- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 22 September 2016 23:26
- Hits: 6664
สมคิด'สั่งธอส.- ธนารักษ์เร่งหาที่ดินสร้างที่อยู่อาศัยให้คนจน ผุดโครงการบ้านกตัญญู- บ้านสูงอายุ
'สมคิด'สั่งธอส.เร่งหาที่ดินทางรถไฟ-ริมคลองสร้างที่อยู่อาศัยให้คนจน ลุยโครงการบ้านทหาร-ตำรวจให้แล้วเสร็จโดยเร็ว กรมธนารักษ์ ฟากรับนโยบาย ลุยสำรวจพื้นที่สร้างบ้านคนชราจังหวัดละ 1 แห่ง - ราคาไม่เกิน 1 ลบ. ด้านธอส. พร้อมทำโครงการ ดบ.บ้านพิเศษให้ปชช. ที่นำบุพการีมาอยู่อาศัย- มั่นใจ 2 เดือนทำแผนแล้วเสร็จ คาดใช้วงเงินทำโครงการใหม่รวม 5 - 6 หมื่นลบ.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ในวันนี้ว่า นโยบายของพลเอกประยุททธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. คือ ต้องการให้คนไทยทุกคนมีบ้าน ซึ่งพันธกิจหลักของธอส. คือ จะไม่ใช่การปล่อยสินเชื่อเพียงอย่างเดียว แต่จะทำให้คนไทยมีบ้านได้อย่างไร ซึ่งตนได้สั่งการให้ 1. ให้ธอส.ไปหาแนวทางในการสร้างสังคมสูงอายุ 2.โครงการบ้านกตัญญู หรือ นำบุพการีมาอยู่อาศัยด้วยจะให้สิทธิประโยชน์พิเศษ 3.โครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพชุมชนริมคลอง และสองข้างทางรถไฟ และ 4.สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มีบ้าน
“นโยบายของรัฐ คือ ทำอย่างไรให้คนไทยมีบ้าน โดยโครงการที่เราอยากเร่งคือ การผลักดันนโยบายคนสูงวัย เราไม่ได้ต้องการให้คนแก่มาขอสินเชื่อแล้วมีบ้านเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการทำบ้านสังคมผู้สูงอายุ ทำสังคมที่มีคุณภาพเกิดขึ้น เพราะโครงการที่รัฐบาลเร่งผลักดัน คือ การสร้างสังคมผู้สูงอายุตามแนวทางประชารัฐ โดยจะให้ร่วมกับเอกชน ธนารักษ์ และการเคหะแห่งชาติและอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อมาร่วมดำเนินการ”นายสมคิด กล่าว
ส่วนโครงการที่ 2 คือ โครงการบ้านกตัญญู หรือ สนับสนุนให้ประชาชนนำบุพการีมาอาศัยอยู่ด้วย โดยจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งในเรื่องการพิจารณาสินเชื่อ และดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่โครงการที่ 3 คือ ยังต้องการให้ธอส.ร่วมกับธนารักษ์ และการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ในการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่สองข้างทางรถไฟให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีชุมชนริมคลองและสองข้างทางรถไฟที่มีคนจนอาศัยอยู่เยอะ และบางกลุ่มพบว่าไม่มีที่อยู่อาศัย จึงได้ให้ธอส.ไปหาพื้นที่สองข้างทางของที่ดินรถไฟว่ามีบริเวณไหนบ้าง ที่จะดำเนินการสร้างบ้านได้ ซึ่งโครงการของบ้านนั้น อาจจะไม่ใช่การสร้างตอกเสาเข็ม แต่จะเป็นกรณีบ้านที่ที่เคลื่อนย้ายได้ (ไม่มีการลงเสาเข็ม ฉาบด้วยปูน) เพื่อสร้างชีวิตให้ดีกับชุมชนดังกล่าว
สำหรับ โครงการที่ 4 คือ ให้ธอส.เป็นผู้นำในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่มีบ้านหลังแรก เพื่อมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยจะมีการผ่อนคลายเกณฑ์การกู้ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงเร่งสร้างบ้านในกลุ่มของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จะต้องเร่งหาสร้างที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ทหารและตำรวจ และจะต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยจะทำทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นแบบแฟลตให้เช่า เป็นต้น
“ในทุกโครงการให้เวลาธอส.ดำเนินการภายใน 2 เดือนจะต้องเห็น เพราะเราต้องการให้ทุกคนมีบ้านซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คนทุกกลุ่มชั้นมีบ้านเป็นของตนเอง”นายสมคิด กล่าว
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ตนจะสั่งธนารักษ์จังหวัดทุกจังหวัด ไปสำรวจพื้นที่ในแต่ละจังหวัดเพื่อนำเข้าร่วมโครงการสังคมผู้สูงอายุ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 พื้นที่ โดยจะให้เช่าระยะยาวราคาถูก ขณะที่ทหาร ตำรวจจะให้ไปรวบรวมพื้นที่ที่จะดำเนินการว่าต้องการพื้นที่ไหนบ้างและมาเสนอกับกรมธนารักษ์เพื่อดำเนินการต่อ ในขณะที่พื้นที่ริมคลอง สองข้างทางรถไฟ ซึ่งเป็นโครงการที่ปัจจุบันกรมฯดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งกรมฯได้เข้าไปร่วมพัฒนาและปรับปรุงให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งในครั้งนี้ได้นำธอส.เข้ามาร่วมดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือในการกู้เงินเพื่อสร้าง ซ่อมแซม และปรับปรุง
“ในส่วนของโครงการบ้านผู้สูงอายุนั้น ยืนยันว่าจะเป็นบ้านคุณภาพสูงราคาต่ำ โดยราคาเราไม่อยากให้เกิน 1 ล้านบาท หรืออยากให้อยู่ที่ประมาณ 600,000-700,000 บาท”นายจักรกฤศฎิ์ กล่าว
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธอส.พร้อมสนองนโยบายของรัฐบาลทั้ง 4 โครงการที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีบ้าน โดยเฉพาะโครงการสร้างสังคมผู้สูงอายุ เพื่อรองรับกับประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมคนชรา โดยจะหาแนวทางในการดำเนินการว่าจะทำอย่างไรได้บ้า ง ขณะที่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส ที่ปัจจุบันรุกล้ำพื้นที่ริมคลอง สองข้างทางรถไฟว่าจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยคาดว่าจะใช้วงเงินทั้งสิ้น 50,000-60,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน โครงการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ หรือคนไทยมีบ้านหลังแรก โดยจะมีการปรับปรุงแพ็คเกจทั้งในเรื่องของการพิจารณาเกณฑ์ การให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสินเชื่อพิเศษ และโครงการที่สำคัญอีกโครงการ คือ โครงการบ้านกตัญญูซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งกำหนดว่าหากประชาชนที่กู้ซื้อบ้าน และนำบุพการีมาอาศัยร่วมอยู่ด้วย จะพิจารณาสินเชื่อให้ก่อน และให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ นอกจากนี้เมื่อผ่อนชำระจะลดเงินต้นให้ด้วย เช่น หากผ่อนชำระต่อเนื่องเป็นปกติ จะลดเงินต้นลงล้านละ 20,000 บาท เช่นเมื่อผ่อนชำระไปแล้ว 3 ปี เหลือเงินต้น 900,000 บาท จะลดเงินต้นให้ทันที 20,000 บาท เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย