- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 07 October 2015 22:15
- Hits: 1850
สมาคมฯ คาดตลาดรับสร้างบ้านใน Q4/58 ฟื้นตัวจากมาตรการรัฐหนุน หลัง Q3 ชะงักตามกำลังซื้อหด
นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน(THBA) คาดตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีทิศทางและแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ความต้องการในช่วงสามไตรมาสแรกที่ผ่านมาชะลอตัวเกินคาดและเงียบเหงาที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราการเติบโตลดลงจากปีก่อน 20%
"ก่อนหน้านี้สมาคมฯ ประเมินว่า ปริมาณและมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดปี 2558 น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมายังคงชะลอตัว จึงมีความเป็นไปได้ว่ามูลค่าตลาดรับสร้างบ้านรวมปีนี้มีแนวโน้มลดลงกว่า 20% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ หรือเหลือเพียง 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท" นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าว
นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า การที่ยอดขายปีนี้ลดลงอาจเป็นปัญหาสั่นคลอนต่อไปถึงช่วงท้ายปี ซึ่งหากไม่มีปัจจัยบวกใดๆ มาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลาง ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมากขึ้น จากการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่ส่งสัญญาณให้เห็นมากขึ้น ขณะเดียวกันความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อในต่างจังหวัดก็มีการเติบโตแบบชะลอตัว
"แม้จะมีผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านหลังใหม่เพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคสัดส่วน 2 ใน 3 กลับขอยืดเวลาตัดสินใจออกไป หรือไม่พร้อมตัดสินใจในช่วงไตรมาส 3 นี้ เหตุผลเพราะต้องการรอดูแนวโน้มและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศอีกระยะหนึ่ง แต่มีหลาย จังหวัดมีการเติบโตสวนทางเศรษฐกิจ เช่น สุรินทร์ ชลบุรี ระยอง ราชบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลา ฯลฯ เป็นต้น" นายสิทธิพร กล่าว
ขณะที่บรรยากาศการแข่งขันของผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงสามไตรมาสแรกไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา รวมทั้งผู้บริโภคเองก็ให้ความสนใจเรื่องการมีที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังใหม่ในช่วงนี้น้อยกว่าปีก่อนๆ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซึมยาว และเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกลางเมืองหลวง กอปรกับผู้นำรัฐบาลก็มีการเปลี่ยนทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ จึงทำให้ทุกๆ ฝ่ายชะลอดูทิศทางและแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้บรรยากาศแข่งขันเงียบเหงา และกำลังซื้อชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและสองไตรมาสที่แล้ว
นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้คาดว่าผู้ประกอบการที่แข่งขันกันอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำตลาดหรือ Top 5 คงไม่หยุดนิ่งและน่าจะออกมาจุดพลุการตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อส่งท้ายปี แน่นอนว่าต่างหวังเร่งกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคที่อั้นอยู่เป็นสำคัญ โดยมีเส้นชัยอยู่ที่ตัวเลขเป้ายอดขายตลอดปี 2558 ที่แต่ละค่ายตั้งไว้ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ตัวเลขยอดขายยังต่ำกว่าเป้าไม่น้อย ดังนั้นตลาดรับสร้างบ้านโค้งสุดท้าย จึงน่าจับตามองการแข่งขันของผู้ประกอบการว่าจะมีกี่รายที่เข้าเส้นชัยได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
โดยภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2558 ชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจประเทศ ส่งผลให้การแข่งขันแย่งชิงยอดขายที่มีอยู่จำกัดเป็นไปอย่างดุเดือด สำหรับการปรับตัวของผู้ประกอบการรายเล็กรายกลางที่แข่งขันอยู่ในเขตกรุงเทพฯ นั้นหากเป็นการขยายสาขาออกไปในต่างจังหวัดเพื่อหวังเพิ่มยอดขายคงเป็นเรื่องยาก สิ่งที่แนะนำ คือ ควรขยายสู่ตลาดใหม่หรือกลุ่มลูกค้าใหม่แทน อาทิเช่น รับสร้างอพาร์ทเม้นท์ อาคารพาณิชย์ เพื่อโอกาสในการสร้างยอดขายและรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะตลาดรับสร้างอาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน นักลงทุนต่างหันมาให้ความสำคัญกับรูปแบบหรือดีไซน์ และคุณภาพของสินค้ามากขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านน่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าผู้รับจ้างรายย่อยๆ สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มผู้นำที่มีศักยภาพพอ แนะว่าการขยายสาขาออกไปยังภูมิภาค จะเป็นทั้งการลดความเสี่ยงและขยายโอกาสในอนาคต ที่สำคัญจะได้ร่วมกันพัฒนาตลาดรวมรับสร้างบ้าน ให้เป็นที่ยอมรับและขยายออกไปในวงกว้างออกไปทั่วประเทศดังที่เคยประกาศกันไว้
นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ปัจจัยหนุนตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มาจากผลสำรวจเมื่อช่วงต้นปี 2558 พบว่าผู้บริโภคมีแผนจะสร้างบ้านหลังใหม่ในช่วงไตรมาส 4 มากที่สุด หรือมีสัดส่วน 38% อีกปัจจัยมาการทำงานของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ออกมาปลุกความเชื่อมั่นผู้บริโภคและประชาชน พร้อมๆ กับผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาอย่างมีทิศทางและเป็นรูปธรรมชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่มาเสริมให้ภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน ฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ และต่อเนื่องถึงต้นปี 2559 ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเร่งปรับตัวโดยเร็วที่จะโฟกัสและเข้าถึงกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง หรือออกสินค้าใหม่เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดใหม่ เช่น รับสร้างอพาร์ทเม้นท์ อาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องสร้างหารายได้ ฯลฯ เป็นต้น