 199 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากไตรมาสที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี สะท้อนถึงสัญญาณบวกในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังฟื้นตัวจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวในกลุ่มตลาดระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง
“เรามองว่าแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมีทิศทางบวก และเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ขาย และผู้ซื้อ โดยเฉพาะผู้ซื้อนั้น จะได้ประโยชน์จากการที่มีสินค้าในตลาดให้เป็นตัวเลือกหลากหลาย ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำและน่าจะรักษาระดับไปอีกระยะหนึ่ง” คุณกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าว
ดัชนีราคา-อุปทานโตต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รายงานฉบับดังกล่าวยังระบุอีกว่าในช่วงไตรมาส 3 ดัชนี ราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากมองย้อนกลับไปในช่วงระยะเวลา 2 ปีพบว่า ดัชนีราคามีการเติบโตถึงร้อยละ 53
ดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีอัตราการเติบโตมากที่สุด เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว โดยดัชนีราคาคอนโดฯ ในดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 219 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 209
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ดัชนี ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ สะท้อนให้เห็นว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตจตุจักรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุดที่ร้อยละ 10 ตามมาด้วยเขตพระโขนงที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7
นอกจากนี้ ปริมาณอุปทานบ้าน-คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากชะลอตัวลงในช่วงต้นปี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ในไตรมาส 2 และเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาในอัตราร้อยละ 14
ทั้งนี้ หากมองย้อนไปในรอบ 1 ปี จะพบว่าดัชนีอุปทานที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ทำสถิติการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการเก็บข้อมูลในปี 2558 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างคึกคักจากผู้ประกอบการนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560
“ปัจจุบันปริมาณอุปทานสะสมค่อนข้างมาก เนื่องจากดีมานด์ที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ในขณะที่เศรษฐกิจยังอยู่ในระยะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดใดๆ จากภาครัฐออกมา” คุณกมลภัทร กล่าว “ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งเลือกที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป”
ชี้เศรษฐกิจฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ท่ามกลางหลากหลายปัจจัยเสี่ยง สิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมยังเดินหน้าต่อไปได้มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนส่งของประเทศ พ.ศ. 2558-2565 การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 และคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับดังกล่าวยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ราคาที่อยู่อาศัยโดยภาพรวมแล้ว ดีดีพร็อพเพอร์ตี้คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งที่ผ่านการอนุมัติและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะมีส่วนผลักดันให้ราคาอสังหาฯ ในไทยเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อุปสงค์ที่มาจากผู้ซื้อ-นักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของฝั่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังนั้น ได้มีแนวคิดที่จะดำเนินการแก้กฎหมายสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจาก 30 ปี เป็น 50 ปีเพื่อจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น
“ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ไม่เพียงแต่ดูสดใสสำหรับผู้ขายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อด้วยทางเลือกที่หลากหลาย แม้ว่าราคาที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่ผู้ประกอบการแข่งขันกันออกมาเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้ออย่างเข้มข้น น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้อบ้านที่ “ใช่” ของตน” คุณกมลภัทร กล่าวทิ้งท้าย