- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 26 April 2017 23:22
- Hits: 13515
S เผยโฉมเฟสแรก เมกะโปรเจกต์ที่ มัลดีฟส์ สิงห์ เอสเตท ลุยจับมือพันธมิตรระดับโลกเนรมิต World Destination
สิงห์ เอสเตท ล่าสุดเนื้อหอมได้รับการทาบทามจาก Café Del Mar ผู้บริหารบีชคลับแนวหน้าของโลกจากเกาะ IBIZA อันโด่งดัง เติมเต็มเมกะโปรเจกต์ที่มัลดีฟส์ เพื่อให้ครบทุกมิติของการท่องเที่ยว ภายหลังได้พันธมิตรโรงแรมดังอย่าง ฮาร์ด ร็อค มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า ตั้งเป้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันอันดับหนึ่งแห่งมหาสมุทรอินเดียที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างนึกถึง
สิงห์ เอสเตท เผยความคืบหน้าโครงการเมกะ โปรเจกต์ ที่มัลดีฟส์ ในเฟสแรกที่จะประกอบด้วย ยอร์ช มารีน่า, ร้านค้ารีเทล, โรงแรม และชายหาดสีขาว ซึ่งมีพันธมิตรระดับโลกให้ความเชื่อมั่นในการร่วมทำธุรกิจมาแล้ว โดยส่วนโรงแรมห้องพักได้ Hard Rock Hotel Group มาร่วมรังสรรค์ ธีมโฮเทลแนวใหม่ซึ่งไม่เคยมีที่ใดมาก่อน
ล่าสุดทางบริษัทได้เซ็นสัญญาบริหารโครงการกับCafé Del Mar เพื่อเติมเต็มความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่จะสามารถรองรับทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน โดยนายฐิติ ทองเบญจมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บมจ. สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการเซ็นสัญญาเพื่อเปิดบีชคลับแห่งใหม่ ภายใต้แบรนด์ Café Del Mar ยิ่งเป็นอีกหนึ่งความคืบหน้า ที่สำคัญของเมกะโปรเจกต์ที่มัลดีฟส์ และจะเป็นอีกหนึ่งสีสันของ มัลดีฟส์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะไม่ยอมพลาด
“สำหรับ Café Del Mar นั้นเป็นบีช คลับที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในหลายๆ ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย สเปน ฮาวาย และอีกหลายแห่งทั่วโลก โดยเรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับของบีช คลับ ส่วนในประเทศมัลดีฟส์ Café Del Mar ถือเป็นบีชคลับสาขา Flagship แห่งแรกในมหาสมุทรอินเดียที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,000 กว่าตารางเมตร ประวัติโดยสังเขป Café’ Del Mar เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 ในเมือง Ibiza ประเทศสเปน และมีสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รวบรวมสีสัน และความสนุกสนานริมทะเลไว้อย่างพร้อมเพรียง ที่สำคัญยังมีจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็หลงใหล คือเป็นบีช คลับ ที่มีการทำเพลงเป็นของตัวเอง มีการสร้างสรรค์ดนตรี แต่งเพลงขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกจัดขึ้น บทเพลงในแต่อัลบั้มคงได้ผ่านหูพวกเรามาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดย DJ ระดับพระกาฬอาทิเช่น Roger Sanchez, DJ Dimitri, Boy George, Paul Oakenfold , และศิลปินระดับโลกอีกมากมาย จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่น่าตื่นเต้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้แฟนเพลงชาวไทยได้กระทบไหล่กับศิลปินเหล่านี้ในอนาคตอีกด้วย”
ด้านนายโดมินิค แซปเปีย ผู้อำนวยการกลุ่ม คาเฟ่ เดล มาร์ กล่าวว่า บีชคลับ ภายใต้แบรนด์ Café del Mar แห่งนี้ เป็นความร่วมมือที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่บมจ.สิงห์ เอสเตท บริษัทชั้นนำ ของประเทศไทยได้ตอบรับเทียบเชิญของเรา ซึ่งจะเป็นความท้าทายของการสร้างบีช คลับ อีกครั้งหนึ่งของเรา โดยได้มีการวางคอนเซ็ปต์ให้บีชคลับบนเกาะแห่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจอันใหม่ของพวกเขาอีกด้วย
“มัลดีฟส์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีความสวยงามของมหาสมุทรอินเดียที่คนทั่วโลกยอมรับ เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ ที่เรามองหา เพื่อที่จะขยายประสบการณ์ Café del Mar ไปสู่ตลาดใหม่ ๆ โดยเราพร้อมที่จะบริการนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยบริการที่ประทับใจ เราจะนำเสนอความสนุกสนานในทุกแง่มุมของวันหยุดอย่างมีรสนิยมตั้งแต่การจัดปาร์ตี้ร่วมกับดีเจชั้นนำ พร้อมด้วย เครื่องดื่ม และอาหารรสเลิศที่ทำในห้องครัวผสมผสานในสไตล์ Wood Fired Cooking พร้อมกับผลิตภัณฑ์อาหารในเครือของสิงห์อยู่ด้วย”
ผู้บริหาร Café Del Mar กล่าวด้วยว่า บีช คลับ ที่มัลดีฟส์แห่งนี้ เป็นส่วนเชื่อมต่อจากยอร์ช มารีน่า รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก โดยจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำริมชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก มีกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านดนตรี ดีเจ ปาร์ตี้ โดยเราเชื่อว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ บีช คลับแห่งนี้จะต้องเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของโครงการเมกะโปรเจกต์นี้ และเป็นสถานที่ๆ ผู้คลั่งไคล้ในเสียงเพลงจะมาใช้เวลาเพื่อซึมซับความสนุกแบบไม่มีวันลืม โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้พร้อมกับการเปิดตัวโครงการในเฟสแรกในปี 2561
ทั้งนี้ ผู้บริหาร สิงห์ เอสเตท นายฐิติ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการเมกะโปรเจกต์นี้อยู่ระหว่างดำเนินการในขั้นต้นของเฟสแรก แต่เราได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรระดับโลก โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการที่รองรับการท่องเที่ยวในทุกๆ ความต้องการ ทั้งในส่วนของที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง การพักผ่อน สีสัน และบันเทิง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในหมู่เกาะมัลดีฟส์ และเชื่อว่าจากความร่วมมือกับผู้มีประสบการณ์อย่าง Hard Rock Hotel Group และ Café Del Mar จะทำให้ทุกคนให้ความสนใจโปรเจกต์นี้ และตั้งตารอวันที่จะได้มาเยือน โดยมีกำหนดการเผยโฉมและรูปแบบให้ทุกคนได้เห็นในเร็วๆ นี้
เกี่ยวกับสิงห์ เอสเตท
บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจและการลงทุนผ่านการซื้อที่ดินในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพภายใต้แนวคิด "Best in Class" ควบคู่ไปกับการลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจหรือทรัพย์สินที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมีเป้าหมายคือ การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ด้วยความประณีต เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่ครบถ้วนทั้งการพักอาศัย พักผ่อน ทำงาน และชอปปิ้ง รวมถึงสร้างการเติบโต และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สิงห์เอสเตท มีสินทรัพย์ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ย่อย และกิจการร่วมค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในธุรกิจหลัก 3 ส่วนคือ ธุรกิจ อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย
ธุรกิจสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก
The Lighthouse
อาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส
โครงการมิกซ์ยูส สิงห์ คอมเพล็กซ์
ธุรกิจที่พักอาศัย
คอนโดมีเนียม The ESSE Asoke
คอนโดมีเนียม The ESSE at Singha Complex
คอนโดมีเนียม บริเวณ ซ.สุขุมวิท 36
โครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ Santiburi Residences
โครงการที่พักอาศัยภายใต้ชื่อ Nirvana
ธุรกิจโรงแรม
โรงแรม Santiburi Beach Resort & Spa, Samui
โรงแรม Phi Phi Island Beach Resort & Spa
กลุ่มโรงแรมในประเทศอังกฤษ 29 แห่ง
โครงการเมกะโปรเจกท์ที่มัลดีฟส์
Singha Estate teams up with leading international partners to create a World Destination in Maldives’ mega-project
World’s number one beach club from Ibiza island 'Café Del Mar' approached Singha Estate Plc and they have agreed to jointly create a one-stop world destination in Maldives. The latest partnership further underlines Singha’s attempt to provide all-round facilities for tourists after it has formed commercial relationships with renowned entertainment brand Hard Rock Hotel Group. The mega project’s first phase will be officially launched next year. Once opened, it is expected to gain attentions from tourists around the world as a top destination in the Indian Ocean.
Singha Estate Plc has revealed the latest progress of its mega project in Maldives which will consist of a yacht marina, retail outlets, a hotel and stunning white sand beach in the first phase. The company has earned trust from leading international firms including Hard Rock which will open a one-of-its-kind theme hotel in the project.
In the latest progress, Singha Estate has teamed up with Café Del Mar, the world’s popular beach club operator whose iconic facilities are located at famous beach destinations around the world. The arrival of Café Del Mar underscores the project’s goal to become a world-class destination with all-round facilities that all groups of tourists ever want.
Commenting on the deal, Mr. Thitti Thongbenchamas, chief investment officer of Singha Estate Plc, said the contract singing with Cafe De Mar was another significant progress of the company’s mega project in Maldives. Cafe De Mar will be the largest beach club ever on any islands which will make it a must-visit destination of every traveler.
“Founded in 1980 in Ibiza in Spain, Café del Mar pioneers unique style of colorful and fun-filled beach clubs around the world located at famous tourist destinations in Australia, Spain and Hawaii. In Maldives, the beach club by Café Del Mar will be a flagship outlet in the Indian Ocean with space of over 5,000 sqm. The club is popular among its fans thanks to its high creativity. They have created their own music which is tailored made for each event or activity. Many of the music creations by celebrity DJs like Roger Sanchez, Dimitri, Boy George and Paul Oakenfold have been familiar among fans. This partnership is a very exciting as it could open a chance for Thai music fans to meet them and enjoy their works in the future,” he added.
Director of Café del Mar group, Domenic Zappia said that the company is pleased that Singha decided to partner with us. “We’re thrilled to be partnering with such a credible group in Thailand as Singha Estate.
“The Maldives location has a range of qualities that are attractive to Café del Mar. It has an amazing climate, a relaxed vacation atmosphere, and a stunning Indian Ocean aspect. It’s the perfect place for us to expand the Café del Mar experience to a new market of inspired travelers.
“We will stay true to our premium, relaxed style of architecture and design, quality food and beverage offering, whilst delivering impeccable service – thus keeping the essence of Café del Mar true to its core,” said Mr. Zappia. “However, new elements such as Wood Fired cooking in our state of the art kitchen enhanced by ingredient by Singha Group is a very exciting new addition”.
The Beach Club in Maldives connected with the yacht marina can accommodate a large number of guests. The pool by the beach will be designed by a world-class designer with unique style. The beach club will offer guests the ability to experience all aspects of a vacation based on their personal tastes especially partying along with leading international DJs. The club will surely be yet another magnet in the mega-project where party-goers who are into music will spend most of their time. The club is expected to open in the first phase by next year.
Singha Estate’s Thitti said that the partnerships with world-renowned companies in various aspects including the accommodations, shopping and entertainment are boosting the project’s profile. This is an unprecedented cooperation in Maldives. With the presence of the famous brands like Hard Rock and Café Del Mar, every tourist will certainly look forward to visiting the project. The company will reveal the first glimpse of this mega-project to the public very soon.
………………………..
About Singha Estate Plc.
Singha Estate PCL is real estate developer focusing in business expansion and investment via land purchases in high-potential locations and quality project development under the “Best in Class” concept in tandem with investment, joint investment, and M&As of businesses or assets with high growth potential. The goal is to achieve its vision of becoming a premier lifestyle developer by crafting quality settings for people to live, play, work, and shop. Relentless investment and business expansion have resulted in Singha Estate today commanding assets under the operation of itself, subsidiaries, and joint-venture companies in and outside Thailand in three core businesses including Commercial, Residential and Hotel.
Commercial
- The Lighthouse
- Suntowers complex
- Singha Complex
Residential
- The ESSE Asoke Condominium
- The ESSE at Singha Complex Condominium
- SKV36 Condominium
- Santiburi Residences
- Residential by Nirvana
Hotel
- Santiburi Beach Resort & Spa, Samui
- Phi Phi Island Beach Resort & Spa
- Group of hotels in UK
- Maldives project
S เซ็นสัญญาบริหารโครงการกับ Café Del Mar เปิดบีช คลับ Flagship แห่งแรกในมัลดีฟท์
นายฐิติ ทองเบญจมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บมจ.สิงห์เอสเตท (S) เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาบริหารโครงการกับ Café Del Mar เพื่อเปิดบีชคลับแห่งใหม่ ภายใต้แบรนด์ Café Del Mar เป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าที่สำคัญของเมกะโปรเจกต์ที่มัลดีฟส์ และจะเป็นอีกหนึ่งสีสันของมัลดีฟส์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะไม่ยอมพลาด
สำหรับ Café Del Mar นั้นเป็นบีช คลับที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในหลายๆ ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย สเปน ฮาวาย และอีกหลายแห่งทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับของบีช คลับ ส่วนในมัลดีฟส์ Café Del Mar ถือเป็นบีชคลับสาขา Flagship แห่งแรกในมหาสมุทรอินเดียที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,000 กว่าตารางเมตร
Café Del Mar เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 ในเมือง Ibiza ประเทศสเปน และมีสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รวบรวมสีสัน และความสนุกสนานริมทะเลไว้อย่างพร้อมเพรียง ที่สำคัญยังมีจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็หลงใหล คือเป็นบีช คลับ ที่มีการทำเพลงเป็นของตัวเอง มีการสร้างสรรค์ดนตรี แต่งเพลงขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกจัดขึ้น โดย DJ ระดับพระกาฬอาทิเช่น Roger Sanchez, DJ Dimitri, Boy George, Paul Oakenfold, และศิลปินระดับโลกอีกมากมาย
นายโดมินิค แซปเปีย ผู้อำนวยการกลุ่ม คาเฟ่ เดล มาร์ กล่าวว่า บีชคลับ ภายใต้แบรนด์ Café del Mar แห่งนี้ เป็นความร่วมมือที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ S ได้ตอบรับเทียบเชิญของบริษัท ซึ่งจะเป็นความท้าทายของการสร้างบีช คลับ อีกครั้งหนึ่ง โดยได้มีการวางคอนเซ็ปต์ให้บีชคลับบนเกาะแห่งนี้ เป็นแรงบันดาลใจอันใหม่ของพวกเขาอีกด้วย
“มัลดีฟส์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีความสวยงามของมหาสมุทรอินเดียที่คนทั่วโลกยอมรับ เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ ที่เรามองหา เพื่อที่จะขยายประสบการณ์ Café del Mar ไปสู่ตลาดใหม่ ๆ โดยเราพร้อมที่จะบริการนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยบริการที่ประทับใจ เราจะนำเสนอความสนุกสนานในทุกแง่มุมของวันหยุดอย่างมีรสนิยมตั้งแต่การจัดปาร์ตี้ร่วมกับดีเจชั้นนำ พร้อมด้วย เครื่องดื่ม และอาหารรสเลิศที่ทำในห้องครัวผสมผสานในสไตล์ Wood Fired Cooking พร้อมกับผลิตภัณฑ์อาหารในเครือของสิงห์อยู่ด้วย"
บีช คลับ ที่มัลดีฟส์แห่งนี้ เป็นส่วนเชื่อมต่อจากยอร์ช มารีน่า รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก โดยจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำริมชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก มีกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านดนตรี ดีเจ ปาร์ตี้ โดยเราเชื่อว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ บีช คลับแห่งนี้จะต้องเป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของโครงการเมกะโปรเจกต์นี้ และเป็นสถานที่ๆ ผู้คลั่งไคล้ในเสียงเพลงจะมาใช้เวลาเพื่อซึมซับความสนุกแบบไม่มีวันลืม โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้พร้อมกับการเปิดตัวโครงการในเฟสแรกในปี 2561
ทั้งนี้ นายฐิติ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการเมกะโปรเจกต์ของ S อยู่ระหว่างดำเนินการในขั้นต้นเฟสแรก แต่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรระดับโลก โดยโครงการนี้จะรองรับการท่องเที่ยวในทุกๆ ความต้องการ ทั้งที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง การพักผ่อน สีสัน และบันเทิง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในหมู่เกาะมัลดีฟส์ และเชื่อว่าจากความร่วมมือกับผู้มีประสบการณ์อย่าง Hard Rock Hotel Group และ Café Del Mar โดยมีกำหนดการเผยโฉมและรูปแบบให้เห็นในเร็วๆ นี้
อินโฟเควสท์