- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 13 May 2014 23:07
- Hits: 3962
AP รุกโครงการร่วมทุน'มิตซูบิชิฯ'เล็งหยิบที่ดินทำเลท่าพระพัฒนาเพิ่ม
แนวหน้า : นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือAP เปิดเผยว่า จากการที่ AP ได้ร่วมทุนกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โครงการร่วมกันไปเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2556 ซึ่งตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน เพื่อนำมาผสมผสานในด้านการดีไซน์ แม้จะทำให้มีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่โดยรวมจะไม่ให้ค่าก่อสร้างเกิน 5% และพยายามไม่ปรับราคาขายขึ้น
โดย 3 โครงการดังกล่าว มีมูลค่าโครงการรวม 7,137 ล้านบาท และเป็นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาพัฒนา 1 บริษัทต่อ 1 โครงการ ซึ่ง AP ถือหุ้น 51% มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ถือหุ้น 49% ประกอบด้วย 1.“RHYTHM อโศก II” บนพื้นที่ 1 ไร่ ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท จำนวน 346 หน่วยน (ยูนิต) มูลค่าโครงการ 1,505 ล้านบาท
2.'RHYTHM สุขุมวิท 36-38'บนพื้นที่ 2 ไร่ ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท จำนวน 496 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,850 ล้านบาท และ3.“Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง” บนพื้นที่ 5 ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท จำนวน 1,232 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,782 ล้านบาท จะเปิดตัวพร้อมกันในงาน “RETHINK SPACE” วันที่ 15-18 พฤษภาคม 2557 ที่สยามพารากอน คาดว่าจะทำยอดขายในงานได้ประมาณ 800-850 ล้านบาท
“การร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป เป็นการร่วมทุนกันในระยะยาว ในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพราะมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มองว่าไทยยังมีศักยภาพในการลงทุนอีกมาก ซึ่งขณะนี้มีแผนจะนำที่ดินย่านท่าพระมาพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ Aspire”นายวิทการ กล่าว
ส่วนยอดขายรวมของ AP ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2557 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายและยอดโอนทั้งหมดที่ตั้งไว้ในปี 2557 ที่ 21,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 38% จากปี2556 ที่มียอดขาย 15,000 ล้านบาท โดยในปี 2557 จะพัฒนาโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่ารวม 23,600 ล้านบาท ลงทุนในกรุงเทพฯทั้งหมด แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่ารวม 10,630 ล้านบาท โครงการแนวราบ 13 โครงการ มูลค่า 12,970 ล้านบาท และในปี 2557 ยังได้เตรียมงบในการซื้อที่ดินมากถึง 6,000 ล้านบาท จากปี 2556 ที่ใช้เพียง 4,000 ล้านบาท ในไตรมาสแรกใช้ไปแล้ว 1,000 ล้านบาท