- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Saturday, 14 October 2017 09:37
- Hits: 5859
เน็กซัส ชี้ทำเลอโศก ทองหล่อยังเติบโตต่อเนื่อง ไลฟ์สไตล์ตอบรับความต้องการ ดันราคาขายปรับเพิ่มเฉลี่ย 9%ต่อปี
เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง เผย ราคาที่ดินในทำเลอโศกถึงทองหล่อ ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง7 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ที่ดินส่วนใหญ่ที่มีการซื้อขายในทำเลนี้ได้พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบคอนโดมิเนียม รวมถึงที่อยู่อาศัยเพื่อการเช่า อาทิ เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และโรงแรม เนื่องจากทำเลนี้เป็นแหล่งไลฟ์ไตล์ที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับคนกรุงเทพ โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดกล่าวถึงภาพรวมและแนวโน้มราคาที่ดินทำเลอโศกถึงทองหล่อ ว่า ที่ดินทำเลอโศกถึงทองหล่อมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ19% ในช่วง 7 ปีจากราคาเฉลี่ย 350,000 บาทต่อตารางวา เป็น 1.01 ล้านบาทต่อตารางวา และอีกในสองปีข้างหน้ามีแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นอีก อย่างน้อยปีละ 10%
*ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม2560
*ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม2560
ตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่ทำเลอโศกถึงเอกมัย
อุปทาน
ในช่วงปี2555 ถึงไตรมาสที่3 ปี2560 ผู้พัฒนาโครงการยังคงเชื่อมั่นในการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลอโศกถึงเอกมัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีอุปทานใหม่ทั้งหมด14,332 หน่วย จาก48 โครงการ โดยอัตราการเติบโตของคอนโดมิเนียมในช่วง6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่67%ต่อปี สำหรับเฉพาะไตรมาสที่1 ถึง ไตรมาสที่3ปี2560นั้น มีอุปทานใหม่จากผู้ประกอบการคิดเป็น29%ของอุปทานรวม จำนวน4,281หน่วยจาก17โครงการ แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมั่นใจในตลาดทำเลนี้
*ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม 2560
เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนอุปทานโครงการในทำเลอโศก เอกมัยแบ่งตามประเภทนั้นจากอุปทานรวม14,332หน่วย พบว่าโครงการระดับไฮเอนด์มีจำนวนมากสุดถึง55%ของอุปทานรวมหรือ7,919หน่วย ตามด้วยโครงการระดับลักซูรี่จำนวน4,089หน่วย และโครงการระดับซูเปอร์ลักซูรี่จำนวน2,324หน่วย
* ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม 2560
ในด้านสัดส่วนผู้ประกอบการในตลาดระดับลักซูรี่นั้นจาก48 โครงการที่ได้เปิดขายตั้งแต่ปี2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาโครงการจำนวน9,332 ยูนิต คิดเป็น65% ในตลาด และผู้ประกอบการรายเล็กให้ความสนใจสนใจพัฒนาโครงการจำนวน5,000 ยูนิต คิดเป็น35% แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในการพัฒนาสินค้าระดับลักซูรี่สู่ตลาดทำเลนี้ต่อเนื่อง
* ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม 2560
สำหรับ โครงการเปิดขายในอนาคตอันใกล้ ทำเลอโศก –เอกมัย มีทั้งหมด8โครงการ ส่วนใหญ่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในทำเลเอกมัยและทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ แสนสิริ สิงห์ เอสเตทMQDCและอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
อุปสงค์
ด้านอุปสงค์คอนโดมิเนียมทำเลอโศก–เอกมัยในปี 2555 ถึงไตรมาสที่3 ปี2560 มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,218 หน่วย คิดเป็น75%ของอุปทานรรวม โดยตลาดระดับไฮเอนด์มียอดขายคิดเป็น 77%ตลาดระดับลักซูรี่มียอดขาย74%และตลาดระดับซูเปอร์ลักซูรี่มียอดขายคิดเป็น 74%ตามแต่อุปทานของแต่ละระดับตลาด
*ที่มาNexus Property Marketing, ตุลาคม2560
ราคา
ราคาคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จากราคาเฉลี่ย158,800 บาทต่อตารางเมตรเป็น 222,944 บาทต่อตารางเมตร โดยมีอัตราการเติบโตของของราคาในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 9%ต่อปีการปรับตัวของราคาเฉลี่ยโดยรวมเป็นไปในทิศทางบวก เว้นแต่ในช่วงปี2556 ถึงปี2557 ผู้พัฒนาโครงการให้ความสนใจพัฒนาโครงการไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้น จึงส่งผลให้ราคาปรับตัวเล็กน้อย
*ที่มาNexus Property Marketing,ตุลาคม2560
บทสรุป
“ทำเลอโศกถึงเอกมัยเป็นทำเลที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาโครงการระดับลักซูรี่อย่างต่อเนื่องโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดด้านการหาที่ดิน และเงินลงทุนกลายเป็นปัจจัยให้ผู้พัฒนาโครงการมีแนวโน้มพัฒนาโครงการด้วยจุดเด่นที่แตกต่างออกไป อาทิ โครงการไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์และโครงการโลว์ไรซ์ระดับลักซูรี่ หรือการร่วมมือกับบริษัทต่างชาติ เพื่อจุดประสงค์ในด้านการเงินและเทคโนโลยี ในด้านราคานั้นเมื่อเปรียบเทียบราคาที่ดินกับราคาขายต่อตารางเมตรของโครงการในตลาดลักซูรี่ การปรับราคาที่ดินทำเลนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนเป็นผลมาจากที่ดินมีอย่างจำกัด
ในขณะที่ราคาขายห้องชุดต่อตารางเมตรปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับราคาขายที่ดิน อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2559 ถึง 2560 มีราคาเปิดขายคงที่ จากที่ผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจพัฒนาโครงการโลว์ไรซ์และไฮไรซ์ระดับไฮเอนด์มากขึ้นทั้งนี้จะเห็นได้ว่าราคาคอนโดมิเนียมปรับตัวขึ้นในอัตราเฉลี่ย9% ต่อปี ในขณะที่ราคาที่ดินปรับขึ้นถึง19% ต่อปี สำหรับด้านคุณภาพสินค้า เนื่องจากตลาดระดับลักซูรี่มีการแข่งขันกันสูงและมีโครงการเปิดขายใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คุณภาพของสินค้าดีขึ้นและมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามแต่ละโครงการ ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ซื้ออีกด้วย”นางนลินรัตน์ กล่าว