- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Friday, 02 June 2017 22:29
- Hits: 21233
บ้านสร้างเองตจว.Q2 ส่งสัญญาณบวก พีดีเฮ้าส์ ขยับรุกตลาดอีสานใต้
บ้านสร้างเองตจว.ท้ายไตรมาส 2 สัญญาณปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ผู้เล่นในตลาดแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ 1.กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นรายเล็กรายย่อย 2. กลุ่มรับสร้างบ้านจากกรุงเทพฯ ที่ขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด ชี้ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียทำตลาดรับสร้างบ้านเปิดกว้างมาก แนะผู้บริโภคระมัดระวังการตัดสินใจ ควรตั้งอยู่บนเหตุผลและความจริง อย่าหลงเชื่อราคาต่ำเกินจริง มิฉะนั้นอาจผิดหวัง ด้านพีดีเฮ้าส์ เผยมีผู้แอบอ้างเป็นสาขาแฟรนไชส์ เร่งแก้โจทย์หันใช้อีเว้นท์มาเก็ตติ้งเน้นออกบูธทั่วประเทศ หวังสร้างการรับรู้ตัวตนและความเชื่อมั่นผู้บริโภค พร้อมเตรียมออกบูธงานมหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้างอุบลราชธานี ตั้งเป้ายอดขายเบาะๆ 80 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านสร้างเองเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในต่างจังหวัดมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะหัวเมืองเศรษฐกิจหรือการค้า และเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาค อาทิเช่น ชลบุรี สระบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ฯลฯ โดยมีผู้ประกอบการแข่งขันอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นรายเล็กรายย่อย ที่เน้นจับตลาดบ้านระดับราคา 8 แสน -1 ล้านบาทเศษ ส่วนใหญ่เลือกใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ ไม่เน้นคุณภาพสูงมากนัก และ 2. กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านจากกรุงเทพฯ ที่ขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด กลุ่มนี้จะเลือกจับตลาดบ้านระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไปจนถึง 20 ล้านบาทเป็นหลัก โดยกลยุทธ์ที่ใช้แข่งขันจะเน้นความน่าเชื่อถือ คุณภาพและบริการครบวงจรเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งจะเห็นว่าทั้ง 2 กลุ่มเลือกจับตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายต่างกัน รวมทั้งกลยุทธ์ที่ใช้แข่งขันก็ต่างกัน อย่างไรก็ตามจากการสำรวจข้อมูลพบว่า กลุ่มราคาบ้าน 8 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาทเศษ ผู้บริโภคและประชาชนมีความต้องการปลูกสร้างมากที่สุด หรือมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 70-80 ของตลาดบ้านสร้างเองต่างจังหวัด
“ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านเปิดกว้างมาก หากเปรียบเทียบกับยุคก่อนหน้านี้ ทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เกิดขึ้นและเข้ามาในธุรกิจนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ก็คือสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ที่ช่วยให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ๆ นั้นมีทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ทำให้ผู้บริโภคเองก็ต้องมีความรอบคอบมากขึ้น เพราะหากตัดสินใจเลือกโดยมิได้ยึดเหตุผลและความเป็นจริง อาจผิดหวังและเสียใจในภายหลัง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจพลาดก็คือ ข้อเสนอราคาต่ำเกินจริง เช่น อ้างว่าสามารถซื้อวัสดุจากโรงงานได้โดยตรง ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 30-50% หรือหลอกลวงว่าเป็นบริษัทในเครือหรือสาขาของบริษัทรับสร้างบ้านแบรนด์ดัง ฯลฯ เป็นต้น”
นายพิศาล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้บริโภคที่มีความต้องการสร้างบ้านเอง มักนิยมหาข้อมูลสินค้าและผู้ให้บริการบนสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อโซเชียลมีเดียก็มีข้อจำกัด ในแง่ของความน่าเชื่อถือ เพราะว่าลูกค้าหรือผู้บริโภคไม่มีโอกาสได้สัมผัสตัวตนของทีมงานและผู้บริหาร โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าสูงๆ เช่น บ้าน ฯลฯ ที่ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจถือเป็นหัวใจสำคัญ ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทฯ เองได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค ถึงพฤติกรรมของผู้ประกอบการรายใหม่บางราย ซึ่งแอบอ้างว่าเป็นแฟรนไชส์หรือสาขาของพีดีเฮ้าส์ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นบริษัทฯ จึงวางแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการใช้อีเว้นท์มาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างโอกาสให้ทีมงานและผู้บริหาร ได้พบกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและประชาชนทั่วไป สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเชิงลึกและรายละเอียดเรื่องการสร้างบ้าน ก่อนจะตัดสินใจใช้บริการสร้างบ้าน โดยบริษัทฯ จะออกบูธในงานมหกรรมบ้านฯ ตามที่สมาคมไทยรับสร้างบ้าน จัดขึ้น รวมถึงออกบูธตามห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ล่าสุด บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมออกบูธในงาน “มหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้าง อุบลราชธานี” ระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน 2560 ที่จะถึงนี้ ณ หอประชุมไพรพะยอม มรภ.อุบลราชธานี จัดโดยสมาคมไทยรับสร้างบ้าน สำหรับผู้บริโภคที่สนใจจะสร้างบ้านหลังใหม่ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร สุรินทร์ ร้อยเอ็ด สามารถแวะมาปรึกษาและชมแบบบ้านสวยกว่า 200 แบบภายในบูธของพีดีเฮ้าส์ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นส่วนลดเงินสดสูงสุด 5 แสนบาท และของแถมอีกมากมาย สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจจองสร้างบ้าน โดยงานนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 70-80 ล้านบาท นายพิศาล กล่าวทิ้งท้าย