- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Sunday, 20 December 2015 22:35
- Hits: 2346
ผู้ประกอบการขอขึ้นราคา 100% รัฐยืนราคาเดิมยันมีบางบริษัททำได้ คลังมึน'บ้านคนจน'จบยาก
แนวหน้า : ปลัดคลังนั่งหัวโต๊ะเรียกประชุมหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง หวังเร่งเดินหน้าโครงการ’บ้านคนจน’แต่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องราคา หลังผู้ประกอบขอขึ้นราคาเป็น 1-1.2 ล้านบาท/ยูนิต จากเดิมที่รัฐตั้งไว้แค่ 5-7 แสนบาท เตรียม นัดประชุมอีกครั้งสัปดาห์หน้า ด้านกรมธนารักษ์ นัดวันพาเอกชนที่สนใจ ลงดูพื้นที่ 5 แปลง ในกทม.ที่จะขึ้นโครงการ
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวง การคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ประชุม ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อทำโครงการบ้านผู้มี รายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้มี การแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และจะมีการรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่ยังสรุปไม่ได้มาประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อสรุปในโครงการนี้ ก่อนที่จะเสนอให้รัฐบาลเห็นชอบต่อไป
สำหรับ การประชุมล่าสุด ทางผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้ขอขยับราคาบ้านหรือ ห้องชุดที่จะสร้างขายให้กับผู้มีรายได้น้อย จากราคาที่รัฐบาลต้องให้อยู่ที่ 5-7 แสนบาท เป็น 1.2 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงการคลังยังไม่ได้สรุปว่าราคาที่ควรเป็นอยู่ที่เท่าไร เพราะที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางรายสร้างบ้านหรือห้องชุดขายในราคา 5-6 แสนบาท ให้กับผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมที่ทางภาคเอกชนดำเนินการเอง
"ขณะนี้กระทรวงการคลังก็ยังคงยืนราคาไว้ที่ 5-7 แสนบาท/หลัง เพราะในราคานี้ก็มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางรายสามารถทำได้ เช่น กรณีของบริษัท แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเมนท์" นายสมชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ให้ความสนใจกับโครงการนี้มาก แม้ว่าจะเป็นโครงการที่ทำเพื่อสังคมมีกำไรน้อย โดยในสัปดาห์หน้ากรมธนารักษ์จะพาเอกชนลงดู ที่ราชพัสดุประมาณ 5 แปลง ในเขตกรุงเทพฯที่จะนำมาดำเนินก่อสร้างโครงการบ้านผู้มี รายได้น้อย ซึ่งคาดว่าเอกชนจะต้องแข่งขัน โดยการประมูลเพื่อความโปร่งใส
นายสมชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือการให้สินเชื่อกับโครงการบ้านคนจน ทั้งสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ และสินเชื่อให้กับ ผู้มีรายได้น้อยนำไปซื้อบ้าน ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมดำเนินการ โดยจะศึกษาอัตราดอกเบี้ย ภาระการผ่อนต่องวด เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อและสามารถผ่อนได้ระยะยาวโดยไม่มีปัญหา ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะทำให้ได้ 2.7 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว เพื่อให้คนรายได้น้อยของประเทศมีโอกาสจะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองให้มากที่สุด
แหล่งข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเข้าร่วมในโครงการบ้านประชารัฐหรือการสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจะทำทั้งปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่ไปสร้างบ้าน และประชาชนที่ต้องการขอสินเชื่อ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจะต้องประสานกับการเคหะแห่งชาติ และ กรมธนารักษ์ในฐานะผู้จัดหาพื้นที่ เช่น พื้นที่ที่อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป้าหมายสร้างบ้าน 2.7 ล้านยูนิต ในราคา 5-6 แสนบาทต่อยูนิต คาดว่าปีแรกจะสร้างได้ 6-7 หมื่นยูนิต คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ ที่ต้องสนับสนุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท และกระทรวงการคลังอาจพิจารณาให้ธนาคารออมสิน เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
วันเดียวกันนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ว่า อยากให้ปีหน้าการดำเนินการโครงการต่างๆ ของรัฐให้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ที่ยังไม่ได้มีการพิจารณาในครม.ครั้งนี้ โดย นายสมคิดระบุว่า ที่ยังไม่นำเสนอในวันนี้เนื่องจาก วันนี้มีวาระให้ครม.พิจารณาหลายเรื่อง ไม่อยากให้เป็นวาระจร ซึ่งจะมีการเสนอเข้าสู่ ครม.ในสัปดาห์หน้าแน่นอน ซึ่งจะชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดในสัปดาห์หน้า ซึ่งยืนยันว่ารูปแบบของ กองทุนจะมีความน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนอย่างแน่นอน
