- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Friday, 04 August 2017 08:52
- Hits: 2838
กคช.แถลงผลการดำเนินงานปี 2560 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงผลการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติใน ‘กิจกรรมผู้บริหารพบสื่อ’ ว่า ผลประกอบการด้านการเงินนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 ถึงเดือนพฤษภาคม 2560 มีผลกำไรสุทธิ 538 ล้านบาท คาดว่า สิ้นปีงบประมาณ 2560 (ณ เดือนกันยายน 2560) จะมีกำไรสุทธิประมาณ 840 ล้านบาท แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกแค่เพียง 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2560 การเคหะแห่งชาติจะเร่งผลักดันงานพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
เริ่มจาก (ร่าง) ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579) โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการจัดทำ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เป็นการสานต่อแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) เพื่อใช้เป็นกรอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของประเทศในระยะยาว และมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและทิศทางการพัฒนาประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์คือ’คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 (Housing for All)’ โดยบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อาทิ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ การเคหะแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เป็นต้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนตามแนวนโยบายประชารัฐเพื่อสังคมของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนสิงหาคม 2560
สำหรับ การขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยปี 2560 มีเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง มุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้อยู่อาศัยในชุมชนทุกขั้นตอน และมีการประชุมติดตามงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวน 20,292 หน่วย แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ระยะ โดยในระยะแรกกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารแปลง G จำนวน 334 หน่วย เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมแฟลต 18 - 22 เริ่มก่อสร้างในเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเทคอนกรีตเสารับพื้นชั้นที่ 2 และผนัง สามารถดำเนินการได้ร้อยละ 19.62 (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2560) คาดว่าจะย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมเข้าอยู่ได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2561
ส่วนการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วม นอกเหนือจากการดำเนินงานของคณะกรรมการการมีส่วนร่วมการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูชุมชนดินแดง โดยมี พลเอก สุชาติ หนองบัว เป็นประธานกรรมการ และมีผู้แทนชุมชนดินแดง 1 และดินแดง 2 และผู้นำตามธรรมชาติ ร่วมเป็นกรรมการขับเคลื่อน เพื่อทำความเข้าใจกับผู้อยู่อาศัยถึงการจัดทำโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงแล้ว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. 2559 - 2567) เพื่อเสนอแนะมาตรการ แนวทางการดำเนินงานและการแก้ไขปัญหา พร้อมกำกับดูแล ติดตามการดำเนินงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงตามแผนแม่บทฯ รวมทั้งประสานความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ หรือ
ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน ซึ่งได้มีการประชุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมอีก 2 คณะ ได้แก่ คณะทำงานเพื่อบูรณาการโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงฯ ด้านการก่อสร้างและพัฒนาโครงการ โดยมี ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธาน และคณะทำงานเพื่อบูรณาการโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงฯ ด้านการบริหารจัดการ ดูแลชุมชน และการมีส่วนร่วม โดยมี นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธาน
โครงการต่อมา โครงการบ้านเคหะประชารัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัยและมีความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนและผ่อนปรนพิเศษตามกรอบการดำเนินงานบ้านประชารัฐ โดยปี 2560 กำหนดเป้าหมายขาย จำนวน 10,470 หน่วย ปัจจุบันขายได้ 11,771 หน่วย คิดเป็น 110 % (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2560) ซึ่งได้จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการขายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานมหกรรมบ้านเคหะประชารัฐ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 มีผู้ให้ความสนใจจองในช่วงการจัดงาน จำนวน 10,192 หน่วย หลังจากนั้นขยายระยะเวลาให้ประชาชนสามารถจองโครงการได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 ได้แก่ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทุกโครงการ ลูกค้าสามารถเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 48 โครงการ โดยรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49 % สำหรับ ผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่พร้อมซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อเป็นการเช่าในลักษณะโครงการเช่าเพื่อซื้อ หรือ Rent to buy เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม 38 โครงการ นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติได้เปิดรับจองที่อยู่อาศัยผ่านระบบออนไลน์ http://house.nha.co.th บนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC หรือโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งลูกค้าสามารถนำใบจองหรือบาร์โค้ดไปชำระเงินที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานเคหะชุมชน และเคาน์เตอร์เซอร์วิส สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1615 และ www.nha.co.th
โครงการที่สาม โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการเคหะแห่งชาติจะจัดสร้างที่อยู่อาศัยทั้งประเภทเช่า และเช่าซื้อ ได้แก่โครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 จำนวน 21 โครงการ 6,129 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนกันยายน 2560 จำนวน 2,752 หน่วย และโครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปี 2559 ระยะที่ 1 จำนวน 14 โครงการ 4,388 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างและจัดทำแบบก่อสร้าง
โครงการสุดท้าย โครงการพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งการเคหะแห่งชาติมีภารกิจในการบริหารและพัฒนาชุมชนที่อยู่ในความดูแล ปัจจุบันมีจำนวน 680 ชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ชาวชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและกำหนดแนวทางการบริหารจัดการชุมชนของตนเอง รวมทั้งบูรณาการแผนชุมชนให้สอดคล้องกับแผนของหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย งานพัฒนาชุมชนด้านกายภาพ บำรุงรักษาสภาพแวดล้อมชุมชน ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการให้พร้อมใช้งาน ผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีเป้าหมายพัฒนาชุมชนด้านกายภาพจำนวน 100 ชุมชน ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 97 ชุมชน เช่น โครงการเคหะชุมชนบ่อนไก่ (บ้านพระราม 4) ได้ดำเนินการทาสีผนังอาคารภายนอก และทางเดินกลางภายในอาคาร ทาสีอาคารจอดรถพร้อมทั้งตีเส้นจราจร จัดทำพื้นที่จอดรถผู้พิการและผู้สูงอายุ งานลอกท่อ
ระบายน้ำและงานฝาบ่อพักคอนกรีตเสริมเหล็ก งานล้างถังเก็บน้ำด้านล่างและด้านบนหลังคา และงานก่อสร้างรั้วด้านหน้าโครงการ รวมทั้งได้จัดตั้งคณะทำงานยกระดับคุณภาพชีวิตแบบมีส่วนร่วมโครงการเคหะชุมชนบ่อนไก่ โดยมีตัวแทนของผู้อยู่อาศัยในชุมชนเข้ามาเป็นกรรมการด้วย เพื่อดำเนินงานด้านสังคม ตลอดจนจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยในชุมชนตามโอกาสต่างๆ และงานพัฒนาคุณภาพชีวิต การเคหะแห่งชาติได้จัดทำมาตรฐานเกณฑ์ชี้วัดระดับความเข้มแข็งของชุมชนออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ชุมชนเข้มแข็ง ระดับที่ 2 ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเอง และระดับที่ 3 ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการประเมินผลชุมชนตามเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเสร็จครบทุกชุมชนเป้าหมายจำนวน 157 ชุมชน
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน ได้แก่ โครงการตลาดเคหะประชารัฐ ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ลดภาระค่าครองชีพในครัวเรือน และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของตลาดภายในชุมชนการเคหะแห่งชาติให้เป็น “ตลาดเคหะประชารัฐง เพื่อพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชน จัดจำหน่ายสินค้า ที่ผลิตในชุมชน โดยจะนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ 4 พื้นที่ ได้แก่ ตลาดเคหะประชารัฐคลองจั่น ตลาดเคหะ ประชารัฐห้วยขวาง ตลาดเคหะประชารัฐบ่อนไก่ และตลาดเคหะประชารัฐดินแดง 2 ก่อนที่จะขยายไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ รวมถึงโครงการฉลากประสิทธิภาพสูงสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการเคหะแห่งชาติและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาบ้านเบอร์ 5 ไม่ต่ำกว่า 115,000 หลัง คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานได้กว่า 128 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 512 ล้านบาท ซึ่งได้มีการรณรงค์ให้ชุมชนของการเคหะแห่งชาติเปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดไฟ LED ให้มากขึ้น โดยเริ่มจากการใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน