- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 10 May 2017 19:52
- Hits: 14520
นักลงทุนเอเชียหลั่งไหลเข้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ลอนดอน ฮ่องกงเป็นทุนต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนรวมมูลค่าสูงสุดไตรมาสแรกปีนี้
ในไตรมาสแรกของปีนี้ การลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมีมูลค่าพุ่งขึ้นสูงสุดนับจากปี 2558 (คำนวณจากค่าเงินปอนด์) โดยมีทุนเอเชียเข้าซื้ออย่างคึกคัก สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนเอเชียยังคงเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษ แม้จะมีความไม่แน่นอนในหลายประเด็นหลังการประกาศถอนตัวออกจากอียู (BREXIT) ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล
รายงานฉบับดังกล่าวของเจแอลแอลระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ ลอนดอนได้กลับขึ้นมาเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการลงทุนซื้อขายรวมมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับที่หนึ่งของโลก (2.87 แสนล้านบาท) หลังจากที่ล่วงลงไปอยู่ในอันดับที่สามในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
นายเดวิด กรีน-มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย หน่วยธุรกิจบริการด้านการลงทุนของเจแอลแอลกล่าวว่า “จากการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงและราคาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทำให้มีนักลงทุนเอเชีย โดยเฉพาะจากฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ หลั่งไหลเข้าไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมากที่สุดนับตั้งแต่อังกฤษลงประชามติถอนตัวจากอียูเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ทั้งนี้ การอ่อนตัวของค่าเงินปอนด์และราคาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษได้ในราคาที่ถูกลงประมาณ 16% นับจาก BREXIT นอกจากนี้ การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ชั้นดีของลอนดอน ยังให้ผลตอบแทนการลงทุนที่น่าดึงดูดใจมากอีกด้วย”
ในไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา นักลงทุนจากฮ่องกงเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษรวมมูลค่าทั้งสิ้นเกือบ 1.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.94 หมื่นล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2559 โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้ออาคารสำนักงานในลอนดอน
ทั้งนี้ ไม่เฉพาะแต่อังกฤษเท่านั้นที่นักลงทุนเอเชียสนใจ รายงานฉบับเดียวกันของเจแอลแอลเผยว่า สหรัฐฯ เป็นอีกตลาดอสังหาริมทรัพย์หนึ่งที่นักลงทุนเอเชียหลั่งไหลเข้าไปลงทุนซื้อ แม้จะมีความไม่แน่นอนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ
“นักลงทุนเอเชีย โดยเฉพาะจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน นับเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่มีการเข้าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ผ่านมา”นายเดวิด-มอร์แกนกล่าว
อย่างไรก็ดี การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศโดยนักลงทุนจีน มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งแนวโน้มนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปอีก และจะทำให้นักลงทุนจีน ไม่ว่าจะเป็นประเภทสถาบันหรือบุคคลธรรมดา สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างที่มีประเทศได้ยากมากขึ้น เว้นเฉพาะบริษัทจีนที่มีสาขาในต่างประเทศ และสามารถใช้เงินทุนที่บริษัทสาขาหาได้ เพื่อลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศนั้นๆ
เกี่ยวกับเจแอลแอล
เจแอลแอลเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก มีสำนักงานสาขา 300 แห่งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เจแอลแอลเริ่มดำเนินธุรกิจมานับตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ด้วยพนักงานมากกว่า 1,600 คน และมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมอันดับหนึ่งของประเทศไทยติดต่อกันหกปีซ้อน ในการสำรวจความคิดเห็นของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2559 โดยนิตยสารยูโรมันนี (Euromoney Real Estate Survey 2016)