- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 22 July 2014 17:27
- Hits: 3076
บุรีธาราฯโฟกัสเพื่อนบ้านขยายลงทุนคอนโดสไตล์รีสอร์ท
บ้านเมือง : บุรีธาราฯ เดินหน้าสยายปีกธุรกิจอสังหาฯ ปักธงเน้นทำเลเมืองท่องเที่ยว หวังเจาะกลุ่มนักลงทุน พร้อมประกาศปลายปี 58 เล็งขยายการลงทุนคอนโดฯ สไตล์รีสอร์ท "เมืองย่างกุ้งหลวงพระบาง" หลังแนวโน้มการท่องเที่ยวในพม่า-ลาวขยายตัวสูง โดยเฉพาะพม่า ที่เพิ่งเปิดประเทศส่งผลการท่องเที่ยวยังสด ทรัพยากรจำนวนมากดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างดี แจง 2 แนวทางการลงทุน ร่วมทุน 1 ร่วมทุน 3 กลุ่ม ไทย-ญี่ปุ่นพม่าเจ้าของที่ดิน หรือร่วมทุนเฉพาะไทย-ญี่ปุ่น ซื้อที่ดินพัฒนาโครงการเอง
นายธิติ ชินสมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บุรีธารา กรุ๊ป เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้เห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รีสอร์ตคอนโดเพื่อการลงทุน เจาะกลุ่มลูกค้านักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งในปี 2556 ได้เริ่มพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ บุรีธารา รีสอร์ตคอนโด จอมเทียน (พัทยา) จำนวน 514 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน นอกเหนือจากการเป็นเจ้าของรีสอร์ตคอนโด กับโครงการรับฝาก-เช่าห้อง ด้วยการบริหารจัดการให้ในลักษณะของระบบการบริหารการจัดการแบบมาตรฐานโรงแรม (Hospitality Management) โดยการันตีรายได้ 5% ต่อปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าต้องการจะให้บริษัทฯ บริหารการเช่าให้หรือไม่ หรือต้องการอยู่เอง โดยนักลงทุนไม่ต้องหาผู้เช่าเอง ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในโครงการที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงมีแผนขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 จะมีประชากรและนักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสการลงทุนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะรองรับตลาดกลุ่มนี้ เนื่องจากจังหวัดชลบุรีมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และการศึกษาของภาคตะวันออก มีจำนวนประชากร และนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยขยายตัวตามไปด้วยเริ่มจากไตรมาสแรกปี 2557 ด้วยการลงทุนพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ โครงการ "บุรีธารา ชาโตว์ รีสอร์ตคอนโด บางแสน" มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท บนทำเลทองเมืองแสนสุข ติด ม.บูรพา และห่างจากชายหาดบางแสนเพียง 200 เมตร
สำหรับ โครงการ บุรีธารา ชาโตว์ รีสอร์ตคอนโด บางแสน เป็นรีสอร์ตคอนโดระดับไฮเอนด์ พัฒนาขึ้นภายใต้ คอนเซ็ปต์ "ResortCondo" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-1-36 ไร่ คอนโดมิเนียม Low Rise แบบอาคารชุดพักอาศัย และส่วนพาณิชย์สูง 6 ชั้น 1 อาคาร ประกอบด้วย ชั้น 1 เป็นบริเวณ Lobby สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นสระน้ำ มุมนั่งเล่น มุมพักผ่อน ชั้น 1-6 ห้องพักอาศัย โดยห้องพักอาศัย มีทั้งหมด132 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 34-47 ตร.ม. (Standard), และ 60, 94 ตร.ม. (Suite) เปิดราคาขายเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท
นายธิติ กล่าวยอมรับว่า ภาพรวมของโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทย มีการลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งค่อนข้างโอเวอร์ซัพพลาย ขณะที่ดีมานด์ก็เริ่มชะลอลงจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ที่เลือกลงทุนเพราะมีข้อได้เปรียบเรื่องศักยภาพของทำเลซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่ดีที่สุดอีกทำเลหนึ่งของเมืองแสนสุข นอกจากนี้การคมนาคมยังสะดวกสบาย สามารถเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว "บุรีธารา ชาโตว์ รีสอร์ตคอนโด บางแสน" จึงเน้นกลุ่มลูกค้านักลงทุน กับอีก
หนึ่งทางเลือกที่นอกเหนือจากการเป็นเจ้าของรีสอร์ตคอนโดพร้อมอยู่ กับโครงการรับฝาก-เช่าห้องด้วยการบริหารจัดการให้ในลักษณะของระบบการบริหารการจัดการแบบมาตรฐานโรงแรม (Hospitality Management) โดยการันตีรายได้ 5% ต่อปี ของยอดเงินที่ชำระจริง ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าต้องการจะให้บริษัทฯ บริหารการเช่าให้หรือไม่ หรือต้องการอยู่เอง โดยนักลงทุนไม่ต้องหาผู้เช่าเอง และด้วยการบริหารการจัดการแบบมาตรฐานโรงแรม (Hospitality Management) นี้เอง
นายธิติ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2558 ว่า ในไตรมาส 4/58 มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ และเมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เนื่องจากมองว่าเมืองหลวงเดิมของทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยแนวโน้มความเป็นไปได้จะเข้าไปลงทุนในเมืองย่างกุ้งก่อนมากกว่า เนื่องจากเมียร์นมาร์เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน จึงมีนักลงทุนให้ความสนใจเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีทรัพยากรมากมาย โดยไม่ได้มองถึงเรื่องการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 แต่อย่างใด
โดยในเบื้องต้นได้มีการเจรจากับเจ้าของที่ดินซึ่งดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และเป็นแลนด์ลอร์ดใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง บ้างแล้ว โดยเจ้าของที่ดินนั้นมีความต้องการที่จะให้บริษัทฯ เข้าไปพัฒนา ในขณะที่บริษัทฯ เองก็ต้องการให้เจ้าของที่ดินพัฒนาเองและบริษัทฯ เข้าไปบริหารมากกว่า
ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนในการพัฒนา ก็อาจจะมี 2 ทางเลือกในการร่วมทุน ก็การร่วมทุน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบุรีธาราฯ, กลุ่มเมียนมาร์ และกลุ่มนักธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการร่วมกัน หรืออีก 1 ทางเลือกคือ กลุ่มบุรีธารา ร่วมทุนกับกลุ่มญี่ปุ่น ซื้อที่ดินจากกลุ่มเมียร์นมาร์ มาพัฒนาเอง โดยอาจจะใช้เม็ดเงินในการลงทุนรายละประมาณ 300 ล้านบาท ความคืบหน้าอยู่ในระหว่างการศึกษาตลาดและข้อมูลเรื่องกฎหมายในการเคลื่อนย้ายเงินลงทุน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
"ที่ผ่านมาเมียนมาร์ ยังไม่มีการพัฒนาโครงการในรูปแบบคอนโดมิเนียมอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่เจ้าของที่ดินจะพัฒนาเป็นอพาร์ตเมนต์ สูง 7-8 ชั้น หรือร่วมทุนกับพันธมิตรและพัฒนามากกว่า ส่วนโรงแรมระดับ 5 ดาวก็ยังแทบจะไม่มีเลย ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ 2 ดาวขึ้นไป ราคาอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ/คืนขึ้นไป ขณะที่โรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 300 เหรียญสหรัฐขึ้นไป"
สำหรับ ในอนาคต บริษัทฯ ไม่ได้มองการลงทุนในต่างประเทศเพียงแค่เมียนมาร์และ สปป.ลาว แต่หากประเทศไหนมีศักยภาพภาพในการลงทุนและบริหารงานง่าย รวมไปถึงมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุนท้องถิ่น ก็สนใจที่จะเข้าไปลงทุนเช่นกัน อาทิ ญี่ปุ่น เพราะบริษัทฯ มีสายสัมพันธ์กับนักลงทุนท้องถิ่นมาช้านาน
นายฐิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตประมาณไตรมาส 4/58 ยังสนใจที่จะนำ บริษัท บุรีธารา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 5 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการเงิน คาดว่าก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ คงต้องมีการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ใหม่อีกครั้ง และจะต้องมียอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้รวมทั้งกลุ่มที่ประมาณ 160 ล้านบาท แต่ในปี 2557 จะมีการรับรู้รายได้รวมที่ 550 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากคอนโดมิเนียม 300 ล้านบาท และโรงแรม 250 ล้านบาท