WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1 2559

รายงานภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2558 และแนวโน้มปี 2559

โดย สมาคมไทยรับสร้างบ้าน

  หากย้อนมองเมื่อช่วงก้าวสู่ศักราชใหม่ปีมะแม บรรดาผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ต่างมีความหวังกันว่าบรรยากาศทางการเมืองที่สงบลง จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและพลิกฟื้นกำลังซื้อให้กลับคืนมา รวมทั้งตัวเลขประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจประเทศปี 58 จะมีอนาคตสดใสกว่าปีที่ผ่านมา แต่ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปและก้าวเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2-3 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศกลับไม่เป็นดังที่คาดไว้ ตัวเลขและกราฟแสดงผลด้านเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มดิ่งหัวลง เช่นเดียวกับภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ผนวกกับเหตุระเบิดรุนแรงจากภัยก่อการร้ายที่เกิดขึ้นกลางกรุงเมื่อเดือนสิงหาคมปี 58 ได้ซ้ำเติมให้ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภควูบหาย ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศปี 2558 ที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้

มูลค่าตลาดปี 58   

      สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Builders Association: THBA) ประมาณการภาพรวมปริมาณและมูลค่า “บ้านสร้างเอง” ทั่วประเทศปี 2558 คาดว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 6 หมื่นหน่วยเศษ (เฉลี่ยหน่วยละ 1.4 ล้านบาท) จากเดิมเคยคาดการณ์ไว้มูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็นมูลค่าที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 20 โดยตลาดบ้านสร้างเองผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงเลือกว่าจ้าง “ผู้รับเหมารายย่อย” เป็นผู้ก่อสร้างบ้านมากกว่าว่าจ้าง “บริษัทรับสร้างบ้าน” เหตุผลเป็นเพราะ ประการแรกผู้บริโภคในต่างจังหวัดยังเข้าไม่ถึงการให้บริการของผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ประการที่ 2.ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำส่วนใหญ่ไม่รับสร้างระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาบ้านที่ผู้บริโภคเลือกปลูกสร้างมากที่สุด และประการสุดท้ายผู้บริโภคไม่ต้องการแบกภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat 7%) จึงเลือกว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยที่ส่วนใหญ่ก็ไม่อยู่ในระบบภาษี 

       ขณะที่ปริมาณและมูลค่าตลาด “รับสร้างบ้าน” ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดปี 2558 ลดลงเหลือมูลค่าเพียง 1.3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 4.6 พันหน่วยเศษ (เฉลี่ยหน่วยละ 2.8-2.9 ล้านบาท) จากเดิมตลาดรับสร้างบ้านปี 2558 นี้คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือปรับตัวลดลงถึงร้อยละ 20 ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ แข่งขันกันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านจำนวนเกือบ 200 ราย โดยเลือกทำเลแข่งขันอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมากที่สุดหรือมีจำนวนประมาณ 110-120 ราย ขณะที่ในต่างจังหวัดพบว่ามีผู้ประกอบการรับสร้างบ้านแข่งขันอยู่ทุกภูมิภาค โดยภาคกลางและภาคอีสานมีผู้ประกอบการแข่งขันอยู่มากที่สุด อาทิ จังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา ชลบุรี ระยอง นครปฐม ราชบุรี ฯลฯ เป็นต้น

             ที่มา : สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home builders Association: THBA)

การแข่งขันปี 58

      ผลจากเศรษฐกิจประเทศที่ชะลอตัวในปี 2558 ทำให้ภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้าน มีทั้งแบบ “แข่งขันรุนแรง” และ 'แข่งขันเบาบาง' โดยกลุ่มที่แข่งขันกันรุนแรงตลอดปี ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการชั้นนำที่ก่อสร้างด้วยระบบโครงสร้างสำเร็จรูป ซึ่งกลุ่มนี้มีศักยภาพในการผลิตหรือก่อสร้างบ้านได้มากถึง 200-300 หลังต่อปี และเน้นจับกลุ่มลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงเป็นหลัก เช่น กลุ่มแลนดี้โฮม กลุ่มซีคอนโฮม และกลุ่มพีดีเฮ้าส์ (รับสร้างทั่วประเทศ) กลุ่มนี้จึงเน้นทำการตลาดและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดปี หวังกระตุ้นกำลังซื้อและชิงแชร์ส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด

      สำหรับ กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่ยังใช้ระบบแบบเดิมๆ หรือโครงสร้างหล่อในที่ ซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังการผลิตต่อปีไม่มาก ด้วยเพราะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างต่อหน่วยนานกว่า กลุ่มแรกที่ใช้ระบบโครงสร้างสำเร็จรูป โดยพบว่ากลุ่มนี้การแข่งขันไม่คึกคักนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมองเห็นว่าปีนี้กำลังซื้อผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหดตัว กอปรกับต้องรักษาสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ให้ดี จึงตัดลดงบค่าการตลาดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การแข่งขันของกลุ่มนี้อ่อนแรงลงไปมาก หากเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ประกอบการที่ทนฝืนสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ซึมยาวต่อไปไม่ไหว ได้ถอนตัวไปจากธุรกิจรับสร้างบ้านจำนวนหนึ่ง    

คาดการณ์มูลค่าตลาดปี 59

    สมาคมไทยรับสร้างบ้าน คาดการณ์ตลาดรวมรับสร้างบ้านทั่วประเทศในปี 2559 มีแนวโน้มทรงตัวหรืออาจปรับเพิ่มเล็กน้อย คิดเป็นปริมาณและมูลค่ารวม 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 4.6-4.7 พันหน่วย ทั้งนี้ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี สำหรับปัจจัยบวกและลบที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ดูจะมีเพียงการปรับลดลงของราคาน้ำมัน นอกนั้นยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกใดๆ ขณะที่ปัจจัยลบที่ต้องเฝ้าระวังมีอยู่หลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ ภาคธุรกิจส่งออกที่ชะลอตัว ปัญหาภัยแล้ง ราคาสินค้าภาคการเกษตรลดลง และความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อภาวะเศรษฐกิจ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนส่งผลทำให้กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัว ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้รัฐบาลจะพยายามเร่งรัดลงทุนเม็กกะโปรเจ็ค แต่เชื่อว่าคงไม่อาจส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาคธุรกิจให้กลับมาคึกคักได้มากนักในปี 2559 โดยเฉพาะภาคธุรกิจเองก็ยังไม่มั่นใจกับทิศทางและสถานภาพการเมืองของประเทศ จึงทำให้ยังชะลอการลงทุนใหม่ๆ เอาไว้อีกระยะหนึ่ง  

     สำหรับ ในปี 2559 สิ่งที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านควรให้ความสำคัญมากๆ คือการปรับตัว เพื่อให้พร้อมเผชิญกับภัยคุกคามและกำลังซื้อที่เชื่อว่าจะยังไม่ฟื้นตัว ตลอดจนสภาพตลาดรับสร้างบ้านที่มีแนวโน้มว่าจะแข่งขันราคากันรุนแรง รวมถึงควรหาทางสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การพัฒนาระบบก่อสร้างให้สามารถสร้างได้รวดเร็วขึ้น ราคาประหยัด ฯลฯ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคที่มีกำลังซื้อจำกัด แต่มีอำนาจการต่อรองสูง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายหรือกลุ่มธุรกิจ ทั้งในลักษณะธุรกิจเดียวกันและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยอาจรวมกลุ่มกันเป็นชมรม สมาคมการค้า หรือหลายๆ สมาคมรวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและนำไปสู่การเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างกัน หรือขับเคลื่อนธุรกิจรับสร้างบ้านไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

นายกฯ สะท้อนมุมมองและชี้แนะ

     นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ปี 2559 นี้ถือเป็นปีเริ่มต้นของการเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี (Asian Economic Community: AEC) ซึ่งจะเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคาม สำหรับการแข่งขันของทุกภาคธุรกิจ ในส่วนของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านยอมรับว่ายังไม่ชัดเจนนัก หากจะประเมินว่ามีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางใด อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็ไม่ควรประมาทและควรเร่งสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและลดต้นทุนทางการเงิน การสร้างชื่อเสียงองค์กรหรือแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้และยอมรับของผู้บริโภคในวงกว้าง ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้สามารถรับมือกับการแข่งขันของผู้ประกอบการต่างชาติได้ และอาจพัฒนาเป็นโอกาสที่จะได้ร่วมมือกับนักลงทุนข้ามชาติ สำหรับการรุกขยายธุรกิจไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนหรือภูมิภาคอื่นๆ ภายใต้เงื่อนไขการเปิดเสรีทางการค้า นอกจากนี้ บรรดาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านควรตระหนักถึง “การบริหารความเสี่ยง” เพราะการจะรุก-รับกับสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจปี 59 นี้ ปัจจัยที่สำคัญคือความคุ้มค่าในการลงทุน อย่างเช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งเงินลงทุนหรือการใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ ควรคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของธุรกิจหรือองค์กร มิใช่ลงทุนแล้วสูญเปล่าหรือเป็นแค่ไม้ประดับเท่านั้น

      สำหรับ ในปี 2559 นี้ ภารกิจหลักๆ ของสมาคมไทยรับสร้างบ้านนั้น จะเน้นสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคและประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะความเข้าใจที่มีต่อผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมืออาชีพอย่างถูกต้อง ในอดีตธุรกิจรับสร้างบ้านมีปัญหาคือ ผู้บริโภคไม่เข้าใจว่า'รับสร้างบ้าน' กับ'ผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป'แตกต่างกันอย่างไร ในเวลาต่อมากลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพ ได้ทำความเข้าใจกับผู้บริโภคจนเป็นที่เข้าใจ แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความสับสนว่า “รับสร้างบ้านมืออาชีพ” กับ “รับสร้างบ้านทั่วไป” แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่าวันนี้มีผู้ประกอบการ 'รับสร้างบ้าน'เกิดขึ้นและเข้ามาแข่งขันทั่วประเทศจำนวนมาก โดยหาใช่มืออาชีพตัวจริงเสียงจริง เรื่องนี้สมาคมฯ เห็นว่าควรต้องสร้างความชัดเจนและให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคและประชาชนอย่างถูกต้อง เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดและตัดสินใจเลือกใช้บริการด้วยเหตุผล'ราคาต่ำกว่า'ทั้งที่จริงแล้วคุณสมบัติของผู้ประกอบการ รวมถึงลักษณะการให้บริการแตกต่างกันสิ้นเชิง หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ กับสินค้าบริโภคหรืออาหาร ผู้บริโภคควรต้องอ่านฉลากว่ามีรายละเอียดและส่วนผสมอะไรบ้าง เพื่อจะได้คุณภาพสินค้าตรงตามความต้องการมากที่สุดและคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป   

     นอกจากนี้ การสร้างเวทีกลางให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านและที่เกี่ยวข้อง มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้พบกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและประชาชนทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมทั้งต่างจังหวัด ซึ่งสมาคมฯ จะเป็นแกนหลักที่ช่วยสร้างให้เกิดกิจกรรมการตลาดและการขาย รวมถึงขยายการรับรู้ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศหรือในวงกว้างมากขึ้น อย่างเช่น งานมหกรรมสร้างบ้านและวัสดุก่อสร้าง 2559 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 มกราคมนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าฯ อิมแพคเมืองทองธานี ถือเป็นหนึ่งในหลายๆ กิจกรรมของปี 59 ที่สมาคมฯ จัดขึ้น เพื่อจะผลักดันภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านให้ขยายตัวดังที่กล่าวข้างต้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!