- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 04 February 2016 19:34
- Hits: 3572
มั่นคงฯ รุกตลาดอสังหาฯแนวราบต่อเนื่อง คาดการณ์รายได้โต 60% หลังปรับภาพลักษณ์ ตั้งเป้ารายได้ 4,100 ล้านบาทในปี’59
มั่นคงโชว์ผลงานปี 58 ภายใต้การปรับภาพลักษณ์ใหม่ สร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดการณ์รายได้ 3,800 ล้านบาท พร้อมลุยต่อตลาดแนวราบ ตั้งเป้ารายได้ 4,100 ล้านบาท ปี’59 ชูไฮไลท์บ้านแบรนด์ ‘ชวนชื่น แกรนด์’ระดับราคา 8-10 ล้านบาท และส่งทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝดระดับราคา 2-4 ล้านบาทลงทำเลทองที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ รวมมูลค่าโครงการใหม่กว่า 3,200 ล้านบาท เผยกลยุทธ์ก้าวอย่างมั่นคงและเติบโตยั่งยืน มุ่งสร้างแบรนด์ พัฒนาโปรดักส์และซีอาร์เอ็มมัดใจลูกค้าเก่า-ใหม่ เตรียมดันรายได้ธุรกิจอสังหาฯเพื่อเช่าและบริการโตเพิ่ม พร้อมปูกลยุทธ์มุ่งปรับสัดส่วนรายได้ธุรกิจอสังหาฯเพื่อการขายและธุรกิจเพื่อให้เช่าและการบริการ 50:50 ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า “ในปี 2558 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2,500 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ รุกแคมเปญการขาย และมาตรการรัฐในไตรมาส 4 ดันคาดการณ์รายได้ 3,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการขายที่ประสบความสำเร็จของโครงการคอนโดมิเนียมออกัสที่ขายและโอนได้100% ผนวกการขายที่ดินเพื่อปรับพอร์ตโครงการของมั่นคง ทั้งนี้ มั่นคงใช้กลยุทธ์การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของภายใต้แนวคิดหลักคือ “เราสร้างบ้านที่มีแต่ความสุข ให้ทุกคนได้อยู่ร่วมกัน(We Build A Place of Family Togetherness) เพราะบ้านคือศูนย์กลางของครอบครัว เป็นที่สำหรับทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด และมีแต่ความอบอุ่น ซึ่งวัตถุประสงค์ของการปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้สอดคล้องกับการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทในการมุ่งเป็นแบรนด์บ้านที่เป็นทางเลือกที่ดี คุ้มค่าคุ้มราคา มีความน่าเชื่อถือและตรงกับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมมีการปรับดีไซน์บ้านให้มีความร่วมสมัย ตลอดจนเติมความมีชีวิตชีวาให้กับภูมิทัศน์ของแต่ละโครงการของบริษัทภายใต้คอนเซ็บต์การปรับภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด”
“ในปี 2558 คาดการณ์รายได้เติบโตที่ 60% จากปี 2557 และในปี 2559 นับเป็นการเริ่มก้าวสำคัญของมั่นคงโฉมใหม่ ซึ่งได้วางกลยุทธ์การเติบโตด้วยแผนรุกทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและการบริการ โดยตั้งเป้าผลักดันทั้งสองธุรกิจมีสัดส่วนรายได้ 50:50 ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายจะรุกตลาดแนวราบเป็นหลัก และมุ่งเน้นพัฒนาระดับ
โครงการที่เรามีความเชี่ยวชาญ และบริหารสัดส่วนรายได้อสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายให้อยู่ระดับการเติบโตประมาณ 15% ต่อปี สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและการบริการนั้นคาดจะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ในเขตปลอดอากรเเละเขตทั่วไป (บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด) และมีแผนการพัฒนาโครงการพาร์ค คอร์ท (Park Court) ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์เจาะตลาดบนและกลุ่มต่างชาติ ที่จะเข้ามาเพิ่มรายได้ระยะยาว โดยเราตั้งเป้ารายได้ 4,100 ล้านบาทภายในปี 2559” นายสุเทพกล่าวเสริม
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาโครงการของบริษัทในปี 2559 นี้ว่า “บริษัทเตรียมส่งโครงการบ้านคุณภาพทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ากว่า 3,200 ล้านบาท ด้วยการส่งโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางบน แบรนด์ “ชวนชื่น แกรนด์” คือ โครงการชวนชื่น แกรนด์ ราชพฤกษ์ ราคา 8-10 ล้านบาท จำนวน 110 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และ โครงการชวนชื่น แกรนด์ เอกชัย-บางบอน 4 ราคา 8-10 ล้านบาท จำนวน 91 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท โดยทั้งสองโครงการนี้จะเปิดตัวภายในไตรมาส 2/59 และหลังจากนั้นในช่วงไตรมาส 4/59 บริษัทฯจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 2 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการละ 500 ล้านบาท บริเวณกรุงเทพโซนตะวันตก และบ้านแฝดระดับราคา 4-5 ล้าน จำนวน 100 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 500 ล้าน”
“กลยุทธ์ทางด้านการพัฒนาโครงการแนวราบนั้น จะยังคงพิจารณาในพื้นที่ทำเลทองที่อยู่ใกล้กับระบบขนส่งมวลชน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และจะพัฒนาโครงการ 40% บนแลนด์แบงค์เพื่อเป็นการจัดการต้นทุน นอกจากนั้น ยังมีการลงทุนอีก 1,000 ล้านบาทเพื่อที่จะซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการเพิ่มสำหรับภายในปี 2559-2560 ทั้งนี้ ตอนนี้มี backlog อยู่ที่ 500 ล้านบาท คาดว่าจะหมดภายในปีนี้ ที่บริษัทรุกตลาดแนวราบเนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตต่อเนื่องและเป็นตลาดที่เรามีความเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดบ้านที่ซื้อขายได้ในระดับราคา 2-4.9 ล้านบาท ตลาดกลางระดับราคา 5-7 ล้านบาท และระดับกลางบนระดับราคา 8-10 ล้าน นอกจากนั้นยังมีอานิสงค์ของการขยายตัวของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เมืองมีการขยายตัวและการเดินทางไปที่ต่างๆ มีความสะดวกขึ้น” นายวรสิทธิ์ กล่าวสรุป