- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 03 February 2016 23:11
- Hits: 3999
PF ผนึก GRAND เป็นกลุ่มบริษัท จัดพอร์ตการลงทุนที่อยู่อาศัยและโรงแรม
'พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค'ผนึก 'แกรนด์ แอสเซท'วางโครงสร้างเป็นกลุ่มบริษัท ขยายการลงทุนทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม วางแผนเพิ่มทั้งจำนวนโรงแรมและห้องพัก ด้านเป้าขายโครงการปี 59 วางไว้ 16,000 ล้าน เปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่า 24,041 ล้าน ส่วนรายได้คาดปีนี้จะทำได้ 17,500 ล้าน และรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงแรมอีก 2,500 ล้าน รวมเป็น 20,000 ล้าน
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ และ นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการเงิน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) ร่วมด้วย นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาววิลาวัณย์ เหลืองนาคทองดี กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเซท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (GRAND) ร่วมกันแถลงถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจ โดย นายชายนิด เผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ปีนี้มีปัจจัยที่เป็นผลบวกมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดการณ์ว่าครึ่งปีแรกสินค้าระดับล่างและระดับกลางจะเติบโตจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐ ในครึ่งปีหลังซึ่งการลงทุนภาครัฐมีความชัดเจนขึ้น จะเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจมีการขยายตัว ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นการแข่งขันกันของผู้ประกอบการรายใหญ่ ระหว่างรายเดิมและรายใหม่ที่มีความพร้อมทั้งแลนด์แบงค์และเงินทุน สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในอนาคต จะต้องมีการลดความผันผวนของรายได้ ด้วยการลงทุนในธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอ มีการร่วมทุนกับพันธมิตรระหว่างประเทศ และมีความร่วมมือผนึกกำลังข้ามธุรกิจ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขัน
ในปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผน turnaround ผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตต่อเนื่อง และมีแผนพัฒนาธุรกิจโรงแรมอย่างชัดเจน สำหรับธุรกิจโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น บริษัทได้มีการปรับปรุง “คิโรโระ รีสอร์ท” ให้ได้ระดับมาตรฐานโลก ภายใต้แบรนด์ “เชอราตัน ฮอกไกโด คิโรโระ รีสอร์ท” และ “คิโรโระ ทริบิวท์ พอร์ตโฟลิโอ” โดยการบริหารของกลุ่มสตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท พร้อมร่วมมือกับ “เอ็นแซดสกี” ผู้ให้บริการด้านสกีชั้นนำจากนิวซีแลนด์ เข้ามาปรับปรุงบริการด้านสกีพร้อมกัน ล่าสุด “คิโรโระ รีสอร์ท” ยังได้รับการประกาศให้เป็น Best of the World 2016 หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดเยี่ยมของโลก ปี 2016 จากนิตยสาร National Geographic ด้วย
บริษัทฯ ยังได้จัดวางโครงสร้างการลงทุนที่ชัดเจนในธุรกิจโรงแรมภายใต้ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ หรือ GRAND ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทฯ โดยมี นายไพสิฐ แก่นจันทน์ ผู้บริหารใหม่ ที่มีประสบการณ์กว้างขวางในธุรกิจโรงแรมเข้ามาเสริมทัพ สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ GRAND นั้น นายไพสิฐ เปิดเผยว่า ได้วางเป้าหมายการเป็นบริษัทบริหารโรงแรมชั้นนำ โดยมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนโรงแรมและห้องพัก นอกจากนี้ยังจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ อาทิ โครงการแบบมิกซ์ยูสเป็นที่อยู่อาศัยและโรงแรมหรือรีสอร์ท, โครงการพักอาศัยประเภท Hotels & Branded Residences, โครงการพักอาศัยสำหรับคนวัยเกษียณโดยเน้นกลุ่มต่างชาติ และ ที่พักวันหยุดแบบไทม์แชร์ (Time Share) เป็นต้น GRAND ยังมีแผนพลิกให้กลับมามีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ปรับปรุงโครงสร้างต้นทุน รวมทั้งการลดต้นทุนเงินทุน ปัจจุบัน GRAND มีคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ ไฮด์ สุขุมวิท 11 และ ไฮด์ สุขุมวิท 13 และธุรกิจโรงแรม 4 แห่ง รวม 930 ห้องพัก ได้แก่ เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดย GRAND มีความร่วมมืออันดีกับกลุ่มสตาร์วูด ซึ่งจะควบรวมกับกลุ่มแมริออท และกลายเป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับ แผนธุรกิจของ PF นายวงศกรณ์ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้วางไว้ที่ 16,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 9,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอีก 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มียอดขาย 11,000 ล้านบาท มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการ รวมมูลค่า 24,041 ล้านบาท ซึ่งยังคงเน้นโครงการแนวราบ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 12 โครงการ มูลค่า 16,814 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 7,200 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในครึ่งปีแรก 4 โครงการ และครึ่งปีหลังอีก 13 โครงการ ปีนี้โครงการของบริษัทยังได้รับผลโดยตรงจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งมีโครงการที่อยู่บนแนวรถไฟฟ้าดังกล่าวถึง 14 โครงการ มีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ได้แก่ การเปิด Too Fast to Sleep ร้านกาแฟคอนเซปท์ใหม่แห่งใหม่ สำหรับนักศึกษาและหนุ่มสาวย่านศาลายา ที่โครงการ ‘ไอคอนโด ศาลายา เดอะ แคมปัส’ เพื่อตอบรับกับความต้องการในเชิงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า
ในส่วนสถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท นางสาวศิริรัตน์ เปิดเผยว่า ปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 11,956 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 6,650 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 3,151 ล้านบาท การขายที่ดิน 500 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรม 1,655 ล้านบาท ในปีนี้ บริษัทคาดจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีรายได้จากโครงการแนวราบ 9,000 ล้านบาท จากโครงการคอนโดมิเนียม 7,500 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็น Backlog 4,775 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 1,000 ล้านบาท และคอนโด 3,775 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีรายได้จากการขายที่ดิน 1,000 ล้านบาท และจากธุรกิจโรงแรมอีก 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท
บริษัทยังมีนโยบายในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพื่อปรับเรตติ้งของบริษัทให้ดีขึ้น มีแผนจัดตั้ง REIT ในส่วนของกิจการ Hospitalities และจะบริหารจัดการอัตราส่วนระหว่างแหล่งเงินทุนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยจ่ายให้ลดลง รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารให้มีประสิทธิภาพ สำหรับข้อมูลทางการเงินของกลุ่มบริษัท ประมาณการ ณ สิ้นปี 2559 จะมีมูลค่าสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 46,500 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 15,500 ล้านบาท ในขณะที่อัตราภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 1.54 เท่า
PF ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 2 หมื่นลบ. หลังได้ธุรกิจโรงแรมหนุน เปิด 17 โครงการใหม่มูลค่า 2.4 หมื่นลบ.
วันนี้กลุ่ม บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) :(PF) ได้แก่ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)หรือ PF และ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ GRAND ได้ร่วมกันแถลงข่าวแผนธุรกิจปี 2559ของกลุ่ม PF นำทีมโดย นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PF และนายไพสิฐ แก่นจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GRAND ร่วมกันให้ข้อมูล
PF และ GRAND วางโครงสร้างเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน ทำให้ทั้งกลุ่มมีโครงสร้างรายได้มาจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และธุรกิจโรงแรม
คาดปี 58 กลุ่ม PF มีรายได้ 1.19 หมื่นลบ.พลาดเป้าซึ่งตั้งไว้ที่ 1.5 หมื่นลบ.แบ่งเป็นรายได้แนวราบ 6.65 พันลบ. คอนโดฯ 3.15 พันลบ.ขายที่ดิน 500 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรม 1.65 พันลบ.
ตั้งเป้าปี 59 กลุ่ม PF มีรายได้ 2.0 หมื่นลบ.เติบโต 67% จากปี 58 เป็นรายได้แนวราบ 9 พัน ลบ. คอนโดฯ 7.5 พันลบ.ขายที่ดิน 1 พันลบ.และธุรกิจโรงแรม 2.5 พันลบ. ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปีนี้ 10% กำไรขั้นต้น 33-34% สูงกว่าปีก่อนมาก
ด้าน Backlog ล่าสุดที่ 6.6 พันลบ. รับรู้รายได้ 2 ปี (59-60) แบ่งเป็นแนวราบ 1 พันลบ.รับรู้รายได้หมดปีนี้ และคอนโด 5.6 พันลบ.ทยอยรับรู้ปีนี้-ปี 60
เป้ายอดขาย ปีนี้ 1.6 หมื่นลบ. โต 45% จากปี 58 ที่มียอดขาย 1.1 หมื่นลบ.แบ่งเป็นแนวราบ 9 พันลบ. และคอนโดฯ 7 พันลบ. จะเปิด 17 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2.40 หมื่นลบ. เน้นแนวราบแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 12 โครงการ มูลค่า 1.68 หมื่นลบ.และคอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่า 7.2 พันลบ.
ปีนี้จะจับมือพาร์ทเนอร์ไทย หรือ ญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนทำโรงแรม-คอนโดฯ มูลค่า 2 หมื่นลบ. สรุปครึ่งแรกปีนี้ หวังถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% โดยพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่นใหญ่ติด 1 ใน 3 ของบริษัทอสังหาฯ ส่วนในไทยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้น
ส่วนงบซื้อที่ดินของ PF ปีนี้ 3 พันลบ.ด้าน GRAND ตั้งไว้ 6 พันลบ.แบ่งเป็นซื้อที่ดิน 2 พันลบ.เพื่อพัฒนาคอนโดฯ มีมูลค่าโครงการ 4 พันลบ. และสร้างโรงแรม 2 แห่ง มูลค่า 2.4 พันลบ. เล็งซื้อที่ดินบริเวณ ภูเก็ต ระยอง กระบี่ เชียงใหม่
PF มีแผนจะลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้เหลือ 1.54 เท่าในสิ้นปีนี้ จาก 2.68 เท่า ในงวด 9 เดือนปีก่อน พร้อมคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ PF จะมีมูลค่าสินทรัพย์ 4.65 หมื่นลบ. ส่วนของผู้ถือหุ้น 1.55 หมื่นลบ.
ทางกลุ่มมีแผนตั้งกอง REIT ในปลายปีนี้ ทยอยขายสินทรัพย์ประเภทโรงแรมทั้งของ PF และ GRAND เข้ากองทุนร่วม 1 หมื่นลบ. ขนาดกองทุนปีแรก 2 พันลบ. คาดยื่นไฟลิ่งปลายปี 59 เข้าเทรดปี 59 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน
GRAND มั่นใจปีนี้จะพลิกมีกำไร ตั้งเป้ารายได้จากโรงแรมโต 10% รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar)เพิ่ม 7-8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือประมาณ 3 พันบาท/คืน และอัตราการเข้าพัก 80% เพิ่มขึ้นจากปี 58 ที่ 70%
ราคาหุ้น PF ปิดตลาดภาคเช้าที่ 0.78 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2.45 ล้านบาท ส่วน GRAND ปิดที่ 0.81 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 1.25% มูลค่าการซื้อขาย 0.21 ล้านบาท
กลุ่ม PF ดำเนินการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว โครงการทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝด และโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบที่หลากหลายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก โดยเน้นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง ใกล้แนวรถไฟฟ้า ล่าสุดขยายการลงทุนสู่ธุรกิจโรงแรม หลังเข้าซื้อกิจการ บริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TPROP และ TPROP ถือหุ้นใน GRAND
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
PF เจรจาพันธมิตรไทย-ญี่ปุ่นเพื่อร่วมทุนพัฒนาธุรกิจ คาดสรุป H1/59
นายชายนิด อรรถยาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร๊อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรญี่ปุ่นรายใหญ่ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น และบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทย เพื่อร่วมทุนในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม หรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และโรงแรม ในศรีราชา จ.ชลบุรี และย่านรามอินทราใน กทม.มูลค่าโครงการทั้งหมดราว 2 หมื่นล้านบาท บริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการตัดสินใจภายในครึ่งแรกของปีนี้
"เราจะตัดสินใจร่วมลงทุนกับพันธมิตรรายใดรายหนึ่ง และการตัดสินใจพัฒนาโครงการอย่างน้อย 1 โครงการแรก ภายในครึ่งปีแรกของปี 59 ซึ่งการร่วมทุนบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 40%"นายชายนิด กล่าว
พร้อมกันนั้น บริษัทวางแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในช่วงปลายปีนี้ มูลค่าไม่เกิน 2 พันล้านบาท โดยจะนำโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าประเภทโรงแรมทั้งของ PF และบมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ขายให้เป็นสินทรัพย์ของกอง REIT
หลังจากจัดตั้งกอง REIT ดังกล่าวแล้วเสร็จ บริษัทก็จะวางแผนขยายขนาดกองปีละ 2-3 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงแรม 4-5 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถนำขายเข้าเป็นสินทรัพย์ของกอง REIT ได้อย่างต่อเนื่อง
นายชายนิด กล่าวอีกว่า บริษัทยังเตรียมการออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน ต.ค.นี้ วงเงินประมาณ 2.4 พันล้านบาท โดยคาดว่าหุ้นกู้ชุดใหม่จะออกและเสนอขายได้ในช่วงเดือน ก.ค.59 นี้มูลค่า 2.4 พันล้านบาท อายุ 2.5 ปี โดยสาเหตุที่กำหนดอายุหุ้นกู้ชุดใหม่สั้นลง เนื่องจากบริษัทต้องการลดต้นทุนทางการเงินเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้ดีขึ้น
PF ตั้งเป้าปี 59 ยอดขาย-รายได้โตกระโดด เปิด 17 โครงการใหม่เน้นแนวราบ
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พร๊อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 9 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นอกจากนี้บริษัทมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังเน้นเปิดโครงการแนวราบ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.68 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 7.2 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีแรก 4 โครงการ และครึ่งปีหลังอีก 13 โครงการ
"ปีนี้โครงการของบริษัทยังได้รับผลดีโดยตรงจากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งมีโครงการที่อยู่บนแนวรถไฟฟ้าถึง 14 โครงการ นอกจากนี้เราได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ได้แก่ การเปิด Too Fast to Sleep ร้านกาแฟคอนเซปท์ใหม่สำหรับนักศึกษาและหนุ่มสาวย่านศาลายา ที่โครงการไอคอนโด ศาลายา เดอะแคมปัส เพื่อตอบรับกับความต้องการในเชิงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า"นายชายนิด กล่าว
ส่วนรายได้รวมปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 67% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ในปีนี้จะมาจากรายได้จากการขายโครงการแนวราบ 9 พันล้านบาท รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 7.5 พันล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นยอดขายรอโอน (Backlog) 4.77 พันล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 1 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3.77 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีรายได้จากการขายที่ดิน 2 แปลง มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท และรายได้จากธุรกิจโรงแรมอีก 2.5 พันล้านบาท ทำให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย และอยู่ระหว่างเจรจาขายหอพักนักศึกษา ยูนิลอฟท์ เชียงใหม่ มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะได้สามารถขายได้ภายในปีนี้ ขณะที่ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินใหม่ไม่เกิน 3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้ไป 2.5 พันล้านบาท
สำหรับ อัตรากำไรสุทธิของบริษัทในปี 59 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10% จากปี 58 คาดว่าอยู่ที่ 10% และอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33-34% จากปีก่อนที่ 31% จากการที่บริษัทพยายามลดต้นทุนต่างๆลง และเป็นการเติบโตขึ้นตามผลการดำเนินงานที่บริษัทได้วางเป้าหมายให้เติบโตขึ้น ประกอบกับการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ในปีนี้ จะสามารถช่วยให้บริษัทกลับมามีผลการดำเนินงานที่โดเด่นขึ้นในปีนี้
"ในปีนี้บริษัทมีแผน Turnaround ผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตต่อเนื่อง และมีแผนพัฒนาธุรกิจโรงแรมอย่างชัดเจน อีกทั้งเรายังมีนโยบายในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการเพื่อปรับเรตติ้งของบริษัทให้ดีขึ้น มีแผนจัดตั้ง REIT ในส่วนของกิจการ Hospitalities และบริหารจัดการอัตราส่วนระหว่างแหล่งเงินทุนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อปรับอัตราส่วนเอกเบี้ยจ่าย รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารให้มีประสิทธิภาพ"นายชายนิด กล่าว
ด้านแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศปีนี้มองว่ามีปัจจัยบวกมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าครึ่งปีแรกสินค้าระดับล่างและระดับกลางจะเติบโตจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของภาครัฐ ส่วนในครึ่งปีหลังซึ่งการลงทุนภาครัฐมีความชัดเจนขึ้น ทำให้มีโอกาสช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวขึ้นได้
อินโฟเควสท์