- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 14 October 2015 11:51
- Hits: 3833
เจแอลแอล สนับสนุนแผนรัฐฯ กระตุ้นภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย
จากการที่มีนักสังเกตการณ์และนักวิเคราะห์จำนวนมากที่มองว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยยังมีทิศทางที่ไม่สดใสในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า รัฐบาลจึงมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือการกระตุ้นภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย ซึ่งมีการเสนอให้มีการออกประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ของราคาประเมิน และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% ของมูลค่าสินเชื่อ ให้เหลือ 0.01% สำหรับค่าธรรมเนียมทั้งสองรายการเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งแม้มาตรการดังกล่าวจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น แต่นับเป็นข่าวดีสำหรับตลาดบ้านและคอนโดมิเนียม ตามการวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์)
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า “แม้มาตรการระยะสั้นที่ได้รับการเสนอดังกล่าว อาจไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดดีมานด์หรือความต้องการใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย แต่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการเร่งการซื้อและโอนบ้าน-คอนโดให้เร็วขึ้น”
นางสุพินท์อธิบายว่า “โครงการบ้านและคอนโดที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จพร้อมให้โอนในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการทำธุรกรรม ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับมูลค่าของบ้านหรือคอนโดที่ซื้อ ดังนั้น การลดค่าธรรมเนียมทั้งสองรายการอาจไม่ได้มีผลมากถึงกับสามารถจูงใจให้ผู้ที่ยังไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้ให้เปลี่ยนมาตัดสินใจซื้อได้”
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอมาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สำหรับโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วและมียูนิตเหลือขาย รวมถึงโครงการที่จะสร้างเสร็จพร้อมให้โอนได้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
“คาดว่าผู้ที่กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดในโครงการเหล่านี้อยู่แล้ว จะเร่งตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการซื้อ” นางสุพินท์กล่าว
“มาตรการที่เสนอนับเป็นแนวทางหนึ่งที่ดีเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยในช่วงที่การซื้อขายชะลอตัว การกระตุ้นให้มีการซื้อและการโอนเร็วขึ้น จะช่วยเสริมความเข้มแข็งทางการเงินให้กับผู้พัฒนาโครงการให้สามารถลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อไปได้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการลงทุนโดยภาคเอกชนที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศต่อไป”
“อย่างไรก็ดี ภาครัฐฯ ควรมีการเร่งพิจารณาโดยเร็ว เนื่องจากเมื่อมีข่าวการเสนอมาตรการกระตุ้นเผยแพร่ต่อสาธารณะแล้ว ทำให้ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจซื้อไว้ก่อน เพื่อรอการประกาศมาตรการกระตุ้นของภาครัฐฯ” นางสุพินท์กล่าว
เกี่ยวกับเจแอลแอล
เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดำเนินธุรกิจบริการและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ใน 80 ประเทศ โดยในประเทศไทย เปิดดำเนินการนับตั้งแต่ปี 2533 และปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีพนักงานกว่า 1,500 คน และสำนักงานในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา